ทางหลวงเปิดจองพื้นที่กางเต็นท์ทั่วประเทศ 38 แห่งฟรี

กรุงเทพฯ 9 ธ.ค.-รับลมหนาวฟรี! กรมทางหลวง เปิดจองพื้นที่กางเต็นท์ทั่วประเทศ 38 แห่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ สอบถามโทร 1586

นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ขานรับนโยบายการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศทำให้มีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนรับลมหนาวโดยเฉพาะทางภาคเหนือและจังหวัดท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้จัดเตรียมจุดบริการกางเต็นท์ทั่วประเทศ จำนวน 38 แห่ง แบ่งเป็นภาคเหนือ 30 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันตก 3 แห่ง ภาคกลาง 2 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการท่องเที่ยวของประชาชน โดยพื้นที่กางเต็นท์แต่ละแห่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของหมวดทางหลวงซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการน้ำดื่ม ห้องสุขา และสอบถามข้อมูลทางหลวง


สำหรับประชาชนที่ต้องการพักค้างคืนสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงยังได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิดอย่างเคร่งครัดโดยผู้เข้าพักต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนฯซึ่งจะต้องตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเข้าพักและมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าพักปลอดภัยยิ่งขึ้น

จุดบริการลานลานกางเต็นท์ จำนวน 38 แห่ง มีดังต่อไปนี้


จังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง
หมวดทางหลวงจอมทอง ทล.1009 ตอน จอมทอง – ดอยอินทนนท์ กม.31+450
หมวดทางหลวงแม่แตง ทล.1095 ตอน หนองโค้ง – กิ่วคอหมา กม.14+584
หมวดทางหลวงเชียงดาว ทล.107 ตอน แม่ทะลาย – หัวโท กม.84+215

จังหวัดลำปาง 2 แห่ง
หมวดทางหลวงสบปราบ ทล.1 ตอน สบปราบ – เกาะคา กม.650+917
หมวดทางหลวงห้างฉัตร ทล.11 ตอน แยกภาคเหนือ – ขุนตาน กม.482+356
จังหวัดแม่ฮ่องสอน 5 แห่ง
หมวดทางหลวงแม่สะเรียง ทล.108 ตอน สะพานแม่ริด – ห้วยงู กม.197+350
หมวดทางหลวงแม่ลาน้อย ทล.108 ตอน ห้วยงู – หนองแห้ง กม.240+750
หมวดทางหลวงขุนยวม ทล.108 ตอน หนองแห้ง-แม่สุริน กม.284+856
หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน ทล.1095 ตอน ท่าไคร้ – แม่ฮ่องสอน กม.197+907
หมวดทางหลวงปาย ทล.1395 ตอน ทางเข้าปาย กม.4+100

จังหวัดเชียงราย 2 แห่ง
หมวดทางหลวงแม่ลาว ทล.1 ตอน พาน – บ้านร่องขุ่น กม.896+845
หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้า ทล.1093 ตอน ขุนห้วยไคร้ – ผาตั้ง กม.63+500 (ขาเข้า)


จังหวัดน่าน 3 แห่ง
หมวดทางหลวงนาน้อย ทล.1083 ตอน เด่นชาติ – นาน้อย กม.69+485 (ขาออก)
หมวดทางหลวงผาช้างน้อย ทล.1148 ตอน สะเกิน – สบทุ กม.82+000(ขวาทาง)
หมวดทางหลวงบ่อเกลือ ทล.1081 ตอน หลักลาย – บ่อเกลือ กม.67+110

จังหวัดบึงกาฬ 1 แห่ง
หมวดทางหลวงศรีวิไล ทล.222 ตอน ท่ากกแดง – บึงกาฬ กม.102+526

จังหวัดกำแพงเพชร 4 แห่ง
สำนักงานแขวงกำแพงเพชร ทล.1 ตอน ปากดง – นครชุม กม.453 + 076 (ขาออก)
หมวดทางหลวงคลองขลุง ทล.1 ตอน โนนปอแดง – ปากดง กม.423+809 (ขาออก)
หมวดทางหลวงโกสัมพีนคร ทล.1 ตอน นครชุม – วังเจ้า กม.476+553 (ขาเข้า)
หมวดทางหลวงคลองลานพัฒนา ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย – อุ้มผาง กม.55+000 (ขาออก)

จังหวัดตาก 6 แห่ง
หมวดทางหลวงหนองบัวใต้ ทล.1 ตอน วังเจ้า – ตาก กม.511+826
หมวดทางหลวงแม่สลิด ทล.1 ตอน วังม่วง – แม่เชียงรายบน กม.560+449
หมวดทางหลวงแม่สอด ทล.12 ตอน กลางสะพานมิตรภาพที่แม่สอด (เขตแดนไทย/พม่า) – แม่ละเมา กม. 33+621
หมวดทางหลวงท่าสองยาง ทล.105 ตอน แม่สลิดหลวง – แม่เงา กม.115+550
หมวดทางหลวงคีรีราษฎร์ ทล.1090 ตอน ห้วยน้ำริน – อุ้มผาง กม.88+050
หมวดทางหลวงอุ้มผาง ทล.1090 ตอน อุ้มผาง – กะแง่คี กม.165+799

จังหวัดสุโขทัย 1 แห่ง
หมวดทางหลวงแม่สิน ทล.101 ตอน ศรีสัชนาลัย – แม่สิน กม.184+219 (ขวาทาง)

จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่ง
หมวดทางหลวงแก่งโสภา ทล.12 ตอน วังทอง-เข็กน้อย กม.269+100

จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 แห่ง
หมวดทางหลวงเขาค้อ ทล.2196 ตอน นางั่ว – ทุ่งสมอ กม.23+600

จังหวัดเลย 2 แห่ง
หมวดทางหลวงภูกระดึง ทล.201 ตอน ผานกเค้า-หลักร้อยหกสิบ กม.266+737 หมวดทางหลวงปากชม ทล.211 ตอน ปากชม-เชียงคาน กม.148+350

จังหวัดศรีสะเกษ 1 แห่ง
หมวดทางหลวงกันทรลักษ์ ทล.221 ตอน แยกการช่าง – เชิงบันไดเขาพระวิหาร กม.59+900

จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่ง
หมวดทางหลวงไทรโยค ทล.323 ตอน แยกปากกิเลน – น้ำตกไทรโยคใหญ่ กม.116+574 (ขาออก กทม.) หมวดทางหลวงทองผาภูมิ ทล.323 ตอน แก่งประลอม – ทองผาภูมิ กม.181+058 (ขาเข้า กทม.)

จังหวัดอุทัยธานี 2 แห่ง
หมวดทางหลวงบ้านไร่ ทล.3011 ตอน บ้านไร่ – บ้านใต้ กม.5+006
ศูนย์บำรุงทางและบริการประชาชน(เป็นพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของหมวดทางหลวงบ้านไร่) ทล.3011 ตอน บ้านไร่ – บ้านใต้ กม.24+200

จังหวัดราชบุรี 1 แห่ง
หมวดทางหลวงสวนผึ้ง ทล.3208 ตอน น้ำพุ – เมืองผาปกค้างคาว กม.43+550

จังหวัดอุบลราชธานี 1 แห่ง
หมวดทางหลวงโขงเจียม ทล.2222 ตอน โขงเจียม-สะพือ กม.0+925

หากประชาชนต้องการจองพื้นที่กางเต็นท์หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.พล.7 ของเขมร โดนกระสุนปืนใหญ่ยิงดับ บนช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ

26 ก.ค. – พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ จากการปะทะแย่งชิงพื้นที่ระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ตลอดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การปะทะระหว่างทหารไทย กับทหารกัมพูชา บริเวณภูมะเขือ และช่องตาเฒ่า ตั้งแต่เช้ามืดวันนี้ ทหารไทยสามารถปกป้องพื้นที่ภูมะเขือ และกดดันทหารกัมพูชาออกจากพื้นที่ได้สำเร็จ ในขณะที่ทหารกัมพูชา พยายามกลับเข้ามาโจมตีกลับ เพื่อยึดภูมะเขือ ส่งผลให้มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตหลายนาย หนึ่งในนั้นคือ พลตรีดวง ซอมเนียง ผบ.พล.7 ถูกกระสุนปืนใหญ่ยิงเสียชีวิต ที่ช่องตาเฒ่า-ภูมะเขือ. – สำนักข่าวไทย

