กนอ. เปิดรับฟังความเห็น “โครงการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด เฟส 3”

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – กนอ. เปิดรับฟังความเห็นเอกชนออนไลน์ “โครงการพัฒนาท่าเรือฯมาบตาพุด เฟส 3” ช่วงที่ 2


นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เป็นประธานในพิธีเปิดการสัมมนาออนไลน์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชนในโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 (ช่วงที่ 2) โดยระบุว่า โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เป็นหนึ่งในโครงการสำคัญเร่งด่วนในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี โดย กนอ. เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการลงทุน และนำความเชี่ยวชาญด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงาน เพื่อเสริมสร้างการเติบโตของภาคอุตสาหกรรม และให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ ซึ่งโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ในช่วงที่ 2 นี้ กำหนดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุนโครงการ ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2561 เป็นรูปแบบ PPP Net Cost โดยประโยชน์ที่เอกชนจะได้รับนั้น จะมาจากการดำเนินกิจการท่าเรือสินค้าเหลวและคลังสินค้าหรือธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ส่วน กนอ.จะมีรายได้จากค่าให้สิทธิการร่วมลงทุน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าดำเนินการท่าเรือ ค่าบริการสาธารณูปโภค และค่าธรรมเนียมสินค้าผ่านท่า

“การจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากนักลงทุนภาคเอกชน (Market Sounding) เมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อทำให้ทราบถึงความสนใจของนักลงทุน และการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการตัดสินใจลงทุน รวมถึงได้รับข้อมูลที่จำเป็นครบถ้วน เพื่อใช้ประกอบการจัดทำเอกสารคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : RFP) ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการจัดทำแนวทางการดำเนินงานโครงการต่อไป โดยคาดว่าจะสามารถประกาศเชิญชวนเอกชนเพื่อยื่นข้อเสนอร่วมลงทุนได้ภายในปลายปี 2564 จากนั้นกำหนดคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนและลงนามสัญญาร่วมทุนในเดือนตุลาคม 2565 และจะเริ่มก่อสร้างโครงการในปี 2567 โดยพร้อมเปิดดำเนินการได้ในปี 2569” นายวีริศกล่าว


โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 แบ่งการพัฒนาโครงการเป็น 2 ช่วง คือ ช่วงที่ 1 การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ได้แก่ งานขุดลอกและถมทะเล งานระบบสาธารณูปโภค งานอุปกรณ์เดินเรือ และการพัฒนาท่าเรือก๊าซบนพื้นที่ 200 ไร่ โดย กนอ. ได้ลงนามสัญญาร่วมลงทุนโครงการ กับบริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (GMTP) เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 ระยะเวลาสัมปทานทั้งสิ้น 35 ปี โดยขณะนี้เป็นการดำเนินงานในช่วงที่ 2 กนอ.กำลังดำเนินการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนก่อสร้างท่าเทียบเรือ ติดตั้งอุปกรณ์ และการบริหารจัดการท่าเรือบริการสินค้าเหลวบนพื้นที่แปลง A บนเนื้อที่ 200 ไร่ ความยาวหน้าท่าประมาณ 814 เมตร และพื้นที่แปลง C บนเนื้อที่ 150 ไร่ (มีเฉพาะพื้นที่หลังท่า) สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอื่นๆ และเมื่อท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 เปิดให้บริการเต็มศักยภาพจะสามารถรองรับสินค้ากลุ่มน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติเหลว และสินค้าเหลว โดยคาดว่าปริมาณการขนส่งสินค้าเหลวจะเพิ่มขึ้นจาก 27 ล้านตันต่อปีเป็น 31 ล้านตันต่อปี ซึ่งเอกชนจะได้รับสิทธิพัฒนาพื้นที่แปลง A และแปลง C เป็นระยะเวลาแปลงละ 32 ปี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน