กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เผยที่ประชุมจากทุกภาคส่วนเสนอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองเจรจากับบริษัท SPRC จ่ายค่าชดเชยให้ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่ว โดยเฉพาะกลุ่มประมงพื้นบ้านโดยเร็ว หากบริษัทไม่ยินยอมตามข้อเสนอ กลุ่มประมงพื้นบ้านจะฟ้องร้องเป็นกลุ่ม โดยทางจังหวัดจัดหาอัยการสิทธิ์ให้
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า กลุ่มประมงพื้นบ้านในจังหวัดระยองที่ได้รับผลกระทบจากเหตุน้ำมันรั่วเตรียมฟ้องร้องบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) (SPRC) หากบริษัทไม่รับข้อเสนอ 3 ประเด็นคือ
- เสนอให้ยึดถือคำตัดสินศาลอุทธรณ์ ภาค 2 เมื่อปี 2561 ในการพิจารณาคดีน้ำมันรั่วที่เกิดขึ้นเมื่อ ปี 2556 ให้จำเลยจ่ายค่าชดเชยแก่ประมงพื้นบ้าน เป็นเงิน 150,000 บาท ต่อลำ ทั้งนี้ ไม่รวมดอกเบี้ยและค่าทนาย
- ให้บริษัทฯจ่ายก่อน เป็นเงิน 75,000 บาท หรือร้อยละ 50 ตามข้อ 3.1 แล้วทำบันทึกตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุระยะเวลาการจ่ายเงินส่วนที่เหลือ
- หากบริษัทไม่รับข้อเสนอ 2 ข้อข้างต้น ให้บริษัทจ่ายเงิน 30,000 บาท โดยบวกอัตราเงินเฟ้อด้วย
สำหรับข้อ 3 กลุ่มประมงพื้นบ้านเสนอให้บริษัทชะลอการจ่ายเงินในวันที่ 2 มีนาคม 2565 ออกไปก่อน เป็นวันที่ 3 – 4 มีนาคม 2565 เพื่อรอคำพิพากษาของศาลฎีกาในวันที่ 2 มีนาคม 2565 ว่าถึงที่สุดอย่างไร ทั้งนี้ กลุ่มประมงพื้นบ้านจะรับเงินโดยไม่ให้บริษัทระบุเงื่อนไขว่า “จะเป็นการรับเงินโดยไม่มีการฟ้องร้อง”
ทั้งนี้ หากบริษัทไม่รับข้อเสนอดังกล่าวกลุ่มประมงพื้นบ้านจะฟ้องร้อง เพื่ออาศัยอำนาจศาลสั่งผู้ก่อมลพิษจ่ายเงินชดเชยค่าเสียหาย ผู้ว่าราชการจังหวัดระยองจะช่วยเหลือโดยการจัดหาอัยการสิทธิ์ให้ ซึ่งกลุ่มประมงพื้นบ้านจะฟ้องร้องเป็นกลุ่ม
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวถึงผลการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ยกเว้นคุณภาพน้ำพารามิเตอร์ปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน (TPH) สูงกว่ามาตรฐานคุณภาพน้ำทะเลประเภทที่ 4 (เพื่อการนันทนาการ) เล็กน้อยที่หาดแม่รำพึงบริเวณหาดหน้าสบาย สบาย รีสอร์ท เพียง 1 จุดเท่านั้น โดยปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมายให้ประสานจังหวัดระยองถึงแนวทางในการแจ้งเตือนประชาชนในการลงเล่นน้ำ หรือการใช้พื้นที่ชายหาดต่อไป.-สำนักข่าวไทย