หอการค้าไทยขอรัฐบาลใช้นโยบายภาครัฐกระตุ้นรากหญ้าไปก่อนถึงสิ้นปี

กรุงเทพฯ 4 เม.ย.-ประธานหอการค้าไทยขอให้รัฐบาลใช้นโยบายภาครัฐ เช่น คนละครึ่งต่อไปถึงสิ้นปีนี้ ย้ำช่วยเหลือระดับรากหญ้าให้เข้มแข็ง เชื่อหากนำเงินที่เหลือ 70,000 ล้านบาทกระตุ้น เศรษฐกิจไทยปีนี้โตได้แน่ร้อยละ 3.5 ขึ้นไป พร้อมวอนรัฐทบทวนแนวทางจัดเก็บภาษีที่ดินใหม่ ชี้อาจซ้ำเติมภาคเอกชนโดยเฉพาะในเมืองมากเกินไป พร้อมขานรับใครเป็นผู้ว่า กทม. ทำงานร่วมกันได้ไม่มีปัญหา


นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยกล่าวว่า การขับเคลื่อนนโยบายของหอการค้าไทย ยังคงร่วมทำงานกับภาครัฐเช่นเดิม ซึ่งเศรษฐกิจของประเทศขณะนี้ ยังคงได้รับผลกระทบใหญ่ จากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ที่มีผลต่อราคาพลังงาน ทำให้ราคาสินค้าหลายรายการของไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น แม้มาตรการในการช่วยเหลือประชาชนของรัฐบาลเวลานี้ มีส่วนในการลดภาระค่าครองชีพ แต่ไม่ได้เป็นการเพิ่มรายได้และกระตุ้นเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวเท่าที่ควร จำเป็นจะต้องมีมาตรการเพิ่มเติม โดยเฉพาะในการเตรียมตัวเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว และประกาศให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น โดยเฉพาะเร่งเดินหน้าฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนให้ครบ 70% เพื่อจะได้เปิดประเทศเร็วขึ้นตั้งแต่ 1 พฤษภาคมนี้ โดยพร้อมสนับสนุนการทำงาน ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงระหว่างการค้ากับการท่องเที่ยว

ทั้งนี้ ภาครัฐควรต่อโครงการ “คนละครึ่ง” ไปจนถึงสิ้นปี ส่วนวงเงินในแต่ละเฟสนั้น อย่างน้อยเฟสละ 1,500 บาทตามเดิม เพราะเป็นมาตรการที่ประชาชนได้ประโยชน์จริง และยังช่วยไปถึงร้านค้าเล็กๆ ซึ่งเชื่อว่าจะลดแรงกดดันในการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ด้วย ขณะเดียวกัน เพื่อเตรียมพร้อมรองรับความไม่แน่นอนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก รัฐบาล ต้องเร่งขยายเพดานหนี้สาธารณะ เพราะขณะนี้เพดานหนี้ใกลเต็ม 60% แล้ว เพื่อให้ผ่านสภาฯ ขยายเป็น 70% โดยเร็ว เพราะเงินกู้เดิมเหลือประมาณ 7 หมื่นล้านบาท ที่จะต้องเร่งนำมาใช้จ่ายเพิ่มเติม ผ่านมาตรการต่างๆ เพื่อให้เศรษฐกิจ ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 3.5% ซึ่งขณะนี้ อยู่ในช่วงสถานการณ์ที่ไม่ปกติ จึงต้องเตรียมเม็ดเงินไว้รับมือกับวิกฤตที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต


นอกจากนี้ ภาคเอกชนขอขยายเวลาการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างแบบเต็มจำนวนออกไปก่อน อาจจะใช้วิธีการทยอยขึ้นเป็นขั้นบันได เพราะหลายธุรกิจอาจได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม เนื่องจากภาษีใหม่เป็นการประเมินจากพื้นที่ โดยไม่ได้พิจารณาจากรายได้ที่ยังไม่กลับมา รวมไปถึงประชาชนเอง รายได้ก็ยังไม่กลับมาปกติ ก็จะมีภาระเพิ่มขึ้น เงินในกระเป๋าที่หายไปจะกระทบกำลังซื้อ

