กรุงเทพฯ 13 ก.ย. – รมว. เกษตรฯ ไทยกับรมช. ศุลกากรจีนร่วมลงนามพิธีสารฉบับใหม่ว่าด้วยการส่งออกและนำเข้าผลไม้ทางบก เพิ่มช่องทางกระจายสินค้าให้เกษตรกร ตลอดจนทางเลือกให้ผู้ประกอบการไทย มั่นใจปริมาณการส่งออกขยายตัว โดยปี 65 จะมีมูลค่ามากกว่า 1 แสนล้านบาท
นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวว่า ได้ลงนามพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาชนจีน กับ Mr.Wang Lingjun รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยพิธีสารฉบับใหม่นี้จะมีผลให้ด่านนำเข้าของจีนที่จะเปิดรับผลไม้ 22 ชนิดจากไทยเพิ่มขึ้น 6 ด่านได้แก่ ด่านรถไฟโม่ฮาน เหอโข่ว ด่านรถไฟเหอโข่ว หลงปัง เทียนเป่า และสุยโข่ว ส่วนด่านนำเข้าของไทยที่เปิดรับสินค้าเกษตรจากจีนเพิ่มได้แก่ บึงกาฬและหนองคาย
ที่ผ่านมา ไทยและจีนได้มีการลงนามพิธีสารเกี่ยวการส่งออกและนำเข้าผลไม้ทางบกผ่านประเทศที่สาม 2 ฉบับ ได้แก่ เส้นทาง R9 เมื่อพ.ศ. 2552 และเส้นทาง R3A เมื่อพ.ศ. 2554 แต่ทั้ง 2 เส้นทางขยายตัวอย่างรวดเร็วจึงเกิดปัญหาการจราจรติดขัดบริเวณหน้าด่านนำเข้าของจีน โดยเฉพาะด่านโหย่วอี้กว่านซึ่งส่งผลให้รถขนส่งสินค้าติดอยู่ที่ชายแดนจีนเป็นเวลานาน กระทบต่อผลไม้สดไทยที่ส่งออกไปจีน โดยเฉพาะทุเรียนเสียหาย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงหารือแนวทางการแก้ไขปัญหากับจีนเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2562 และต่อมาต้นปี 2563 ได้มอบหมายสำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) และกรมวิชาการเกษตรหารือกับจีน เพื่อจัดทำร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดในการกักกันโรคและตรวจสอบสำหรับการส่งออกและนำเข้าผลไม้ผ่านประเทศที่สามจนสำเร็จลุล่วง จึงได้มีการลงนามร่วมกันในวันนี้
จากเดิมผลไม้ไทยที่ส่งออกไปยังจีนมีช่องทางส่งเพียง 4 ด่านได้แก่ โหย่วอี้กว่าน โม่ฮาน ตงซิง และด่านรถไฟผิงเสียง เมื่อลงนามพิธีสารฉบับใหม่จึงเพิ่มอีก 6 ด่าน รวมเป็น 10 ด่าน ส่วนด่านนำเข้าของไทยซึ่งจีนส่งสินค้าเกษตรได้จากเดิมมี 4 ด่านได้แก่ เชียงของ มุกดาหาร นครพนม และบ้านผักกาด เมื่อเพิ่มอีก 2 ด่านจึงรวมเป็น 6 ด่าน
หลังจากนี้ มอบหมายให้กรมวิชาการเกษตรซึ่งรับผิดชอบการตรวจสอบกักกันพืชและออกใบรับรองสุขอนามัยพืชเร่งแจ้งเวียนรายชื่อด่านที่จีนและไทยอนุญาตให้นำเข้าและส่งออกผลไม้ตามพิธีสารฉบับใหม่ให้ด่านตรวจพืชต่างๆ และผู้ประกอบการ พร้อมประกาศรายชื่อด่านดังกล่าวลงในเว็บไซต์ของกรม รวมทั้งประสานกับจีน เพื่อกำหนดแนวทางการแลกเปลี่ยนใบรับรองสุขอนามัยพืชผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ระหว่างด่านนำเข้า – ส่งออกเพื่อให้เกิดความสะดวก
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า ผลไม้ไทยที่ส่งออกไปจีนมาก 3 อันดับแรกได้แก่ ทุเรียน มังคุด และ ลำไย ซึ่งจากข้อมูลการส่งออกผลไม้ไทยไปจีน เฉพาะที่มีใบรับรองสุขอนามัยพืช โดยผ่านเส้นทาง เส้นทาง R9 (มุกดาหาร นครพนม – โหย่วอี้กวน) และ R3A (เชียงของ-โม่ฮาน) พบว่า ไทยมีปริมาณการส่งออกและมูลค่าเติบโตต่อเนื่อง จะเห็นได้จาก 3 ปีที่ผ่านมา มีปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเฉลี่ยร้อยละ 13 ต่อปี และมูลค่าเพิ่มขึ้นเฉลี่ยถึงร้อยละ 50 ต่อปี โดยปี 2561 ส่งออกผลไม้ผ่าน R9 และ R3A รวมปริมาณ 421,657 ตัน มูลค่า 17,857 ล้านบาท และในปี 2564 ระยะเวลา 8 เดือน (มกราคม – 7 กันยายน 2564) ส่งออก 691,653 ตัน มูลค่า 66,370 ล้านบาท โดยคาดว่า การที่จีนเพิ่มด่านนำเข้าผลไม้จากไทยจะช่วยให้มูลค่าการส่งออกผลไม้จากไทยในปี 2565 เพิ่มขึ้น รวมไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท. – สำนักข่าวไทย