เตรียมนำเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในแม่น้ำเจ้าพระยา

กรุงเทพฯ 1 เม.ย.- รมว. วราวุธเผยเตรียมนำเรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อเก็บขยะก่อนไหลลงสู่ทะเล โดยเป็น 1 ในแม่น้ำ 15 สายทั่วโลกที่ได้รับความร่วมมือองค์กร The Ocean Cleanup ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการกำจัดขยะทะเล

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง บริษัท อีโค มารีน จำกัด ผู้ให้บริการด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและองค์กร The Ocean Cleanup ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการกำจัดขยะทะเล ในงาน Fighting Plastic Pollution in Thailand ณทำเนียบเอกอัครราชทูต ราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย 

ทั้งนี้รมว. ทส. กล่าวถ้อยแถลงแสดงความยินดี พร้อมระบุว่า กว่า 2 ปีแล้วที่มีโอกาสหารือกับ Mr. Boyan Slat ผู้ก่อตั้งองค์กร The Ocean Cleanup ในการนำนวัตกรรม “เรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์” (Interceptor) มาช่วยลดปริมาณขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาก่อนที่จะไหลลงสู่ทะเล เรือดักเก็บขยะนี้สามารถเก็บขยะได้วันละ 50,000 – 100,000 ชิ้น ปฏิบัติการได้ตลอด 24 ชั่วโมง 

สำหรับ “เรือดักเก็บขยะพลังงานแสงอาทิตย์” ทั่วโลกมี 15 ลำ โดยแม่น้ำเจ้าพระยาเป็น 1 ในแม่น้ำ 15 สายของโลกที่จะมีนวัตกรรมดังกล่าวมาปฏิบัติการเพื่อลดขยะในแม่น้ำเจ้าพระยาและเสริมสร้างความตระหนักให้กับสาธารณชนในการลดการทิ้งขยะลงแม่น้ำซึ่งจะนำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย

รมว. ทส. กล่าวต่อว่า ย้ำให้กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เข้ามาบทบาทในการสนับสนุนงานด้านจัดการขยะอย่างเป็นระบบร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยเฉพาะการแก้ปัญหามลพิษของขยะพลาสติกซึ่งเป็นปัญหาที่สำคัญของประเทศไทยเนื่องจากขยะจำนวนมากถูกทิ้งลงแม่น้ำ ลำคลอง แล้วไหลลงสู่ทะเล อีกทั้งขยะพลาสติกยังเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีประกาศเป้าหมายของประเทศไทยสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2065 ในที่ประชุม COP 26 ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทาย จึงหวังว่า จะมีการขยายผลการดำเนินงานจากการลงนามในครั้งนี้ต่อไป

ในโอกาสนี้ รมว.ทส. ยังได้ร่วมพูดคุยกับกลุ่มเยาวชนที่มาร่วมกิจกรรมกับ The Ocean Cleanup ที่จัดขึ้นภายในบริเวณทำเนียบเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย โดยได้ชื่นชมที่ทุกคนมีความใส่ใจในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย.-สำนักข่าวไทย