ส่วนประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำนั้น โดยจะต้องใช้กลไก ของ ไตรภาคีแต่ละจังหวัด เป็นผู้พิจารณาเป็นหลัก ไม่งั้นจะกลายเป็นความผิดพลาด ที่กระทบกับเศรษฐกิจโดยรวม เพราะที่ผ่านมา มีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอัตราเดียวกันทั่วประเทศ จึงต้องดูความจำเป็นรายจังหวัด ขณะเดียวกันจำเป็นต้องออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ  รวมทั้งรัฐบาล ต้องเข้าไปดูแนวทางเยียวยากรณีการสั่งตรึงราคาสินค้าด้วย และขณะนี้อยู่ในช่วงการหาเสียงของผู้สมัครในตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในช่วงหาเสียงและไม่ว่าใครจะได้รับการคัดเลือกมาดำรงตำแหน่งนี้ ภาคเอกชนพร้อมที่จะทำงานร่วมกับผู้ว่า กทม คนใหม่อย่างเต็มที

นายวิชัย  อัศรัสกร รองประธานกรรมการหอการค้าไทยกล่าวว่าในมุมของภาคเอกชน ขณะนี้ ต้นทุนการผลิตสินค้าอื่นๆ ก็ปรับขึ้นทั้งราคาน้ำมัน วัตถุดิบ หากมีการขึ้นค่าแรงงาน เข้ามาเพิ่มเติมอีก ผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอี อาจจะไปไม่รอด ภาครัฐ จึงจำเป็นจะต้องออกมาตรการมากระตุ้นกำลังซื้อ รวมถึงการควบคุมราคาสินค้าที่ทำได้ทันที  ส่วนในระยะต่อไป กระบวนการผลิตหากไปได้ตามปกติ หรือ มีนวัตกรรมมาพัฒนาให้ต้นทุนหารผลิตต่อหน่วยลดลง ซึ่งเป็นไปตามปกติของภาคธุรกิจ  อาจจะมีโอกาสที่ ร่วมกันพิจารณา 3 ฝ่าย ผ่าน ไตรภาคี ก็อาจจะมีโอกาสปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้ในอนาคต แต่มองว่า ขณะนี้ ยังไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ เพราะภาคธุรกิจกำลังถูกกระทบหนักจากปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบร่างพลทหารรัวยิงชาวบ้านแล้ว คาดจบชีวิตตัวเองในป่า

15 ส.ค.- พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. พบร่างพลทหารที่ก่อเหตุยิงชาวบ้านแล้ว คาดใช้อาวุธปืนจบชีวิตตัวเอง ห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 200 เมตร ซึ่งเป็นป่าติดกับคลองส่งน้ำ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลียร์พื้นที่ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาส่งพิสูจน์ทราบต่อไป ด้านครอบครัวที่มาเฝ้ารอ ต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น – สำนักข่าวไทย

ทบ.แจงเหตุทหารรัวยิงชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ยังคุมตัวไม่ได้

15 ส.ค.- กองทัพบกแจงเหตุทหารหนีออกจากหน่วยพร้อมอาวุธปืน รัวยิงกลางดึก ชาวบ้านกาบเชิง เจ็บ 2 ราย จนท.เร่งล่า ยังไม่พบตัว หากประชาชนพบเห็นรีบแจ้งทันที กองทัพบกชี้แจงเหตุการณ์ใช้อาวุธปืนในพื้นที่อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 เวลา 00.45 น. กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ยินเสียงปืนดังเป็นชุด จำนวน 10 นัด บริเวณถนนข้างวัดบ้านเขื่อนแก้ว อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ต่อมาเวลา 00.54 น. ได้ยินเสียงปืนเพิ่มอีก 2 นัด จากการตรวจสอบกำลังพลและอาวุธประจำกาย พบว่า พลทหารรัฐภูมิ เทพศิริ สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ออกจากที่ตั้งโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมอาวุธปืนเล็กยาวและกระสุนจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้แก่ ผู้บาดเจ็บทั้งสองรายได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและส่งโรงพยาบาลกาบเชิง ก่อนส่งต่อรักษาตามความเหมาะสม โดยขณะนี้พ้นขีดอันตรายแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจร่วมกับกำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 1623 ได้ตรวจสอบพื้นที่และสอบถามพยาน เบื้องต้นคาดว่าพลทหารดังกล่าวอาจเป็นผู้ก่อเหตุ […]

แจ้งจับ “ภูมิธรรม” ปล่อยกัมพูชารุกราน ทำไทยเสียเปรียบ

ขอนแก่น 15 ส.ค. – องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” รักษาการนายกฯ ไม่ทำหน้าที่ตัวเอง ปล่อยกัมพูชารุกรานไทย องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน เพื่อเอาผิด นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในข้อหาหรือฐานความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.119, ม.120, ม.124 ม.157 และมาตราอื่นที่เกี่ยวข้อง นายตุลย์ ประเสริฐศิลป์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่นภาคพลเมืองจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า การมาร้องทุกข์กล่าวโทษครั้งนี้ ด้วยเรื่องเอกราชและอธิปไตยของชาติเป็นสิ่งสำคัญสูงสุด แต่รักษาการนายกฯ ไม่ได้ทำหน้าที่ตัวเอง โดยปล่อยปละละเลยทำให้ต่างชาติรุกรานประเทศไทย ต้องปกป้องรักษาเอกราชและอธิปไตยของชาติให้มั่นคง แต่ที่ทหารขาขาด บาดเจ็บ ประชาชนล้มตายทรัพย์สินเสียหาย คือ ความร้ายแรงของของผู้รักษาการนายกรัฐมนตรีต้องทำและต้องปกป้องให้ได้ แต่ไม่มี มีแต่ไปเข้าข้างศัตรูโดยเฉพาะกัมพูชา เป็นโทษร้ายแรงมาก.-สำนักข่าวไทย

“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท

รัฐสภา 15 ส.ค.-“วีระ” เตือน รัฐบาลควรเลิกนโยบายกึ่งการคลัง ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจ หลังแบกหนี้ 1 ล้านล้านบาท ตั้งคำถามหลายรัฐวิสาหกิจมีผลกำไรดี จะมาตั้งของบอีกทำไม นายวีระ ธีระภัทรานนท์ ในฐานะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในเรื่องของรัฐวิสาหกิจ ว่า ในเอกสารงบประมาณที่เป็นงบประมาณรายจ่าย มาตรา 29 มีรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งของบประมาณรวมกันทั้งสิ้น 79,298 ล้านบาท แต่ค่าใช้จ่ายของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด 1.43 แสนล้านบาท ซึ่งในรัฐวิสาหกิจ 21 แห่งที่ของบประมาณมาตนไม่ค่อยติดใจ เพราะมีรัฐวิสาหกิจจำนวนหนึ่งไม่มีรายได้ อีกส่วนเป็นรัฐวิสาหกิจมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ บางรัฐวิสาหกิจมีหนี้สินจำนวนมาก เช่น ขสมก. การรถไฟแห่งประเทศไทย นายวีระ ฝากไปถึงคนที่ต้องจัดการรัฐวิสาหกิจว่า รัฐวิสาหกิจที่มีปัญหารัฐบาลต้องตัดสินใจให้เด็ดขาดว่า รัฐวิสาหกิจเหล่านั้นคงอยู่ต่อไปในสภาพแบบนั้น หรือ จะดำเนินการแปรรูปให้เอกชนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อไม่ให้เกิดภาระการคลังในอนาคตอย่างที่เป็นอยู่ปัจจุบัน สำหรับกรณี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูกิจการ โดยที่รัฐบาลยังถือหุ้นใหญ่อยู่ประมาณ 40% แต่ไม่มีสถานะภาพเป็นรัฐวิสาหกิจอีกต่อไป […]

ข่าวแนะนำ

ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 : 230

รัฐสภา 15 ส.ค.- ผ่านฉลุย สภาฯ ไฟเขียวงบ 69 เห็นชอบ 257 ต่อ 230 ด้าน ‘พิชัย’ ขอบคุณสภาฯ ยันจะใช้งบให้ตรงตามวัตถุประสงค์โปร่งใส-เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 เป็นประธานการประชุม วาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว โดยมีการตั้งวงเงินงบประมาณ จำนวน 3.78 ล้านล้านบาท ซึ่งที่ประชุมสภาฯ ใช้เวลาอภิปรายตลอด 3 วัน ระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม และลงมติเมื่อเวลา 22.50 น. ผลปรากฏว่า จากจำนวนสมาชิก 487 เสียง เห็นด้วย 257 เสียง ไม่เห็นด้วย 230 เสียง งดออกเสียง 1 […]

พลทหารยิงชาวบ้านเจ็บ 2 ก่อนหนีเข้าป่า จบชีวิตตัวเอง

สุรินทร์ 15 ส.ค. – ตื่นตระหนก เหตุพลทหารที่ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ควงปืนอาวุธประจำกาย ออกมายิงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ก่อนจะหลบหนี และสุดท้ายปลิดชีพตนเอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ ติดตามได้จากรายงานของศูนย์ข่าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ.-สำนักข่าวไทย

ไล่ล่าโจรชิงทอง 123 บาท กลางห้างย่านบางบ่อ

สมุทรปราการ 15 ส.ค. – ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ เรียกประชุมตำรวจที่เกี่ยวข้อง แกะรอยหาเบาะแส ไล่ล่าโจรชิงทองห้างย่านบางบ่อ ยืนยันจำนวนทอง 123 บาท มูลค่ากว่า 6 ล้าน ขณะที่พนักงานยังผวาทุกครั้งที่เห็นคนใส่ชุดไรเดอร์เดินเข้าห้าง จากเหตุการณ์คนร้ายแต่งกายด้วยชุดไรเดอร์ สวมกางกางยีนขายาวสีดำ รองเท้าผ้าใบสีขาว เดินเท้าบุกเดี่ยวมาที่ร้านทอง แล้วชักอาวุธปืนพกแบบออโตเมติก สีบอร์นซ์ ขู่บังคับให้พนักงานขายทองซึ่งเป็นหญิง 3 คน หยิบทองรูปพรรณส่งให้คนร้าย แต่พนักงานขายทองไม่หยิบส่งให้ และหมอบลงกับพื้น คนร้ายจึงกระโดดข้ามตู้ทองด้านหน้าร้าน ไปเลื่อนกระจกตู้ทองด้านหลัง หยิบเอาทองคำรูปพรรณ มีสร้อยข้อมือ หนัก 5 บาท 5 เส้น น้ำหนัก 25 บาท น้ำหนัก 3 บาท 30 เส้น น้ำหนักรวม 90 บาท, หนัก 2 บาท 24 เส้น รวม 48 บาท […]

ย้าย “ลุงพล” มาคุมขังต่อที่เรือนจำกลางนครพนม

15 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ย้ายตัว “ลุงพล” จำเลยคดีน้องชมพู่ ไปควบคุมต่อที่เรือนจำกลางนครพนม ด้าน “ป้าแต๋น” ตามมาเยี่ยมให้กำลังใจสามี บอกเอาหัวใจมาฝาก ยืนยันลุงพลสู้ต่อถึงฎีกา หลังเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์ภาค 4 พิพากษาแก้เพิ่มโทษ นายไชย์พล วิภา หรือ “ลุงพล” จำเลยที่ 1 จาก 20 ปี เป็น 26 ปี และยกฟ้อง นางสมพร หลาบโพธิ์ หรือ “ป้าแต๋น” ในคดีฆ่า เด็กหญิงอรวรรณ หรือน้องชมพู่ อายุ 3 ขวบ หลังหายตัวจากบ้านพัก ขณะนั่งเล่นกับพี่สาวที่บ้าน กกกอก ต.กกตูม อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร เหตุเกิดช่วงเช้าวันที่ 11 พ.ค.2563 ต่อมาจำเลย ได้ยื่นหลักทรัพย์ขอปล่อยตัวชั่วคราว และวานนี้ ศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ประกันตัว […]