พบฝูงโลมาเผือกว่ายน้ำเล่นที่อ่าวท้องหยี

นครศรีธรรมราช 13 ส.ค. – เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พบฝูงโลมาเผือกกำลังว่ายน้ำเล่นบริเวณอ่าวท้องหยี แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลไทย


เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติหาดขนอม-หมู่เกาะทะเลใต้ จ.นครศรีธรรมราชสำรวจพบฝูงโลมาหลังโหนกกำลังว่ายน้ำเล่นบริเวณอ่าวท้องหยี ต. อ่าวขนอม อ. ขนอม จ. นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อยู่ในสถานะ “สัตว์คุ้มครอง” ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครอง พ.ศ.2535 และอยู่ในบัญชี 1 ของอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้จะสูญพันธุ์

ทั้งนี้ โลมาเผือก มีชื่อเรียกโดยทั่วไปว่า โลมาหลังโหนก (Humpback dolphin, Sousa chinensis) หรืออีกชื่อหนึ่งคือ โลมาสีชมพู เป็นโลมาประจำถิ่นที่อาศัยบริเวณแนวชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณปากแม่น้ำ กินปลาและหมึกเป็นอาหาร อยู่รวมกันเป็นฝูง 10-20 ตัว อาจพบอยู่เป็นคู่หรือเดี่ยว แรกเกิดจะลำตัวสีเทาความยาวประมาณ 1 เมตร เมื่ออายุมากขึ้นจะมีประขาวเพิ่มมากขึ้นและเมื่อโตเต็มที่จะมีความยาวมากถึง 3.2 เมตร หนัก 250 กิโลกรัม โดยลำตัวจะมีสีขาวเทาหรือขาวอมชมพู จึงเป็นที่มาของชื่อ โลมาเผือก


สำหรับโลมาชนิดนี้อาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำ ซึ่งหากระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ มีทั้งปะการัง หญ้าทะเล และป่าชายเลน จะเป็นแหล่งเลี้ยงดูที่สำคัญของสัตว์วัยอ่อนที่สำคัญ โดยจะมีโอกาสพบสัตว์ทะเลหายากชนิดอื่นได้แก่ โลมาอิรวดี โลมาหัวบาตรหลังเรียบ และพะยูนด้วย

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวชมโลมาและวาฬในประเทศไทย เช่น โลมาอิรวดีที่ปากแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โลมาอิรวดีที่อ่าวตราด จ.ตราด โลมาหลังโหนกหรือโลมาเผือกที่อ่าวขนอม จ.นครศรีธรรมราช โลมาหลังโหนกที่บ้านตะเสะ จ.ตรัง และวาฬบรูด้าบริเวณอ่าวไทยตอนบน นอกชายฝั่งของ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี โดยย้ำว่า การชมโลมาและวาฬโดยทางเรือนั้น ต้องปฏิบัติตามคู่มือการชม และจำกัดจำนวนเรือเพื่อไม่ให้รบกวนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของโลมาและวาฬได้แก่ การกินอาหาร เลี้ยงดูลูก หรือผสมพันธุ์ ตลอดจนอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์เหล่านี้ ทำให้บาดเจ็บ หรืออาจเป็นสาเหตุทำให้สัตว์เกิดการเจ็บป่วยเรื้อรังเช่น ผลกระทบจากเรื่องเสียงใต้น้ำ (Under water sounds) การเฉี่ยวชนจากเรือ (Vessel strike) เป็นต้น ผลกระทบของเสียง (Noise as a stressor) จะไปรบกวนการสื่อสารระหว่างกันในฝูง ลดความสามารถในการได้ยินเสียงระหว่างกัน ทำให้สูญเสียความสามารถในการกำหนดทิศทางการเดินทางและการหาเหยื่อ รบกวนการพักผ่อน หรือปฏิกิริยาของสัตว์ต่อสังคมในฝูงเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเปลี่ยนไปทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาว

นอกจากนี้ยังแนะนำได้การชมโลมาและวาฬในต่างประเทศซึ่งมี 3 วิธี คือ 1) ทางเรือขนาดกลางถึงใหญ่ 2) เรือแคนู (Sea kayak) และ 3) ทางบก โดยการปีนขึ้นไปดูบนที่สูงบริเวณชายฝั่ง (Hiking) การท่องเที่ยวเพื่อชมวาฬครั้งแรกคือการดูวาฬสีน้ำเงิน (Blue whale) เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1955 ที่ซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1985 ที่ประเทศอังกฤษ นักท่องเที่ยวนิยมไปชมวาฬหลังค่อม (Humpback whale)  กันมาก เพราะวาฬหลังค่อมมีพฤติกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การโผล่ขึ้นกินอาหาร (Lunge feeding) การกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำทะเล (Breaching) การโบกสะบัดหาง (Tail-slapping) และหลังจากปี ค.ศ. 1980 เป็นต้นมา ธุรกิจการท่องเที่ยวชมโลมาและวาฬมีการแพร่กระจายไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก มากกว่า 87 ประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี ประมาณรายได้จากธุรกิจนี้ทั่วโลกในปี ค.ศ. 2000 จากนักท่องเที่ยวจำนวน 11.3 ล้านคน ประมาณ 1.475 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]