กรุงเทพฯ 24 ม.ค.- ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมระบุ เสนอสำนักงบประมาณเพื่อของบกลางสำหรับจัดจ้างผู้พิทักษ์ป่าที่เลิกจ้างและปรับลดเงินเดือนไปแล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการเพื่อนำเสนอครม. อนุมัติ ขอให้มั่นใจว่า ทุกฝ่ายห่วงใยเรื่องนี้และเร่งรัดแก้ไขปัญหา
นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวว่า การนำเสนอของบกลางสำหรับจัดจ้างลูกจ้างซึ่งเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่านั้น อยู่ระหว่างกระบวนการ โดยชี้แจงต่อสำนักงบประมาณถึงความจำเป็นในการจ้างงานเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าซึ่งมีหน้าที่ปกป้องรักษาผืนป่าของประเทศ เพื่อนำเสนอให้ครม. เห็นชอบต่อไป
ทั้งนี้ทางกระทรวงไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งรัดหาแนวทางแก้ไขตั้งแต่ทราบว่า ปีงบประมาณ 2565 การปรับลดส่วนนี้ลง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไม่สบายใจจึงนำเรียนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีซึ่งห่วงใยอย่างมาก แล้วสั่งการให้แก้ไขโดยด่วน
นายจตุพรกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชนำเงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติต่างๆ มาจ่ายเป็นเงินเดือนของผู้พิทักษ์ป่าซึ่งจ่ายได้เพียงส่วนหนึ่งเนื่องจากสถานกาณ์โควิด-19 ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของอุทยานแห่งชาติลดลงมาก แต่ขอให้มั่นใจว่า ปัญหาจะคลี่คลายในเร็ววันนี้
นายดำรัส โพธิ์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืชกล่าวว่า ปีงบประมาณ 2565 ปรับลดส่วนที่ใช้จัดจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 900 กว่าล้านจึงทำให้จากที่ในปีงบประมาณ 2564 จ้างได้ 5,163 คนจึงลดเหลือ 3,432 คน คือให้ออกถึง 1,731 คนหรือประมาณ 33%
ทั้งนี้กรมอุทยานฯ นำเงินรายได้ของอุทยานแห่งชาติต่างๆ 200 ล้านบาทมาจ่ายเป็นเงินเดือนของผู้พิทักษ์ป่า แต่เป็นเพียงการประคองสถานการณ์ โดยที่จ้างอยู่ 3,432 คนต้องปรับลดเงินเดือนลงด้วย จึงขอให้สังคมเห็นใจผู้พิทักษ์ป่าซึ่งปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเทและเสียสละกินนอนในป่า ลาดตระเวนเสี่ยงภัยอันตราย แต่ไม่มีโอกาสจะบอกใครว่า ทำหน้าที่ที่สำคัญในการดูแลปกป้องผืนป่าของประเทศ จึงขอเป็นตัวแทนที่จะบอกเรื่องนี้ให้สังคมเห็นความสำคัญของภารกิจของพวกเขาเหล่านี้
ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวไทยว่า หวังว่า สำนักงบประมาณจะเห็นถึงความจำเป็นและอนุมัติงบประมาณจัดจ้างเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ซึ่งหากเป็นไปตามคำขอ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจะสามารถจ้างงานเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าได้ทั้งหมด และไม่มีใครถูกเลิกจ้างหรือตัดเงินเดือนอีก ทั้งนี้โดยเฉลี่ยแล้ว เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า 1 คน ต้องดูแลผืนป่ามากถึง 10,000 ไร่ในการรับมือกับการบุกรุกตัดไม้ทำลายป่าและล่าสัตว์ป่าซึ่งถือว่า กำลังพลที่ทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งมีไม่เพียงพออยู่แล้ว.-สำนักข่าวไทย