ดัชนีค้าปลีกธ.ค. 64 กระเตื้อง แต่ไม่เป็นไปตามคาด

กรุงเทพฯ 10 ธ.ค.-ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการค้าปลีกเดือนธันวาคม 2564 กระเตื้องขึ้น จากการใช้จ่ายช่วงปีใหม่ แต่คึกคักน้อยกว่าที่คาด ขณะที่ผู้ประกอบการกังวลการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์โอไมครอน


นายฉัตรชัย ตวงรัตนพันธ์ รองประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่า สมาคมผู้ค้าปลีกไทยร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทยเปิดเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ประกอบการค้าปลีกประจำเดือนธันวาคม 2564 พบว่า ปรับเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย การจับจ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่ปลายปีคึกคักแต่ไม่เป็นไปตามคาด โดยมียอดซื้อต่อบิลเพิ่มขึ้นเล็กน้อยและเกิดจากราคาสินค้าที่ปรับขึ้น ไม่ใช่เกิดจากกำลังซื้อที่แท้จริง สะท้อนว่ายังต้องการแรงกระตุ้นจากมาตรการต่างๆ ของภาครัฐ นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยเสริมเรื่องการยกเลิกกิจกรรมข้ามปีของบางพื้นที่ ที่ส่งผลให้การจับจ่ายปลายปีต้องชะงัก โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้ค้าปลีกเดือนธันวาคมอยู่ที่ 68.4 ปรับเพิ่มขึ้น 6 จุด เมื่อเทียบกับดัชนีเดือนพฤศจิกายนที่ 62.1

ทั้งนี้ ยังมีบทสรุปการประเมินกำลังซื้อและแนวโน้มการแพร่ระบาดไวรัสสายพันธุ์โอไมครอนจากมุมมองผู้ประกอบการ” ในเดือนธันวาคม ที่สำรวจระหว่างวันที่ 17-24 ธันวาคม 2564 ว่ายอดขายเพิ่มขึ้นตลอดปีที่ผ่านมา มาจากอันดับ 1 มาตรการการกระตุ้นการจับจ่ายภาครัฐอันดับ 2การจัดโปรโมชั่นของร้านค้า อันดับ 3            การขายผ่านออนไลน์ ส่วนความกังวลต่อการแพร่ระบาดโอไมครอน อันดับ 1 กังวลต่อกำลังซื้อที่ยังไม่ฟื้นตัว อันดับ 2 ลูกค้างดการทำกิจกรรมนอกบ้าน อันดับ 3 กังวลต่อมาตรการที่อาจต้องล็อคดาวน์ ส่วนแผนการรองรับหากมีการแพร่ระบาดของโอมิครอน  ร้อยละ 63 ขายผ่านออนไลน์เพิ่มขึ้น ร้อยละ 40 ลดค่าใช้จ่าย ลดการจ้างงาน ร้อยละ 30 ดำเนินธุรกิจตามปกติ เว้นแต่ภาครัฐสั่งให้ปิด ขณะที่ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ร้อยละ 58 เพิ่มการลดหย่อนภาษีและลดภาระค่าใช้จ่าย ร้อยละ 55 เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและต่อเนื่อง ร้อยละ 43 ช่วยจ่ายค่าจ้างแรงงาน


สำหรับ 4 ข้อเสนอต่อภาครัฐ1.ยกระดับความพร้อมของระบบสาธารณสุข อาทิ เร่งการกระจายการฉีดวัคซีน เสริมชุดตรวจ ATK ที่มีคุณภาพและราคาเข้าถึงได้ เตรียมยาที่ใช้รักษา และสำรองเตียงผู้ป่วยหนัก 2.มีมาตรการเชิงรุกสำหรับพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดให้มีการควบคุมอย่างเคร่งครัด อย่างไรก็ตาม หากมีการระบาดในแต่ละพื้นที่ รัฐควรมีการปิดเฉพาะพื้นที่ที่เป็นคลัสเตอร์เท่านั้น 3.      ช่วยภาคเอกชนและประชาชนลดค่าใช้จ่าย โดยช่วยลดค่าน้ำ ค่าไฟ ลดเงินสมทบประกันสังคม ภาษีป้าย รวมถึงดอกเบี้ยเงินกู้จากสถาบันการเงิน ดอกเบี้ยบัตรเครดิต ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ไม่มีการค้ำประกัน และพิจารณา   ลดค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบการทั้งที่เกี่ยวข้องกับโควิดทางตรงและทางอ้อมและ4.            ผลักดันโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ เพื่อเป็นการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง   อาทิ ช้อปดีมีคืน ควรทำเพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ครั้งต่อปี เพื่อสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบรวมกันกว่าแสนล้านบาทตลอดปี-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

พ่อขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิตจากตึก สตง.ถล่ม

พ่อของหนุ่มขอนแก่น วัย 35 ปี หนึ่งในผู้สูญหายจากอาคาร สตง.ถล่ม ขอของขวัญวันเกิดให้ลูกชายรอดชีวิต ส่วนหนุ่มช่างประปา วัย 32 ปี เหยื่อตึก สตง.ถล่ม เผาแล้ว แม่ยังทำใจไม่ได้ สะอื้นไห้หน้าเมรุ

“ชัชชาติ” เผยเตรียมกู้ 5 ร่างที่พบ-ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน

ผู้ว่าฯ กทม. เผยเตรียมกู้ 5 ร่าง จาก 14 ร่างที่พบ ขนย้ายชิ้นส่วนอาคารแล้ว 100 ตัน ยันไม่ขีดเส้นตายหยุดช่วยเหลือ ปรับแผนเพิ่มการรื้อถอนด้วยเครื่องจักรหนักควบคู่ไปมากขึ้น