รัฐเข้ม ตรวจจับ-ปรับจริง ห้ามใช้รถควันดำ ลดฝุ่น PM2.5

กรุงเทพฯ 17 พ.ย. – กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรมการขนส่งทางบก กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และกรุงเทพมหานครดำเนินโครงการ “ตรวจ –จับ ปรับจริง ห้ามใช้รถยนต์ควันดำ” เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาฝุ่น PM2.5 จนถึงเดือนมีนาคม 2565 ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า-ออก 20 จุดต่อวัน โดยจะบังคับใช้บทลงโทษสูงสุด  


นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เปิดเผยว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ยกร่างแผนเฉพาะกิจเพื่อการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ปี 2565 โดยให้ความสำคัญกับมาตรการตรวจรถควันดำได้เพิ่มจุดตรวจเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบตรวจจับ ระงับการใช้รถควันดำจนกว่าจะนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อป้องปรามไม่ให้มีรถควันดำเข้ามาในเขตเมือง เนื่องจากผลการตรวจวัดปริมาณฝุ่น PM2.5 อย่างต่อเนื่องในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และเมืองหลัก พบว่า มีค่าสูงขึ้นในหน้าแล้งตั้งแต่เดือนตุลาคมจนถึงเดือนมีนาคมของทุกปี โดยมียานยนต์เป็นแหล่งกำเนิดที่สำคัญของฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะรถยนต์ดีเซล 

ในปีงบประมาณ 2564 คพ. ร่วมกับ กรมการขนส่งทางบก (ขบ) กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) และ กทม. ตรวจควันดำรถทุกประเภทในพื้นที่ กทม. 211,560 คัน รถที่ถูกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวได้แก้ไขและมายกเลิกคำสั่งแล้ว 1,589 คัน และมีการตรวจควันดำรถบรรทุกและรถโดยสารที่ใช้งานทั่วประเทศแล้ว 255,379 คัน พบรถที่มีค่าควันดำเกินกำหนดและพ่นห้ามใช้ 1,922 คัน สำหรับปีงบประมาณ 2565 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 16 พฤศจิกายน 2564 ในพื้นที่ กทม. ตรวจสอบ 45,482 คัน พบเกินค่ามาตรฐาน 11,459 คัน พื้นที่ต่างจังหวัดตรวจสอบ 10,898 คัน พบเกินค่ามาตรฐาน 46 คัน ซึ่งจากนี้ไปรัฐจะเพิ่มความเข้มงวดเรื่องการตรวจจับควันดำ “ตรวจจับ ปรับจริง–ห้ามใช้รถควันดำ” บังคับใช้บทลงโทษสูงสุด ตั้งจุดตรวจสอบตรวจจับรถควันดำทุกประเภท ครอบคลุมถนนสายหลัก สายรอง ทั้งขาเข้า-ออก 20 จุดต่อวัน ทั้งจังหวัดเมืองหลักจะทำพร้อมกัน โดยตั้งแต่เดือนเมษายน 2565 จะปรับปรุงค่ามาตรฐานควันดำจากรถให้เข้มงวดขึ้น 


นายชัยรัตน์ พรสวัสดิ์ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การตรวจวัดควันดำตามมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 ที่รัฐบาลกำหนด  ขบ. ได้เพิ่มความถี่การออกตรวจวัดควันดำจากรถบรรทุกและรถโดยสารบนถนนสายหลักสายรองดังนี้

1) ร่วมกับ คพ. บก.จร. และ กทม. ออกตรวจวัดควันดำรถบริเวณที่มีค่า PM2.5 สูง ในเขต กทม. และพื้นที่ต่อเนื่องเพื่อลดปัญหา PM2.5 ในเขต กทม. ชั้นใน สำนักงานขนส่งจังหวัด 15 จังหวัด ในเขตปริมณฑลและพื้นที่โดยรอบที่เข้าสู่กรุงเทพมหานคร รวมทั้งสำนักงานขนส่งจังหวัด 61 จังหวัดทั่วประเทศ ออกตรวจวัดควันดำภายในเขตพื้นที่จังหวัด สัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 4 วัน 

2) เข้มงวดการตรวจสภาพรถบรรทุกและรถโดยสารตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งดำเนินการตรวจวัดค่าควันดำรถทุกประเภทที่เข้ารับการตรวจสภาพรถที่สำนักงานและรถที่มาดำเนินการทางทะเบียนในด้านอื่นๆ ด้วย 


3) เข้มงวดตรวจสอบการดำเนินการของสถานตรวจสภาพรถเอกชนในพื้นที่รับผิดชอบ  

4) แจ้งขอความร่วมมือส่วนราชการในจังหวัดนำรถเข้ามาตรวจวัดควันดำ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัด นอกจากนี้ ยังเปิดช่องทางให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาควันดำ ผ่านทางสายด่วน 1584

พ.ต.อ. ชัยณรงค์ ทรัพยสาร ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) กล่าวว่า บก.จร. ได้มีการจัดชุดปฏิบัติการจำนวน 20 ชุด รวมถึงบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการตรวจจับควันดำ ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ทุกอย่างตามกฎหมาย โดยจะเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมาย มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ธำรงไว้ซึ่งความยุติธรรม  

ว่าที่ ร.ต. วิรัช ตันชนะประดิษฐ์ ผู้อำนวยการกองจัดคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กรุงเทพมหานครจัดทำแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินงาน 4 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ กลุ่มงานยานพาหนะ กลุ่มผู้ประกอบการโรงงาน  กลุ่มการเผาในที่โล่ง กลุ่มแหล่งก่อสร้าง โดยจากข้อมูลพบว่า ปัญหาหลักของฝุ่นละออง PM2.5 มีสาเหตุมาจากยานยนต์เป็นหลัก ทั้งนี้ ได้มีการรณรงค์ให้ประชาชนบำรุงรักษาเครื่องยนต์ให้มีสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ในเขตเมือง

สำหรับวันนี้ ทุกหน่วยงานร่วมกันติดตามการตรวจจับรถยนต์ควันดำที่ด่านพระรามสองขาเข้า (หน้าบิ๊กซี) ซึ่งตรวจ 49 คันแบ่งเป็นรถยนต์ 21 คันและรถบรรทุก 28 คัน โดยมีรถยนต์ 1 คันซึ่งค่าควันดำอยู่ที่ร้อยละ 80.9  จึงถูกห้ามใช้ชั่วคราวและมีรถบรรทุก 5 คันซึ่งวัดค่าควันดำได้เกินมาตรฐาน อยู่ที่ร้อยละ 60.5 – 100 จึงถูกห้ามใช้เช่นกัน

ทั้งนี้ ประชาชนที่พบเห็นรถควันดำสามารถแจ้งสายด่วนกรมควบคุมมลพิษ 1650 หรือสายด่วนกรมการขนส่งทางบก 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง ทาง Facebook 1584 ร้องเรียนรถโดยสารสาธารณะ https://www.facebook.com/dlt1584 และ Line@: @1584DLT .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาเซลเซียส กับมีลมแรงในภาคอีสาน ส่วนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคอีสานตอนล่าง ภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน