กรุงเทพฯ 28 ก.พ. – ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมนำผลประชุมหารือกับกลุ่มประมงพื้นบ้านเสนอผู้ว่าฯ ระยองไปต่อรองกับบริษัท SPRC เพื่อจ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับความเสียหาย โดยใช้คำตัดสินของศาลในคดีน้ำมันรั่วในทะเลเมื่อปี 56 มากำหนดค่าชดเชยที่เหมาะสม ส่วนคุณภาพสิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเกือบทั้งหมดแล้ว ยกเว้นจุดที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลเท่านั้น
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า ได้เป็นประธานการประชุมหารือแนวทางการกำหนดค่าชดเชยแก่กลุ่มประมงพื้นบ้านจังหวัดระยอง กรณีได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากทุ่นขนถ่ายน้ำมันดิบกลางทะเล บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด โดยมี นายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ร่วมประชุมหารือ ซึ่งเป็นไปตามความห่วงใยของพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเร่งรัดให้ติดตามการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชนโดยเร็ว โดยนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมมอบหมายให้เร่งหาแนวทางช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มประมงพื้นบ้าน
ทั้งนี้มีตัวแทนจากกลุ่มประมงพื้นบ้านที่ 18 กลุ่มจากที่ขึ้นทะเบียนไว้ทั้งหมด 48 กลุ่มเข้าร่วมหารือด้วย โดยทุกฝ่ายเห็นร่วมกันว่า จะใช้แนวทางคำตัดสินของศาลจากกรณีเหตุการณ์น้ำมันดิบรั่วที่อ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ. ระยองเมื่อปี 2556 เป็นพื้นฐานในการเร่งกำหนดค่าชดเชยให้กลุ่มประมงพื้นบ้านต่อไป แต่ยังต้องหาข้อสรุปร่วมกันระหว่างกลุ่มประมงพื้นบ้านแต่ละกลุ่มและบริษัทสตาร์ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด มหาชน (SPRC) อีกครั้ง ทั้งนี้ที่ประชุมเสนอให้จังหวัดระยองรับข้อเสนอเรื่องการจ่ายค่าเสียหาย ไปต่อรองกับบริษัท SPRC เพื่อจ่ายเยียวยาให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยเร็ว
สำหรับการตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมบริเวณชายฝั่งทะเลพบว่า ปัจจุบันคุณภาพสิ่งแวดล้อมอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานเกือบทั้งหมดแล้ว มีเพียงจุดที่อยู่ใกล้กับบริเวณที่เกิดเหตุน้ำมันรั่วไหลเท่านั้นจึงสั่งการให้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กล่าวว่า ศูนย์วิจัย ทช. อ่าวไทยฝั่งตะวันออกร่วมกับสำนักงาน ทช.ที่ 1 (ระยอง) อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด กรมควบคุมมลพิษ ทสจ.ระยอง และบริษัท SPRC ติดตามตรวจสอบก้อนน้ำมันดินบริเวณหาดแม่รำพึง 3 พื้นที่ พื้นที่ละ 100 เมตร บริเวณคลองหัวรถ ร้านเจ๊จิ๋มโต๊ะกลม และก้นอ่าว โดยตรวจพิสูจน์ก้อนน้ำมันดินด้วยการละลายกับสารเฮกเซน เบื้องต้นพบก้อนน้ำมันดินเก่าและใหม่ในทั้ง 3พื้นที่ โดยเป็นก้อนน้ำมันดินผสมกับเศษใบสนและซากพืชบนชายหาดซึ่งจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด.-สำนักข่าวไทย