กรุงเทพฯ 14 ก.ย.-ตลาดหลักทรัพย์ฯ ร่วมกับ ก.ล.ต. จัดงาน “LiVE Demo Day : The New Road to Capital Market” ตอกย้ำบทบาทการส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs และ Startups เข้าถึงแหล่งทุน เผยมีบริษัทหลักทรัพย์สนใจเข้าร่วมทดสอบระบบเพื่อให้บริการ LiVE Exchange แล้วกว่า 25 ราย คาดเปิดบริการสิ้นปี 2564
นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท. ) เปิดเผยว่า ตลท. เห็นความสำคัญของผู้ประกอบการรายเล็กโดยเฉพาะ SMEs และ Startups ที่มีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจประเทศ โดยมีแผนกลยุทธ์สำคัญในการเสริมศักยภาพและสนับสนุนการระดมทุนของธุรกิจเหล่านี้ ล่าสุด ร่วมกับ ก.ล.ต. จัดงาน “LiVE Demo Day : The New Road to Capital Market” ตอกย้ำบทบาทการส่งเสริมครบทุกมิติ เช่น พัฒนาผู้ประกอบการผ่าน LiVE Platform ช่วยเตรียมความพร้อมในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดทุน โดยร่วมกับพันธมิตรในทุกภาคส่วน พัฒนาบริการต่าง ๆ เพื่อมุ่งตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการ จัดทำ e-Learning เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ขั้นพื้นฐานและเชิงลึก การให้บริการ Business Coaching ผ่านโครงการ LiVE Acceleration Program และ LiVE Incubation Program เป็นต้น โดยรับเงินทุนมาจากกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (CMDF)
นอกจากนี้ ยังเตรียมจัดตั้ง LiVE Exchange ซึ่งเป็นตลาดรองสำหรับ SMEs และ Startups ที่มีการระดมทุนในวงกว้าง (IPO) โดยได้ทำงานร่วมกับ ก.ล.ต. พัฒนาหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุน การจดทะเบียนและการซื้อขายในตลาดรอง หวังเพิ่มช่องทางการระดมทุนสำหรับ SMEs และ Startups ซึ่งได้เปิดรับฟังความคิดเห็น (Public Hearing) ไปเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างการจัดทำหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จะมีกลไกการซื้อขายและการกำกับดูแลที่แตกต่างจาก SET และ mai รูปแบบการซื้อขายจะเป็นลักษณะ Auction-based วันละ 1 รอบ และชำระราคาและส่งมอบหุ้นภายในวัน โดยจะมีการจำกัดประเภทผู้ลงทุนให้สอดคล้องกับความเสี่ยงในการลงทุน เบื้องต้นมีบริษัทหลักทรัพย์ที่สนใจเข้าร่วมทดสอบระบบเพื่อให้บริการ LiVE Exchange แล้วกว่า 25 ราย คาดเปิดให้บริการได้ภายในสิ้นปี 2564 นี้
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รัฐบาลได้พยายามเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น SME ที่มีลูกจ้างไม่เกิน 200 คน มีการดูแลแรงงานในระบบและนอกระบบประกันสังคม ต้องยอมรับว่าผลกระทบกับ SME รอบนี้ ค่อนข้างจะสาหัส หลายร้าน หลายบริษัทต้องปิดตัว หรือไปกู้หนี้ยืมสิน ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)ก็ร่วมดูแลมีมาตรการเช่น พักชำระหนี้ ปรับโครงสร้างหนี้..มาตรการสินเชื่อฟื้นฟู เบิกจ่ายไปแล้วเกือบแสนล้านบาท มี SME เข้ามา 3 หมื่นกว่าราย ซึ่งยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับ SME ทั้งประเทศที่มีอยู่กว่า 3 ล้านราย ส่วนมาตรการพักทรัพย์พักหนี้ มีเข้ามาแล้ว 74 ราย มูลค่ารับโอนทรัพย์สิน 11,000 ล้านบาท
สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยตั้งแต่ต้นปี โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2/64 ที่ขยายตัวได้ 7.5% และหากเทียบรายไตรมาส จะพบว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มดีขึ้นเป็นลำดับ แม้จะยังไม่ฟื้นตัวได้แข็งแรงมากนักก็ตาม แต่ก็เริ่มเห็นแนวโน้มที่จะกลับมาดีขึ้น และการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ตั้งแต่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา เป็นความพยายามของรัฐบาลที่จะสร้างสมดุลระหว่างการดูแลด้านสาธารณสุขกับด้านเศรษฐกิจ
“การที่ ตลท.และ ก.ล.ต.ได้แนะนำ Live แพลตฟอร์ม และ Live Exchange ซึ่งเป็นช่องทางหนึ่งในการช่วย Set up ให้แก่ SME ได้เตรียมตัวก่อนที่จะเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ตลาดทุนของไทยยังมีโอกาสดี หุ้นไทยไม่ได้แย่เมื่อเทียบกับประเทศอื่น จึงยังมองเห็นการฟื้นตัว และ SMEs ที่จะเป็นดาวรุ่งได้ จะต้องคำนึงถึงทิศทางของประเทศว่าจะก้าวไปทางไหน ซึ่งต้องดูแนวนโยบายของรัฐบาลควบคู่ไปด้วย เช่น โครงการในอีอีซี โครงการ new S curve ซึ่งทิศทางที่ธุรกิจไทยจะเติบโตไปในอนาคตได้ ต้องคำนึงถึงใน 3 ด้าน คือ ไบโอชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับเหล่านี้ จะถือเป็นโอกาสของเราทุกคน” รมว.คลังระบุ
นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการ ก.ล.ต.กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME กว่า 3 ล้านราย มีการจ้างงานทั่วประเทศกว่า 12 ล้านคน สร้างจีดีพีได้สูงถึงในสัดส่วน ร้อยละ34 โดย ก.ล.ต.ช่วยให้ เอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดทุน ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่กลางปี 2562 ทั้งในเรื่องการออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนในตลาดทุน ควบคู่กับการให้ความรู้ มีการออกหลักเกณฑ์เพื่อรองรับการเสนอขายหลักทรัพย์ในวงจำกัด (SME-PP) ของบริษัทจำกัด และปรับปรุงการระดมทุนผ่านระบบคราวด์ฟันดิง (crowdfunding) ปัจจุบันมีผู้ประกอบการที่ระดมทุนผ่าน SME-PP และ crowdfunding จำนวน 83 ราย มูลค่าระดมทุนรวม 795 ล้านบาท (ณ วันที่ 31 ส.ค. 2564)
นอกจากนี้ เพื่อให้การระดมทุนในตลาดทุนครอบคลุมกิจการ SMEs และ Startups ก.ล.ต. จึงได้ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกหลักเกณฑ์รองรับการระดมทุนในวงกว้างของ SMEs และ Startups (SME-PO) และนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดรอง (LiVE Exchange) โดยพิจารณาผ่อนปรนหลักเกณฑ์เพื่อให้มีความเหมาะสม และยังคงหลักการเรื่องการคุ้มครองผู้ลงทุนที่เหมาะสม ซึ่งคาดว่าหลักเกณฑ์ SME-PO จะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2564
งาน “LiVE Demo Day : The New Road to Capital Market” จัดขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2564 เวลา 10.00–16.30 น. ในรูปแบบ virtual conference โดยมีหลากหลายหัวข้อสัมมนาน่าสนใจ และมี 21 บริษัท SMEs และ Startups จาก LiVE Acceleration Program 2020 มานำเสนอข้อมูลธุรกิจและศักยภาพการเติบโตสู่การระดมทุนในอนาคต ผู้สนใจดูรายละเอียดและติดตามรับชมที่ www.facebook.com/LiVE.Platform.SET/ www.facebook.com/set.or.th หรือwww.youtube.com/setgroupofficial.-สำนักข่าวไทย