กรมอุทยานฯ สั่งขับไล่รีสอร์ทหรูพ้นจากแม่น้ำแควน้อย

กาญจนบุรี 6 ส.ค. – กรมอุทยานฯ สั่งขับไล่รีสอร์ทหรู ซึ่งสร้างรุกล้ำแม่น้ำแควน้อยในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ภายใน 30 วันนับแต่วันติดป้ายประกาศคำสั่ง


นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค พร้อมเจ้าหน้าที่รวม 20 นายได้เดินทางไปปิดประกาศคำสั่งขับไล่ โดยระบุให้นายวสันต์ สดใส เจ้าของ “รีสอร์ทแพไทรโยคโฟลทเทล” ราคาประมาณ 20 ล้านบาท ที่ก่อสร้างอยู่ในแม่น้ำแควน้อย ท้องที่บ้านไทรโยคใหญ่ หมู่ที่ 7 ตำบลไทรโยค อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรีซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยค ทั้งนี้ต้องให่เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อยในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคภายใน 30 วันนับแต่วันติดป้ายประกาศคำสั่ง

ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 อุทยานแห่งชาติไทรโยคได้ตรวจยึดรีสอร์ทแพดังกล่าวและแจ้งข้อหานายวสันต์ในข้อหา “ก่อสร้าง และยึดถือครอบครอง ที่ดิน และแม่น้ำ ในเขตอุทยานแห่งชาติไทรโยคโดยมิได้รับอนุญาต” ส่งดำเนินคดีต่อพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี ต่อมา อัยการจังหวัดกาญจนบุรีมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวสันต์เพราะขาดเจตนาการกระทำผิด ทำให้คดีอาญายุติไป โดยห้ามมิให้มีการสอบสวนเกี่ยวกับบุคคลนั้นอีก เว้นแต่จะได้พยานหลักฐานใหม่อันสำคัญแก่คดี ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 147


สำหรับคดีปกครอง ศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาให้นายวสันต์เคลื่อนย้ายรีสอร์แพดังกล่าว ออกไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อย โดยนายวสันต์ไม่อุทธรณ์ ต่อศาลปกครองสูงสุด จนคดีถึงที่สุดตามคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง

นายนิพนธ์กล่าวต่อว่า การออกคำสั่งให้นายวสันต์เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าวไปให้พ้นจากแม่น้ำแควน้อยเป็นไปตามที่ศาลปกครองกลางก็ได้มีคำพิพากษา ถึงแม้อัยการจังหวัดกาญจนบุรีจะมีคำสั่งไม่ฟ้องนายวสันต์ก็ตาม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค จึงมีอำนาจในการประกาศคำสั่งดังกล่าวได้ และหากนายวสันต์ดื้อดึง ไม่เคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าวภายใน 30 วันแล้ว หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยคจะเข้าเคลื่อนย้ายรีสอร์ทแพดังกล่าวด้วยตนเอง และนายวสันต์จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายเป็นเงิน 5 แสนบาทอีกด้วย

นอกจากนี้ การดื้อดึงไม่เคลื่อนย้ายอาจจะมีความผิดตามพ.ร.บ. อุทยานแห่งชาติ 2562 มาตรา 35 (1) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า หากมีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ที่สั่งให้บุคคลออกจากอุทยานแห่งชาติ หรือให้งดเว้นการกระทำใดๆ หรือให้เคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากอุทยานแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือนหรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และบุคคลนั้นยังต้องระวางโทษปรับรายวันอีกวันละไม่เกิน 10,000 บาทจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง รวมทั้งอาจมีความผิดตามพ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน 2542 มาตรา 3 (15) เป็นความผิดเกี่ยวกับการแสวงหาประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย อันมีลักษณะเป็นการค้า ซึ่งจะต้องถูกพนักงานเจ้าหน้าที่ยึดทรัพย์สินต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก