“วราวุธ” สั่งติดตามผลกระทบเหตุน้ำมันรั่วไหลที่ จ.ระยอง

กรุงเทพฯ 27 ม.ค.-รมว.ทส. คาดสารกำจัดคราบน้ำมันจะทำให้น้ำมันที่รั่วไหลลงทะเล จ.ระยอง สลายตัวได้ใน 5 วัน สั่งการกรมควบคุมมลพิษติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมต่อเนื่อง ส่วนความสับสนเกี่ยวกับปริมาณการรั่วไหล ล่าสุดตรวจสอบแล้ว รั่วไหลจริง 50,000 ลิตร โดยคราบน้ำมันส่วนหนึ่งอาจเคลื่อนสู่ชายฝั่ง


นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า สั่งการให้กรมควบคุมมลพิษติดตามและกำกับการแก้ไขปัญหาของบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับการกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลจากท่อใต้ทะเลในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง รวมถึงติดตามผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว เนื่องจากการใช้สารขจัดคราบน้ำมันออกฤทธิ์ทำให้น้ำมันบางส่วนละลายลงน้ำ แม้ไม่มีส่วนใดตกตะกอน แต่น้ำมันที่ละลายจะส่งผลให้น้ำมีสารปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอนสูงขึ้น โดยเฉพาะน้ำที่ใกล้ผิวน้ำซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตที่อาศัยใต้ทะเล

ทั้งนี้จากที่มีข่าวช่วงแรกว่า น้ำมันดิบรั่วไหลถึง 400,000 ลิตรจนทำให้เกิดความกังวลใจเกี่ยวกับความปลอดภัยต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งได้รับรายงานล่าสุดเมื่อเวลา 20.30 น. คืนที่ผ่านมา (26 ม.ค.) ว่า รั่วไหลจริง 50,000 ลิตร โดยเบื้องต้นหน่วยปฏิบัติการใช้สาร Dispersant สำหรับกำจัดน้ำมันที่รั่วไหลไปแล้ว 30,000 ลิตร คิดเป็น 75% ซึ่งน้ำมันที่รั่วเป็นน้ำมัน ​Murban oil ซึ่งเป็นน้ำมันดิบชนิดเบา สีใส ไม่ดำ จึงไม่น่าจะมีคราบน้ำมันดำลอยไปติดชายฝั่งเหมือนคราวที่ท่อส่งน้ำมันดิบรั่วที่อ่าวพร้าว โดยคาดว่า น้ำมันบนผิวน้ำจะสลายหมดไปเอง จากการระเหยและเจือจางไปในอากาศภายใน 5 วัน


นายวราวุธยืนยันว่า ทันทีที่ได้รับแจ้งจากทางบริษัทน้ำมัน หน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ภายใต้ “แผนป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมันแห่งชาติ” ประกอบด้วย

1. คณะกรรมการป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน (คปม.) เป็นหน่วยงานสั่งการหลัก

2. กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม / กรมโรงงาน กระทรวงอุตสาหกรรม / กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดตั้งศูนย์ประสานงาน


3. กองทัพเรือ / กรมเจ้าท่า จัดตั้งศูนย์ควบคุมการปฏิบัติการ

4. กองทัพเรือ / กรมเจ้าท่า / ส่วนราชการจังหวัด / กลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมัน ทำหน้าที่หน่วยปฏิบัติการ

5. กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยสนับสนุน

ทั้งนี้กรมควบคุมมลพิษทำหน้าที่สนับสนุนข้อมูลพื้นที่ทะเลและชายฝั่งที่ได้รับผลกระทบ คาดการณ์แนวทางการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันเพื่อวางแผนปฏิบัติการจำกัดความเสียหาย และแผนฟื้นฟูสภาพแวดล้อม รวมถึงดูแลกำกับการใช้สารเคมีในการกำจัดคราบน้ำมันที่รั่วไหลออกมา ซึ่งจะต้องเก็บตัวอย่างน้ำที่ใกล้ผิวน้ำเพื่อวัดค่าความเข้มข้นปิโตรเลียมไฮโดรคาร์บอน (Petroleum Hydrocarbon, TPH) ตามมาตรฐานที่กรมควบคุมมลพิษกำหนด ไม่เกิน 0.5 ไมโครกรัมต่อลิตร ส่วนการปนเปื้อนสารอันตรายอื่นๆ  โดยเฉพาะสารปรอทพบว่า มีความเข้มข้นต่ำ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลอันตรายต่อมนุษย์

จากการใช้โปรแกรม OIL MAP ซึ่งเป็นแบบจำลองคณิตศาสตร์ที่ใช้ทำนายการเคลื่อนตัวและการเปลี่ยนแปลงสภาพของคราบน้ำมันที่รั่วไหลในทะเลและน้ำจืด โดยอาศัยข้อมูลปริมาณน้ำมัน สภาพทางภูมิศาสตร์ ความเร็วและทิศทางของกระแสลม และน้ำทะเล ล่าสุดพบว่า กลุ่มน้ำมันที่รั่วไหลออกมาอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

นายวราวุธกล่าวต่อว่า ขอฝากความห่วงใยไปยังประชาชนในพื้นที่เกิดเหตุ ชุมชนใกล้เคียง รวมถึงประชาชนชายฝั่งตะวันออกซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ขอให้รักษาสุขภาพ งดเว้นการลงเล่นน้ำทะเลในช่วงนี้ก่อน และหากพบคราบน้ำมัน นอกเหนือจากบริเวณที่คาดการณ์ไว้ สามารถโทรแจ้งได้ที่ สายด่วน 1650 กรมควบคุมมลพิษทันที

นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า สั่งการให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เฝ้าระวังผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นต่อพื้นที่รับผิดชอบของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชซึ่งจากการที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบบริเวณท่าเรือเทศบาลตำบลบ้านเพ พร้อมทั้งนั่งเรือสำรวจพื้นที่โดยรอบ รวมถึงบริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่อุทยานแห่งชาติ​เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดพบว่า ยังไม่ได้รับผลกระทบ

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติ​เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดจะเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่องเพราะผลคาดการณ์ของกรมควบคุมมลพิษจากแบบจำลอง OilMap แสดงให้เห็นว่า กลุ่มน้ำมันดังกล่าวอาจเคลื่อนตัวเข้าสู่ชายฝั่งทะเลบริเวณหาดแม่รำพึงถึงบริเวณอุทยาแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ดในวันที่ 28 มกราคม

ส่วนบริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 4 เมื่อค่ำวานนี้ รายงานความคืบหน้าว่า จากการคำนวณแรงดัน (Pressure Balance) พบว่า น้ำมันดิบรั่วไหลประมาณ 20 – 50 ตัน บริษัทฉีดพ่นน้ำยาขจัดคราบน้ำมันโดยทางเรือ ทางกองทัพเรือภาคที่ 1 ส่งเฮลิคอปเตอร์บินสำรวจพบว่า สามารถควบคุมปริมาณคราบน้ำมันให้อยู่ในวงจำกัด โดยยังคงมีปริมาณน้ำมันอยู่ในทะเลประมาณ 5.3 ตัน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