กรุงเทพฯ 5 พ.ค. – “เฉลิมชัย-ประภัตร” ร่วมงานวันสถาปนากรมปศุสัตว์ ครบรอบ 80 ปี ย้ำให้ยืนเคียงข้างภาคปศุสัตว์ไทย หนุนการวิจัยและพัฒนานวัตกรรม ตลอดจนยกระดับผู้เลี้ยงสัตว์รายย่อย สร้างรายได้เพิ่มมูลค่าสินค้าปศุสัตว์ไทยอย่างยั่งยืน
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานวันคล้ายวันสถาปนากรมปศุสัตว์ ครบรอบ 80 ปี วันที่ 5 พฤษภาคม 2565 ภายใต้แนวคิด “ย้อนรำลึก 8 ทศวรรษ 80 ปี วิถีชาวปศุสัตว์สู่การพัฒนาประเทศ สืบสานงานตามพระราชปณิธานตามรอยพ่อของแผ่นดิน” โดยมี นายประภัตร โพธสุธน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าร่วมงาน
นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ภาคเกษตรถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ รัฐบาลมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาภาคปศุสัตว์ให้มีความเจริญก้าวหน้า โดยมุ่งเน้นการสร้างความเข้มแข็งให้แก่เกษตรกรรายย่อยในการพัฒนาอาชีพการเลี้ยงสัตว์ รวมทั้งพัฒนาระบบการผลิตและการตลาด ตลอดจนพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน เพื่อเพิ่มมูลค่าด้านการตลาด และสนับสนุนการส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังต่างประเทศ ซึ่งช่วยให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์มีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถดำรงชีพได้อย่างมั่นคงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน ซึ่งตลอดระยะเวลา 8 ทศวรรษที่ผ่านมา กรมปศุสัตว์มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านปศุสัตว์ของประเทศให้มีความเจริญก้าวหน้า โดยบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนงานอื่นๆ ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยยึดมั่นในประโยชน์สุขของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการร่วมขับเคลื่อนงานพัฒนาสังคมไทยเพื่อส่วนรวม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์การดำเนินโครงการสัตว์ปลอดโรค คนปลอดภัย จากโรคพิษสุนัขบ้า ตามพระปณิธาน ศาสตราจารย์ ดร.สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พ.ศ. 2564 – 2568 ให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม
ทั้งนี้กรมปศุสัตว์เป็นหน่วยงานสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนางานด้านปศุสัตว์ให้มีความเจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพได้มาตรฐานและปลอดภัยสำหรับการบริโภคทั้งภายในประเทศและส่งออกสินค้าปศุสัตว์ไปยังต่างประเทศ จึงถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างความเข้มแข็งของภาคเกษตรไทย ซึ่งการดำเนินงานของกรมปศุสัตว์ล้วนเป็นการตอบสนองนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี 2565 ตามวิสัยทัศน์ “ภาคเกษตรมั่นคง เกษตรกรมั่งคั่ง ทรัพยากรเกษตรยั่งยืน” ที่มีแนวทางการขับเคลื่อนที่มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตเกษตรกรให้มีความมั่นคง พัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เน้นส่งเสริมการผลิตสินค้าเกษตรที่มีคุณภาพตลอดห่วงโซ่อุปทานให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และส่งเสริมงานวิจัย เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการบริหารจัดการทรัพยากรการเกษตรและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน
นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์กล่าวว่า ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจหลากหลาย อาทิ พิธีไถ่ชีวิตโค กระบือจำนวนทั้งสิ้น 80 ตัว โดยนำไปมอบให้เกษตรกรในโครงการธนาคารโค – กระบือ เพื่อเกษตรกรตามพระราชดําริในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สุพรรณบุรี และนครราชสีมา มีการมอบโล่รางวัลเชิดชูเกียรติเช่น รางวัลคนดีศรีปศุสัตว์ รางวัล DLD Award รางวัลโครงการธนาคารโค – กระบือ เพื่อเกษตรกร ตามพระราชดำริดีเด่น
อีกทั้งยังมีนิทรรศการและนวัตกรรมกรมปศุสัตว์ ชมนิทรรศการ 8 ทศวรรษ วิถีชาวปศุสัตว์สู่การพัฒนาประเทศเช่น ลดต้นทุนอาหารสัตว์ ทางรอดแก้วิกฤติวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาแพงของสำนักพัฒนาอาหารสัตว์ IFarmer แอพพลิเคชั่นสำหรับการจัดการฟาร์มโคนมของสำนักพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพการผลิตปศุสัตว์ การผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับป้องกันโรคลัมปีสกินของสำนักเทคโนโลยีชีวภัณฑ์สัตว์ ระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ด้านอาหารสัตว์และวัตถุอันตรายด้านการปศุสัตว์ ของกองควบคุมอาหารและยาสัตว์ การตรวจประเมินสถานประกอบการเพื่อการส่งออก (Human food และPet food) ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโคโรนาไวรัส (COVID-19) โดยการตรวจประเมินแบบระยะไกล (Remote audit) ของสำนักพัฒนาระบบและรับรองมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์
นอกจากนี้ยังมีการจำหน่ายสินค้าปศุสัตว์คุณภาพดีราคาถูก ทุกอย่าง 80 บาทเช่น หมูเนื้อแดง สามชั้น หมูสไลด์ ซี่โครงหมูในราคากิโลกรัมละ 80 บาท ไข่สดจากฟาร์มมาตรฐานคละเบอร์แผงละ 80 บาท นมโคแท้ 100% 2 แพ็ค 80 บาทเพื่อช่วยเหลือด้านค่าครองชีพแก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย