ก.คลัง 24 มี.ค.- รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันฐานะการคลังมั่นคง จัดเก็บรายได้ตามเป้าหมาย 2.4 ล้านล้านบาท ส่งสัญญาณขยับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบาย ต้องดูสภาพคล่องส่วนเกิน 3 ล้านล้านบาท
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ต้องจับตาดูการประชุม กนง. ในช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ เพราะปัจจุบันมีสภาพคล่องส่วนเกิน 2.5-3 ล้านล้านบาท ซึ่งทาง ธปท. และคลังได้ประสานงานอย่างใกล้ชิด ดังนั้น การปรับเพิ่มดอกเบี้ยนโยบายจึงต้องพิจารณาหลายปัจจัย เพราะอัตราเงินเฟ้อไทยมีสาเหตุจากต้นทุน ขณะที่ประเทศพัฒนาแล้ว มีปัญหาอัตราเงินเฟ้อจากความต้องการในประเทศในการซื้อสินค้า เพราะรัฐบาลหลายประเทศได้อัดฉีดเงินออกสู่ระบบเติมกำลังซื้อ ในส่วนของไทย อัตราเงินเฟ้อหากไม่รวมกลุ่มพลังงงานและอาหาร สูงร้อยละ 5 รัฐบาลจึงต้องดูแลต้นทุนค่าครองชีพผ่าน 10 มาตรการ จึงต้องใช้นโยบายการคลังประคองเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว
ทั้งนี้ การจัดทำงบประมาณปี 2565 ขาดดุลจำนวน 7 แสนล้านบาท ขณะที่การจัดเก็บรายได้ของรัฐบาล 5 เดือนแรกยังทำได้ตามเป้าหมาย และต้องติดตามรายได้ในช่วงเดือน เม.ย.-พ.ค.65 รายได้ภาษีจะชัดเจนมากขึ้น จากการยื่นแบบภาษีของบุคคลธรรมดาในปี 2564 และนิติบุคคลในปี 2565 ยังคาดการณ์ว่าจัดเก็บรายได้ในปี 2565 จำนวน 2.4 ล้านล้านบาท จะทำได้ตามเป้าหมาย โดยเฉพาะการยื่นแบบภาษีภาคเอกชนผู้ให้บริการ E-Service จากการค้าผ่านออนไลน์สูงถึง 3,000 ล้านบาท ขณะที่ทุนสำรองระหว่างประเทศสูงถึง 2.45 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นับว่าฐานะทางการคลังของรัฐบาลยังมั่นคง.-สำนักข่าวไทย
