บอร์ดตลาดทุน เห็นชอบร่างแผนพัฒนาฯ ปี 65-70

กรุงเทพฯ 26 เม.ย.-บอร์ดตลาดทุน เห็นชอบร่างแผนพัฒนาฯ ปี 65-70 เดินหน้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล รองรับ Mega Trends และนโยบาย “พลิกฟื้นประเทศไทย” ของภาครัฐ


นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย ครั้งที่ 1/2565 วานนิ้ ( 25 เม.ย.) ที่ประชุมเห็นชอบทิศทางของร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 (ปี 2565 – 2570) ภายใต้วิสัยทัศน์ “ตลาดทุน (กำลัง 4) เพื่อการพลิกฟื้นทางเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างแข็งแรง”

โดยวิสัยทัศน์ทั้ง 4 ด้าน ประกอบด้วย (1) สานต่อตลาดทุนให้เป็นผู้นำระดับภูมิภาค (2) ส่งเสริมทุกภาคส่วนให้เติบโตอย่างยั่งยืน (3) สนับสนุนทุกภาคส่วนให้ปรับสู่เศรษฐกิจดิจิทัล และ (4) สร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่ดี (Financial well-being)


ทั้งนี้ ร่างแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4 มีพันธกิจครอบคลุม 5 ด้าน ได้แก่ (1) ตลาดทุนเพื่อการแข่งขันได้ (2) ตลาดทุนเพื่อความยั่งยืน (3) ตลาดทุนดิจิทัล (4) ตลาดทุนเพื่อความมั่นคงทางการเงิน และ (5) ตลาดทุนที่ทุกฝ่ายได้ใช้ประโยชน์/เข้าถึงได้

สำหรับยุทธศาสตร์ที่มีความครอบคลุมแนวโน้มและทิศทางการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจโลก (Mega Trends) ที่จะส่งผลกระทบต่อระบบการกำกับดูแลและพัฒนาภาคตลาดทุนของประเทศในอนาคต นำไปสู่การมีแผนพัฒนาตลาดทุนในระยะต่อไป ที่จะเข้ามามีบทบาทพัฒนาตลาดทุนไทยในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพใน 5 ด้าน ได้แก่

  • ยุทธศาสตร์ที่ 1 การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของทุกภาคส่วนในตลาดทุนไทยและระบบเศรษฐกิจ (Competitiveness)
  • ยุทธศาสตร์ที่ 2 ตลาดทุนที่เอื้อให้ทุกภาคส่วนสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้ (Accessibility)
  • ยุทธศาสตร์ที่ 3 การส่งเสริม ประยุกต์ และใช้เทคโนโลยีและดิจิทัลในตลาดทุน (Digitalization)
  • ยุทธศาสตร์ที่ 4 ตลาดทุนไทยส่งเสริมความยั่งยืนของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องและระบบเศรษฐกิจในระยะยาว (Sustainable Capital Market)
  • ยุทธศาสตร์ที่ 5 การสร้างผลลัพธ์ทางการเงินที่ดี รวมถึงการสร้างโอกาสในการลงทุนใหม่ โดยมีความเสี่ยงอย่างเหมาะสม (Financial well-being) ทั้งนี้ ได้มีการตอบ 9 คำถามต่อการก้าวขึ้นสู่แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 4

นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาให้ความเห็นชอบร่างรายงานสรุปผลการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 60 – 64) ในระยะสิ้นแผน เพื่อกระทรวงการคลังจะได้นำเสนอรายงานดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป โดยการดำเนินงานแบ่งเป็น 17 มาตรการย่อย และแผนงานสนับสนุน 64 แผนงาน โดยมีแผนงานที่ดำเนินการแล้วเสร็จ จำนวน 45 แผนงาน (70% ของทั้งหมด) แผนงานที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ 19 แผนงาน โดยสรุปการดำเนินการตามแผนพัฒนาตลาดทุนไทยเป็นตามเป้าหมายส่วนใหญ่ ส่วนที่ต่ำกว่าเป้าหมายบางส่วนก็เป็นผลจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19