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

กริพเพน

ทอ. ส่ง F16 – กริพเพน ปฏิบัติการรอบ 2 ทิ้งบอมบ์พื้นที่ทางทหารเขมร

26 ก.ค. – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และกริพเพน 2 ลำ ออกปฏิบัติการรอบสอง โจมตียุทธบริเวณทำลายพื้นที่ทหารกัมพูชา บริเวณปราสาทตาควาย อ.พนมดง จ.สุรินทร์ ภารกิจลุล่วง และกับฐานปฏิบัติโดยปลอดภัย สำหรับพื้นที่บริเวนนี้ ทหารไทยกับทหารกัมพูชา ปะทะกันดุเดือด โดยทหารไทยพยายามทำลายพื้นที่กัมพูชาวางกำลังไว้หลายระลอก ในขณะที่กัมพูชาโต้กลับและระดมกำลังทหารมาเพิ่มเติม ส่งผลให้พื้นที่บริเวนนี้มีการปะทะดุเดือดตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค.ถึงวันนี้. – สำนักข่าวไทย

เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ”

26 ก.ค.- เปิดภาพคลังอาวุธทหารเชมร “สมรภูมิภูมะเขือ” ทหารไทยยึดอาวุธปืน-โดรน 11 รายการ พร้อมมือถือ 7 เครื่อง ใช้ถ่ายคลิปยั่วยุทหารไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 รายงานข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า สำหรับปฏิบัติการ ของเจ้าที่ทหารกองทัพภาคที่ 2 บนภูมะเขือที่สามารถยึดกลับคืนมาได้ ทำให้ทหารกัมพูชาเสียชีวิต 10 นาย พร้อมทั้งตรวจพบและสามารถยึดอาวุธ ยุทโธปกรณ์ จำนวน 11 รายการ ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง ที่ทางทหารกัมพูชาชอบถ่ายในเวลาทำคลิปเมื่อเจอกับทหารไทยบริเวณแนวชายแดน -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทบ.จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบกสดุดีทหารกล้า จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพ 4 ทหารหาญ พร้อมปูนบำเหน็จ ขอพระราชทานยศทหารเลื่อนขั้นอย่างสมเกียรติ วันที่ 30 ก.ค. 68 กองทัพบกร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรมและส่วนราชราชการพื้นที่ จัดพิธีพระราชทานเพลิงศพทหารกล้าที่สละชีพเพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ จากเหตุการณ์พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยใน พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้มอบให้คณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพบก ร่วมเป็นเกียรติในพิธีพระราชทานเพลิงศพของทหารหาญ จำนวน 4 นาย ดังนี้ 1.ส.อ.จิรายุ สิงห์อ้น ตำแหน่งพลลาดตระเวน กองร้อยลาดตระเวนระยะไกลที่ 6 (ร้อย ลว.ไกล 6) กองพลทหารราบที่ 6 ซึ่งเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ (25 ก.ค.68) ณ วัดตลาดราชมงคล อ.จตุรพักตรพิมาน จ.ร้อยเอ็ด โดยมี พล.อ. ณัฐวุฒิ นาคะนคร รองผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธีพระราชเพลิงศพ โดยกองทัพบกได้ดำเนินการปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ขั้น ขอพระราชทานยศทหารเป็นร้อยโท […]

