พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมู วอนรัฐช่วยนำเข้าหมูชั่วคราว อย่ามัวเกรงใจฟาร์ม

พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมู วอนรัฐช่วยนำเข้าหมูชั่วคราว อย่ามัวเกรงใจฟาร์มเลี้ยง

9 ม.ค. – รัฐมนตรีเกษตรฯ สั่งตรวจสอบโรคระบาดและปริมาณการผลิตหมูทั่วประเทศ ขณะที่พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดแนะเปิดทางให้นำเข้าหมูจากต่างประเทศ เพื่อแก้ปัญหาหมูแพง ก่อนเขียงหมูจะเจ๊งตามผู้เลี้ยงรายย่อย ย้ำอย่าเกรงใจฟาร์มใหญ่


นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์ขยายพื้นที่ตรวจฟาร์มหมู จากที่ตรวจใน 4 จังหวัดภาคกลางซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงใหญ่ได้แก่ จังหวัดราชบุรี นครปฐม ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยให้ตรวจฟาร์มทั่วประเทศ เพื่อตรวจสอบโรคระบาดและสำรวจปริมาณการผลิตที่แท้จริงว่า หมูขาดจากความต้องการของตลาดเท่าใด

นอกจากนี้ยังย้ำให้เร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้เลี้ยงหมูรายย่อย เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้นอย่างทันท่วงที รวมทั้งส่งเสริมการปรับระบบจัดการฟาร์มให้ได้มาตรฐานเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคระบาดและได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ


ขณะที่กรมปศุสัตว์ส่งเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ 6 ชุดเข้าตรวจฟาร์มหมูใน 4 จังหวัดเพิ่มเติม โดยจะขยายพื้นที่ตรวจไปทั่วประเทศเพื่อหาว่ามีการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือ ASF หรือไม่ เนื่องจากที่ผ่านมาไม่ได้รับแจ้งจากเกษตรกร ตาม พ.ร.บ. โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558 เมื่อสัตว์ป่วย-ตายผิดปกติต้องแจ้งกรมปศุสัตว์ แต่ไม่มีการแจ้งจึงไม่พบรายงานในระบบ เมื่อเกิดโรคระบาดต้องควบคุมอย่างทันทันท่วงที เพราะมีตัวอย่างจากหลายประเทศที่โรค ASF ระบาด เช่นจีนที่ต้องทำลายสุกรไปกว่า 500 ล้านตัว

เจ้าหน้าที่จะเก็บข้อมูลจำนวนหมูที่เลี้ยง หากไม่มีหมูหรือมีหมูน้อยกว่าที่เคยแจ้งต่อสำนักงานปศุสัตว์จังหวัด ให้ตรวจสอบประวัติการเลี้ยงย้อนหลัง 2 ปี เพื่อหาสาเหตุ พร้อมทั้งเก็บตัวอย่างจากโรงเรือนและตัวสุกร ส่งตรวจยังห้องปฏิบัติการสถาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติของกรมปศุสัตว์ โดยกรณีที่พบเชื้อ ASF จะต้องประกาศเขตโรคระบาดเพื่อควบคุมโรคทันทีและรายงานต่อองค์กรสุขภาพสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE)

ผู้ค้าหมูแนะรัฐนำเข้าหมูแก้หมูแพง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวไทย ลงพื้นที่สำรวจราคาเนื้อหมู และพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูในตลาดสดห้วยขวาง ซึ่งได้รับการเปิดเผยว่า ราคาเนื้อหมูปรับขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคซื้อเนื้อหมูและส่วนต่างๆ ของหมูปริมาณน้อยลง พ่อค้าแม่ค้าอยากให้ให้รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องเร่งแก้ไขปัญหา เพราะตอนนี้ราคาหมูหน้าฟาร์มยังขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดทางหน้าฟาร์มแจ้งมาแล้วว่าต้นสัปดาห์หน้าราคาหมูหน้าฟาร์มจะปรับขึ้นอีกไม่ต่ำกว่า 5 บาทต่อกิโลกรัม และจะปรับขึ้นอีก จึงคิดว่าราคาหมูหน้าเขียงมีโอกาสที่จะขึ้นถึงกิโลกรัมละ 300 บาทแน่นอน และถ้าเป็นราคานั้นจริงผู้บริโภคคงไม่ซื้อ และเห็นว่ารัฐควรเปิดทางให้มีการนำเข้าหมูจากตลาดต่างประเทศ มาชดเชยปริมาณหมูภายในประเทศ ก่อนที่พ่อค้าแม่ค้าเขียงหมูในตลาดสด จะประสบปัญหาขาดทุน จนต้องปิดเขียงกันมากขึ้น ขณะที่ผู้บริโภคก็ต้องปรับตัว หลังราคาเนื้อหมูปรับตัวสูงขึ้น บางรายจากที่เคยซื้อเนื้อหมูไปบริโภคครั้งละ 1-2 กิโลกรัม ช่วงนี้ก็ลดปริมาณลงและไปซื้อเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแทน


เร่งตรวจสอบปริมาณหมูทั่วประเทศพรุ่งนี้
ด้านนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ได้กำหนดให้ผู้เลี้ยงหมูที่มีปริมาณการเลี้ยงเกิน 500 ตัว ผู้ค้าส่งที่มีปริมาณเกิน 500 ตัว ห้องเย็นที่มีการเก็บ สตอกเกิน 5,000 กิโลกรัมขึ้นไป ให้ดำเนินการแจ้งสตอกให้กรมการค้าภายใน รวมทั้งแจ้งราคาทุก 7 วัน เริ่มวันที่ 10 ม.ค. 65 เป็นต้นไปนั้น ล่าสุดได้เตรียมส่งทีมตรวจสอบทั้งส่วนกลางและภูมิภาคลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบแล้ว เพื่อให้ทราบปริมาณหมูเป็นทั้งหมดที่อยู่ในระบบจริง รวมทั้งหมูแช่แข็ง แช่เย็น รวมกันทั้งประเทศมีจำนวนมากน้อยเพียงใด เพื่อจะได้พิจารณาแก้ไขปัญหาร่วมกันกับกรมปศุสัตว์และหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างตรงจุด

พาณิชย์เปิดขายเนื้อหมูราคาถูก 4 จุด
ส่วนที่จังหวัดสงขลา สำนักงานพาณิชย์จังหวัด จัดโครงการหมูพาณิชน์ลดราคา ช่วยประชน ครั้งที่ 2 รวม4 จุด โดยหนึ่งใน 4 จุด ที่ว่า คือ หน้าร้านโตชินท์ อาหารแช่แข็งตรงข้ามโรงเรียนเทศบาล 1 อำเภอเมืองสงขลา โดยขายหมูเนื้อแดงกิโลกรัมละ 150 บาท เนื้อติดมัน 150 บาท ส่วนเนื้อสามชั้นกิโลละ 200 บาท ซึ่งเป็นราคาที่ถูกกว่าในตลาดที่ขายอยู่ที่กิโลกรัมละ 240 – 270 บาท เพื่อลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงหมูแพง โดยจะมีไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2565 โดยมีประชาชนชาวเมืองสงขลาเดินทางมาซื้อหมู ราคาถูกกันอย่างต่อเนื่อง

ส่วนอีก 3 จุดที่ขายเนื้อหมูราคาถูก ในโครงการหมูพาณิชน์ลดราคาช่วยประชน ประกอบด้วย แผงขายหมูพี่วรรณา ตรงข้ามกับศูนย์ควบคุมโรค สวนตูล อำเภอเมืองสงขลา ร้านคุณจรูญ บริเวณใกล้ สี่แยกป้อมตำรวจนาหม่อม อำเภอนาหม่อม แผงขายหมูกิตติพล บริเวณถนนรัตนอุทิศ เขต 8 อำเภอหาดใหญ่

จากข้อมูลเฉลี่ยราคาหมูหน้าฟาร์ม ตั้งแต่ 23 ธันวาคม 2564 – 7 มกราคม 2565 พบว่า ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากก่อนเทศกาลคริสต์มาส ราคาขายอยู่ที่ 81 บาท/กิโลกรัม จากนั้นวันที่ 27 ธันวาคม มีการปรับราคาขึ้น 11 บาท ทำให้ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มขายอยู่ที่ 92 บาทต่อกิโลกรัม โดยเป็นราคานี้คงที่อยู่ 4 วัน ก่อนจะปรับขึ้นเป็น 108.33 บาท/กิโลกรัม ในวันที่ 4 มกราคม 2565 และมีการปรับราคาเรื่อยมา จนวันที่ 7 มกราคม ราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มขายอยู่ที่ 112.50 บาท/กิโลกรัม
ซึ่งจากกราฟจะเห็นว่าราคาหมูมีชีวิตหน้าฟาร์มปรับเพิ่มสูงขึ้น

ส่วนราคาเนื้อหมูและชิ้นส่วนหมู ประจำวันที่ 9 มกราคม 2565 ที่ตลาดนัดเกษตรไพรซ์ นำมารวบรวมไว้ มีดังนี้ ขาหมู 106.50 บาท/กิโลกรัม เนื้อก้อน 230 บาท/กิโลกรัม เนื้อแดง 190 บาท/กิโลกรัม สะโพกหมู 200 บาท/กิโลกรัม สันนอก 202.50 บาท/กิโลกรัม สันใน 205 บาท/กิโลกรัม สามชั้น 260 บาท/กิโลกรัม. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้