ในส่วนการแก้ไขอุปสรรคและข้อติดขัดด้านกฎหมาย โดยในระยะเวลา 5 ปี ภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีการเสนอการปรับปรุงกฎหมายเข้าสู่กระบวนการพิจารณาหลายฉบับ แม้ว่ากฎหมายบางฉบับจะยังไม่มีผลบังคับใช้ได้ทันในช่วงเวลาของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 แต่ก็มีความคืบหน้าตามกระบวนการนิติบัญญัติอย่างต่อเนื่อง โดยกฎหมายที่มีผลบังคับใช้แล้ว ได้แก่ การแก้ไขพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ส่วนกฎหมายที่อยู่ระหว่างพิจารณา เช่น การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ การแก้ไขพ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด และการแก้ไขพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต

ที่ประชุมยังได้มีการสรุปมาตรการทางการเงินและตลาดทุนที่มีส่วนในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และมาตรการที่จะดำเนินการในระยะต่อไป

ในส่วนมาตรการฯ ซึ่งเป็นการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ องค์กร และภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้องกับภาคการเงินและตลาดทุน เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อมในภาคบริการ ภาคอุตสาหกรรม การค้าระหว่างประเทศ ตลอดจนผู้ประกอบการและประชาชน รวมถึงความผันผวนทางการเงินและตลาดทุน และการดำเนินมาตรการเพื่อรองรับนโยบายของภาครัฐในระยะต่อไป ภายใต้หลักการ “พลิกฟื้นประเทศไทย”

ทั้งนี้ มาตรการฯ จะรวมเป็นส่วนหนึ่งของรายงานสรุปผลของแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 โดยการรายงานสรุปมาตรการฯ แบ่งออกเป็นมาตรการที่ดำเนินการแล้วในปี 63 – 64 และมาตรการที่จะดำเนินการในปี 65 และในระยะต่อไป สรุปได้ ดังนี้

มาตรการที่ดำเนินการแล้วในปี 63 – 64 ประกอบด้วย

          (1) มาตรการทางภาษี อาทิ มาตรการสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มาตรการลดภาระดอกเบี้ยจ่ายของผู้ประกอบการ SMEs เป็นต้น

          (2) มาตรการเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดทุนตลาดเงิน อาทิ มาตรการกองทุนเพื่อรักษาสภาพคล่องของการระดมทุนในตลาดตราสารหนี้ (BSF) มาตรการสนับสนุนสภาพคล่องให้กับสถาบันที่ให้ความช่วยเหลือแก่กองทุนรวมตราสารหนี้ (MFLF) ที่ประสบปัญหาจากการเร่งไถ่ถอนของนักลงทุน มาตรการ Circuit Breaker Ceiling & Floor และ Short Selling เป็นต้น

          (3) มาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพอิสระ อาทิ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ มาตรการพักทรัพย์ พักหนี้ โครงการจับคู่กู้เงิน เป็นต้น

          (4) มาตรการเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อผู้ร่วมตลาด อาทิ กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในตราสารหนี้ ที่มีความเสี่ยงสูง (high yield bond fund) เพื่อช่วยเหลือผู้ออกตราสารหนี้ที่ประสบปัญหาสภาพคล่อง Private REITs เพื่อช่วยผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ให้สามารถขายอสังหาริมทรัพย์เพื่อระดมทุนได้เร็วขึ้น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีข้อกำหนดขายคืน (REITs with Buy Back Condition) เพื่อช่วยผู้ประกอบการหรือเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตโรคโควิด-19 เป็นต้น

          (5) มาตรการด้านการประกันภัย ประกอบด้วยมาตรการบรรเทาผลกระทบสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ และมาตรการบรรเทาผลกระทบสำหรับบริษัทประกันภัยและคนกลางประกันภัย

