เยี่ยมร้าน Thai SELECT เพิ่มความมั่นใจนักท่องเที่ยวหลังเปิดประเทศ

ร้อยเอ็ด 7 พ.ค. – รมช.พาณิชย์ ลงพื้นที่ 3 จังหวัดภาคอีสาน ตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้าน Thai SELECT หวังสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภค ยกระดับมาตรฐานคุณภาพร้านอาหารไทยให้มีมาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ล่าสุดมีร้าน Thai SELECT ทั่วประเทศ 1,000 ร้าน และมีโอกาสเพิ่มขึ้นได้อีกแน่ เนื่องจากชาวต่างชาตินิยมกินร้านอาหารไทยเพิ่มมากขึ้น


นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 5-7 พฤษภาคม 2565 ได้ลงพื้นที่ จ.อำนาจเจริญ ยโสธร และร้อยเอ็ด ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อปฏิบัติภารกิจหลากหลายด้าน เช่น ติดตามการดำเนินโครงการประกันรายได้เกษตรกร การดำเนินงานส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการค้ารายย่อย/เกษตรกร การพัฒนาร้านค้าส่ง-ปลีก สู่การเป็นสมาร์ทโชวห่วย ฯลฯ รวมทั้งตรวจเยี่ยมผู้ประกอบการร้านอาหาร Thai SELECT รับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะในการพัฒนาร้านอาหารไทย ภายใต้ตราสัญลักษณ์ Thai SELECT เพื่อยกระดับมาตรฐานคุณภาพร้านอาหารไทยให้มีคุณภาพ รวมถึงช่วยประชาสัมพันธ์ร้านอาหารให้เป็นที่รู้จัก สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จะเป็นจุดขายสำคัญที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และเพิ่มรายได้ให้กับร้านอาหารในสถานการณ์เช่นนี้

ทั้งนี้ จากการพูดคุยกับเจ้าของร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก เพราะไม่สามารถเปิดให้ผู้บริโภคเข้ามารับประทานอาหารในร้านได้ จะเน้นการให้บริการแบบเดลิเวอรีเป็นหลัก ซึ่งเมื่อภาครัฐมีการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ลง ทำให้ร้านสามารถเปิดให้บริการได้อีกครั้ง แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบของทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีผู้บริโภคเข้ามารับประทานอาหารในร้านมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงให้บริการแบบเดลิเวอรีด้วย เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเริ่มเปลี่ยนไป นิยมหันมาสั่งอาหารผ่านระบบเดลิเวอรีมากขึ้น นับเป็นการปรับตัวที่สำคัญของวงการธุรกิจร้านอาหารไทย และจะกลายเป็นช่องทางการสร้างรายได้หลักของร้านอาหาร ทั้งในปัจจุบันและอนาคต


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งส่งเสริมผู้ประกอบการร้านอาหารไทยให้สามารถยกระดับคุณภาพงานบริการ และให้ความสำคัญในการรักษามาตรฐานอาหารไทย ทั้งด้านการใช้วัตถุดิบของไทย รสชาติ ความสะอาด บริการ และบรรยากาศภายในร้าน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการ จะได้สัมผัสรสชาติอาหารแบบไทยแท้ ตามเจตนารมณ์ของตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากการดำเนินงานที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหน่วยงานพันธมิตร ทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามาช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งในด้านการตลาด และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการร้านอาหารมีโอกาสสร้างรายได้ที่มั่นคง และสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้มากขึ้น

ปัจจุบันมีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ตั้งแต่ปี 2561-2564 จำนวน 1,000 ร้าน แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 249 ร้าน ภาคเหนือ 164 ร้าน ภาคกลาง 256 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 123 ร้าน ภาคใต้ 153 ร้าน และภาคตะวันออก 55 ร้าน ทั้งนี้ แบ่งเป็นประเภทได้ ดังนี้ Thai SELECT SIGNATURE จำนวน 11 ร้าน Thai SELECT CLASSIC จำนวน 916 ร้าน และ Thai SELECT UNIQUE จำนวน 73 ร้าน (ข้อมูล ณ วันที่ 29 เมษายน 2565) ร้านอาหารที่สนใจเข้ารับการประเมินเพื่อรับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองธุรกิจบริการ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทรศัพท์ 02 547 5954 e-Mail : thaiselectdbd@gmail.com สายด่วน 1570. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ข่าวแนะนำ

อัญเชิญเรือพระที่นั่งกลับพิพิธภัณฑ์

หลังสร้างความตราตรึงให้กับชาวไทยและคนทั้งโลก กับความงดงามของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค กองทัพเรือ และกรมศิลปากร เริ่มอัญเชิญเรือพระที่นั่ง และเรือพระราชพิธี กลับเข้าสู่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเรือพระราชพิธี ซึ่งแต่ละขั้นตอนต้องใช้ความละเอียด รอบคอบ เพราะเรือทุกลำถือเป็นสมบัติล้ำค่าของแผ่นดิน

ย้อนรอยเส้นทางชีวิต “บิ๊กโจ๊ก”

เป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วที่เส้นทางตำรวจของ “บิ๊กโจ๊ก” พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล ต้องยุติลง หลังถูกให้ออกจากราชการไว้ก่อน กรณีพัวพันเว็บพนันออนไลน์ จากนี้ชะตาชีวิต “บิ๊กโจ๊ก” ขึ้นอยู่กับ ป.ป.ช. ว่าจะได้กลับมาสวมชุดตำรวจอีกหรือไม่

“ปานเทพ” เปิดหลักฐานสัญญาชัด 71 ล้านเป็นชื่อ “มาดามอ้อย”

“อ.ปานเทพ” เปิดหลักฐานหนังสือสัญญาบอกชัด 71 ล้านบาท เป็นชื่อ “มาดามอ้อย” เปิด 3 รายชื่อให้เร่งตรวจสอบ หวั่นโยกย้ายทรัพย์สิน