ทบ.ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน

กทม. 30 ก.ค.-กองทัพบก ยันไทยมีแผนพานานาชาติดูจุดเขมรถล่มเหมือนกัน ประชาคมโลกต้องเห็นความเสียหาย ทั้งบ้านเรือน-โรงเรียน-โรงพยาบาล เร็วๆ นี้ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวถึงกรณีฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศ เข้าดูพื้นที่บริเวณจุดปะทะ บริเวณช่องอานม้า จ.อุบลราชธานีว่า จุดที่ฝ่ายกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศลงไปดูพื้นที่ปฏิบัติการทางทหาร บริเวณจุดที่เคยมีการปะทะกันนั้น เป็นบริเวณแนวชายแดนไทย-กัมพูชา พื้นที่ช่องอานม้า จ.อุบลราชธานี จึงเห็นมีภาพปรากฏถึงความเสียหายที่เกิดจากการใช้อาวุธจากทั้งสองฝ่าย ซึ่งคงเป็นเรื่องปกติ เป็นสิ่งที่เข้าใจได้ในบริบทของพื้นที่ทางยุทธการ และบริเวณนั้นเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายทางทหาร สำหรับฝ่ายไทยมีแผนจะจัดกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวเช่นกัน โดยฝ่ายไทยจะไม่เน้นการสร้างภาพลวงแบบฉาบฉวย แต่จะเน้นสื่อสารเชิงคุณภาพ สิ่งที่จำเป็นจะต้องสื่อถึงประชาคมโลกคือ ความเสียหายต่อบ้านเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล ที่ฝ่ายทหารกัมพูชาจงใจพุ่งเป้าโจมตีไปยังเป้าหมายเหล่านั้น จนมีพลเรือน ประชาชน เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งที่พื้นที่ดังกล่าวอยู่ลึกไกลเข้ามาภายในประเทศไทย และห่างจากพื้นที่สู้รบเข้ามาในไทยไกลมากถึง 10-30 กิโลเมตร พล.ต.วินธัย กล่าวว่า การกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย รวมถึงขัดต่อหลักปฏิบัติทางทหารตามกฎหมายสากล และหลักมนุษยธรรมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการเจตนาละเมิดอนุสัญญาระหว่างประเทศหลายฉบับ ที่ห้ามการโจมตีพื้นที่ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการรบ กองทัพบกไทยขอยืนยันอีกครั้งว่า เราปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเป็นหลักเท่านั้น และยึดมั่นในกติกาสากล โดยขอย้ำว่า ฝ่ายไทยไม่ได้รุกรานใคร แต่เรามีสิทธิชอบธรรมในการปกป้องประชาชนและผืนแผ่นดินของเรา.-313.-สำนักข่าวไทย

เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก

ทำเนียบ 30 ก.ค.-โฆษกรัฐบาล เปิดภาพโรงพยาบาลไทยเสียหายหนัก หลังถูกกัมพูชาโจมตีด้วยอาวุธหนัก พร้อมประณามกัมพูชาละเมิดมนุษยธรรมร้ายแรง นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) ประณามการกระทำของรัฐบาลและกองทัพกัมพูชาอย่างรุนแรง กรณีการใช้อาวุธโจมตีเป้าหมายที่เป็นสถานพยาบาลของไทยในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานและเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างชัดเจน พร้อมกันนี้นายจิรายุ ยังเปิดภาพโรงพยาบาลบางส่วนที่ได้รับความเสียหาย ได้แก่ โรงพยาบาลพนมดงรักเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คำโปรย, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) โคก, โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ซำเม็ง “ประเทศไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมโลกจับตามองและประณามการกระทำดังกล่าว ซึ่งต่างจากประเทศไทยที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมอย่างเคร่งครัด โดยปฏิบัติการเฉพาะต่อเป้าหมายทางทหารเท่านั้น เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียแก่พลเรือ” โฆษกรัฐบาล ระบุ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังระบุว่า ข้อมูลล่าสุดจากกระทรวงสาธารณสุข ณ วันที่ 30 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น. พบว่า จากการโจมตีโดยไม่เลือกเป้าหมายของกัมพูชา ได้ส่งผลให้มีพลเรือนเสียชีวิตแล้ว 15 ราย ในพื้นที่จ.อุบลราชธานี และศรีสะเกษ บาดเจ็บสาหัส 12 […]

เหตุพลุระเบิด เสียชีวิตเพิ่มเป็น 10 คน

สุพรรณบุรี 30 ก.ค. – เหตุพลุระเบิด จ.สุพรรณบุรี พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย ที่โรงพยาบาล รวมเสียชีวิต 10 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย คืบหน้าเหตุพลุระเบิดที่จังหวัดสุพรรณบุรี ล่าสุด พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผู้บังคับการภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้มียอดผู้เสียชีวิต จำนวน 10 ราย เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 9 ราย และเสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย ขณะนี้ได้สั่งการตั้งศูนย์ ศปก. ที่วัดโพธิ์ท่าทราย ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงประสานชุด EOD เข้าเก็บกู้ดินปืน เนื่องจากตรวจสอบพบหลุมขนาดใหญ่สีดำจำนวน 2 หลุม และดินปืนจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังพบร่างผู้เสียชีวิต ชิ้นส่วนจำนวนหนึ่งบริเวณที่เกิดเหตุ ส่วนข้อมูลการตรวจสอบ พบว่าบ้านหลังนี้มีการลักลอบผลิตพลุไล่นก.-สำนักข่าวไทย