สำหรับมาตรการที่จะดำเนินการในปี 65 และในระยะต่อไป ภาครัฐและหน่วยงานภาคีเครือข่ายมีแผนการที่จะดำเนินมาตรการใน 5 ด้านข้างต้นในปี 65 และในระยะต่อไป เพื่อรองรับนโยบาย “พลิกฟื้นประเทศไทย” ของภาครัฐ โดยเป็นการสานต่อมาตรการที่ดำเนินการอยู่แล้วเดิมเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับการฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการออกมาตรการใหม่ ๆ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของภาคการเงิน ตลาดทุน และระบบเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน อาทิ การขยายระยะเวลามาตรการสนับสนุนการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการให้ REIT Buy-backมาตรการ BSF มาตรการทางการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและผู้ประกอบอาชีพอิสระ มาตรการช่วยเหลือลูกจ้างนายจ้างที่ประสบภาวะวิกฤตด้วยการขยายเวลาการนำส่งเงินเข้ากองทุนเลี้ยงชีพ ตลอดจนการติดตามและเฝ้าระวังความเสี่ยงเชิงระบบอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น. -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ “ครม.แพทองธาร 1/2” นายกฯ ควบเก้าอี้ วธ.

กรุงเทพฯ 1 ก.ค.- โปรดเกล้าฯ ครม.ชุดใหม่ “แพทองธาร 1/2” นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม ขณะที่ “ภูมิธรรม” นั่งรองนายกฯ ควบ มท.1 วันนี้ (1 ก.ค.) เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ ให้รัฐมนตรีพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี  พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 16 สิงหาคม พุทธศักราช 2567 แล้ว นั้น บัดนี้ นายกรัฐมนตรี ได้ กราบบังคมทูลว่า ได้มีรัฐมนตรีลาออกบางตำแหน่ง สมควรแต่งตั้งรัฐมนตรีแทนตำแหน่งที่ว่าง และปรังปรุงรัฐมนตรีบางตำแหน่งเพื่อความเหมาะสม และบังเกิดประโยชน์ต่อการบริหารราชการแผ่นดิน โดยอาศัยอำนาจ ตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รัฐมนตรีพ้น จากความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี ดังต่อไปนี้ และให้แต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป […]

คุมได้แล้วเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชู ตาย 8 สูญหาย 2

สระบุรี 1 ก.ค. – เหตุเพลิงไหม้โรงงานผลิตทิชชูใน อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงไว้ได้ พบผู้เสียชีวิตแล้ว 8 ราย สูญหาย 2 ราย เบื้องต้นอาคารโรงงานเสียหายทั้งหมด ส่วนสาเหตุต้องรอกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบอีกครั้ง ช่วงเที่ยงวานนี้ (30 มิ.ย.) เกิดเพลิงไหม้อย่างรุนแรงในโรงงานผลิตทิชชู ตั้งอยู่ภายในนิคมเหมราช อ.หนองแค จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ต้องระดมรถดับเพลิงกว่า 50 คัน ช่วยควบคุมสถานการณ์ พบเพลิงลุกไหม้ภายในโรงงาน และได้รับแจ้งว่ามีพนักงานอยู่ภายในสำนักงานชั้น 2 และชั้น 3 รวม 10 คน ยังไม่สามารถออกมาได้ จึงเร่งฉีดน้ำสกัด แต่เนื่องจากจุดที่เกิดเพลิงไหม้มีกองกระดาษซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี กระทั่งเวลาล่วงเลยไปกว่า 2 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด จากนั้นได้รับรายงานว่ามีผู้สูญหาย 10 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน ก่อนเกิดเหตุทำงานอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของโรงงานและเป็นห้องกระจก แต่จุดเกิดเพลิงไหม้อยู่ชั้นล่าง อาจไม่ได้ยินหรือไม่รู้ว่าเกิดเพลิงไหม้ ซึ่งจุดที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุดคือชั้น 2 […]