กรุงเทพฯ 2 ธ.ค.- สสว. MOU ธนาคารออมสิน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย สนับสนุน SMEs ให้เข้าถึงแหล่งทุนในการดำเนินธุรกิจ
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เผยว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจครั้งนี้ เป็นการลงนามความร่วมมือระหว่าง สสว. ธนาคารออมสิน หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ และสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เพื่อเป็นการสนับสนุนผู้ประกอบการให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นางลภาวรรณ จันทร์กระจ่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และภาครัฐ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ซึ่งธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สอดรับกับนโยบายเปิดประเทศ และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการ SMEs กลับมาดำเนินธุรกิจอีกครั้ง ธนาคารออมสินจึงพร้อมเป็นแหล่งเงินทุนช่วยเหลือ ภายใต้ความร่วมมือในครั้งนี้ ด้วยสินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรนเป็นพิเศษ คือ สินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงินสำหรับธุรกิจ Small SMEs เสริมสภาพคล่อง เพื่อการลงทุนหรือนำไปไถ่ถอนสัญญาขายฝาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา ให้กู้โดยพิจารณาจากที่ดินซึ่งเป็นหลักประกัน วงเงินกู้สูงสุดร้อยละ 70 ของราคาประเมิน (ไม่รวมสิ่งปลูกสร้าง) อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.99% ตลอดสัญญา ระยะเวลาผ่อนชำระไม่เกิน 7 ปี โดยปลอดชำระเงินต้น 2 ปี ยื่นกู้ได้ภายใน 31 มีนาคม 2565 และสินเชื่อ GSB Smooth BIZ เงินกู้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนหรือลงทุนในทรัพย์สินถาวร หรือไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปีแรก 2.99% ต่อปี ระยะเวลากู้ไม่เกิน 10 ปี วงเงินกู้สูงสุด 20 ล้านบาท รวมถึงสินเชื่ออื่นตามมาตรการช่วยเหลือต่างๆ เช่น Soft Lone สำหรับ SMEs ท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง สินเชื่อ Solf Lone ธปท. เพื่อฟื้นฟูกิจการ.-สำนักข่าวไทย