ข้าวไทยไปมาเลเซียครึ่งปีหลังมีส่งสัญญาณนำเข้าจากไทยเพิ่มขึ้น

นนทบุรี 11 ส.ค.-กรมการค้าต่างประเทศจับมือสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยหารือหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (BERNAS) ผ่านระบบ Video Conference คาดครึ่งปีหลังมาเลเซียนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัจจัยบวกด้านราคาทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้น


นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 กรมการค้าต่างประเทศร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ในฐานะ Salesman ประเทศ ได้จัดการประชุมหารือกับหน่วยงานกำกับดูแลการนำเข้าข้าวของรัฐบาลมาเลเซีย (Padiberas Nasional Berhad : BERNAS) ผ่านระบบ Video Conference โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลักดันการส่งออกข้าวไทยไปยังมาเลเซียในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รวมทั้งกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและหารือเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าว

 ทั้งนี้ ในการประชุมครั้งนี้ ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์ตลาดข้าวของไทยและมาเลเซีย โดยฝ่ายไทยได้แจ้งให้ BERNAS ทราบถึงสถานการณ์การผลิตข้าวของไทยในปี 2564 ซึ่งคาดว่าไทยจะมีผลผลิตข้าวมากขึ้นเนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนที่เพียงพอ รวมทั้งแรงงานในภาคการผลิตที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีแรงงานกลับสู่ภูมิลำเนาในช่วงสถานการณ์โควิด ทั้งนี้ คาดการณ์ผลผลิตที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวประกอบกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง ส่งผลให้ปัจจุบันราคาข้าวไทยปรับตัวลงมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับข้าวจากประเทศคู่แข่ง เช่น อินเดียและเวียดนาม ฝ่ายไทยจึงขอให้ BERNAS พิจารณานำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้น


อย่างไรก็ตาม ผู้แทน BERNAS ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดข้าวในมาเลเซียว่า มาเลเซียมีผลผลิตข้าวไม่เพียงพอต่อความต้องการในประเทศ จึงต้องพึ่งพาการนำเข้าข้าวจากต่างประเทศประมาณปีละ 9 แสนตัน หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณร้อยละ 30-35 ของปริมาณความต้องการบริโภคทั้งหมด ซึ่งในปี 2564 นี้ คาดว่ามาเลเซียจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีปริมาณ 1.08 ล้านตัน เนื่องจากมีปัญหาด้านการเพาะปลูกในประเทศ ทั้งนี้ ประเทศไทยถือเป็นแหล่งนำเข้าข้าวหลักของมาเลเซียมาโดยตลอดเนื่องจากข้าวไทยมีคุณภาพดีและเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวมาเลเซีย อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา BERNAS จำเป็นต้องนำเข้าข้าวจากแหล่งอื่น เช่น อินเดีย ปากีสถาน และเวียดนาม เพิ่มขึ้น แม้ว่าคุณภาพข้าวจะด้อยกว่าไทยแต่เนื่องจากประเทศเหล่านี้สามารถส่งข้าวในราคาที่ถูกกว่าข้าวไทยมาก

นอกจากนี้  BERNAS เห็นว่าในช่วงครึ่งหลังของปี 2564 อุปสงค์ของข้าวไทยจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อได้ ทั้งนี้ นอกจากปัจจัยด้านราคาที่ปรับตัวลดลงทำให้ข้าวไทยแข่งขันได้มากขึ้นแล้ว ผู้บริโภคในมาเลเซียยังเชื่อมั่นในคุณภาพและนิยมข้าวไทยมากกว่าข้าวจากแหล่งอื่น โดยจะเห็นได้จากปริมาณคำสั่งซื้อข้าวจากไทยที่เริ่มมีมากขึ้นในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการนำเข้าเพิ่มขึ้นอีกในช่วงครึ่งปีหลัง นอกจากนี้ BERNAS ยังมีข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดและประชาสัมพันธ์ข้าวไทยในมาเลเซียว่าควรเริ่มดำเนินการในช่วงเดือนตุลาคมเป็นต้นไป เนื่องจากคาดว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะเริ่มคลี่คลาย ประชาชนจะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปกติ รวมถึงอุปสงค์จากธุรกิจโรงแรม ร้านอาหารจะเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติมากขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยที่ช่วยให้อุปสงค์ข้าวไทยเพิ่มขึ้นด้วย ทั้งนี้ BERNAS แสดงความขอบคุณไทยสำหรับความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาโดยตลอดโดยเฉพาะในฐานะแหล่งนำเข้าข้าวที่มีคุณภาพ และยินดีที่จะร่วมสนับสนุนข้าวไทยในตลาดมาเลเซีย

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์โควิด – 19 ส่งผลให้กรมฯ ไม่สามารถเดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับผู้นำเข้าข้าวหลักในประเทศต่าง ๆ ได้ แต่กรมฯ ยังคงมีแผนจัดการประชุมหารือและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศผู้นำเข้าข้าวรายสำคัญของไทย ผ่านระบบ Video Conference อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดโลกเพิ่มมากขึ้นในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโลก โดยที่ผ่านมา ได้มีการหารือผ่านระบบ Video Conference กับสมาคมผู้นำเข้าข้าวของฮ่องกงและผู้นำเข้าข้าวฟิลิปปินส์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ในระยะต่อไปกรมฯ มีแผนหารือกับบังกลาเทศ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ เพื่อผลักดันและส่งเสริมให้ข้าวไทยมีส่วนแบ่งในตลาดเป้าหมายเพิ่มขึ้นต่อไป


ทั้งนี้ สถานการณ์ส่งออกข้าวไทยตั้งแต่ (1 ม.ค. – 29 ก.ค.) ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 2.74 ล้านตัน คิดเป็นมูลค่า 1,671 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินบาทประมาณ 50,925 ล้านบาท ปริมาณและมูลค่าส่งออกลดลงจากปี 2563 คิดเป็นร้อยละ 17.07 และร้อยละ 24.84 ตามลำดับ แต่คาดว่าในช่วง 6 เดือนหลังสถานการณ์การส่งออกข้าวไทยน่าจะดีกว่า 6 เดือนแรกตามปัจจัยที่ได้กล่าวไปแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง