กรุงเทพฯ 16 ก.ค. – เลขาธิการสภากาชาดไทยระบุเปิดให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดจองวัคซีนโมเดอร์นาจากสภากาชาดไทย โดยบริจาคเข้ากองทุนเพื่อจัดหาวัคซีนและยารักษาโควิด-19 แต่ต้องนำไปฉีดให้ประชาชนกลุ่มเปราะบางฟรี ยืนยันสั่งจองจากบริษัทตัวแทนผู้ผลิต 1 ล้านโดสแต่ต้น ไม่ได้แย่งโควตาหน่วยงานใด
นายเตช บุนนาค เลขาธิการสภากาชาดไทยกล่าวว่า ได้รับแจ้งจากองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ที่จะทำสัญญาซื้อ-ขายวัคซีนโมเดอร์นากับบริษัทซิลลิค ฟาร์มา ซึ่งเป็นตัวแทนผู้ผลิตว่า จะส่งมอบวัคซีนได้ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้และไตรมาสแรกของปี 2565 เมื่อวัคซีนมาถึง สภากาชาดไทยจะจัดสรรวัคซีนส่วนหนึ่ง สำหรับที่สภากาชาดไทยจะฉีดแก่กลุ่มเป้าหมายเอง อีกส่วนหนึ่งจัดสรรให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นำไปฉีดในพื้นที่ โดยทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อขอความร่วมมือแจ้ง อบจ. ที่ต้องการสั่งจองวัคซีนมาที่สภากาชาดไทยไทยภายในวันที่ 21 กรกฎาคมนี้ โดยบริจาคเข้ากองทุนสภากาชาดไทย เพื่อจัดหาวัดชีนโควิด-19 และยารักษาโรคโควิด-19 สำหรับประชาชน” ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดอัตราบริจาคต่อโดสเพราะทางบริษัทยังไม่สรุปราคาจำหน่ายแก่อภ. แต่คาดว่า จะทราบราคาที่แน่นอนใน 1-2 สัปดาห์
สำหรับแนวทางการบริหารจัดการวัคซีนนั้น สภากาชาดไทยที่เป็นองค์กรด้านสาธารณกุศล ดำเนินกิจกรรมช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ของประชาชน จึงจะฉีดวัคซีนโดยไม่คิดมูลค่า ดังนั้น อบจ. ต้องจัดทำ “แผนการขอรับการจัดสรรวัคซีน” ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัด พร้อมระบุจำนวนคนแต่ละกลุ่มเป้าหมายที่สภากาชาดไทยกำหนด 5 กลุ่ม ตามลำดับได้แก่ 1.คนพิการ ผู้ป่วยติดเตียง สตรีตั้งครรภ์ที่ยังไม่เคยได้รับวัดนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน 2. ผู้สูงอายุ 70 ปีขึ้นไปที่ยังไม่เคยได้รับวัคนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน 3.บุคลากรทางการแพทย์และพยาบาลในถิ่นทุรกันดาร 4.ผู้ที่ทำงานประจำอยู่ในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ครูผู้สอนในโรงเรียนอนุบาล หรือครู อาจารย์ ผู้ที่ทำหน้าที่สอนหนังสือในโรงเรียนที่ยังไม่เคยได้รับวัดนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน 5.บุคลากรที่ต้องออกปฏิบัติงานสัมผัสประชาชน ตามโครงการฉีดวัคซีนขององค์การบริหาร
ส่วนจังหวัด (อบจ.) ที่ยังไม่เคยได้รับวัคนป้องกันโรคโควิด-19 มาก่อน และบุคคลที่ยังไม่สามารถรับการฉีดเนื่องจากติดขัดระเบียบหรือกฎหมาย
ทั้งนี้ เงื่อนไขสำคัญคือ อบจ. ต้องฉีดวัคซีนให้ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่าและห้ามนำไปจำหน่ายโดยเด็ดขาด ส่วนจะเปิดให้หน่วยงานอื่นใดจองเพิ่มเติมได้หรือไม่ คณะกรรมการสภากาชาดไทยจะประชุมพิจารณาต่อไป
นายเตชกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาวัคซีนที่สภากาชาดไทยหาวัคซีนทางเลือกโดยพิจารณาจากวิทยาการความก้าวหน้าของวัคซีนจึงเลือกวัคซีนชนิด mRNA โดยเจรจากับบริษัทซิลลิค ฟาร์มาตั้งแต่เดือนเมษายนซึ่งขณะนั้นวัคซีนโมเดอร์นายังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การอาหารและยา (อย.) แต่ทางบริษัทซิลลิคไม่ทำสัญญาซื้อ-ขายกับสภากาชาดไทยโดยตรง แต่ต้องการทำสัญญากับหน่วยงานรัฐเท่านั้นเช่นเดียวกับบริษัทที่ผลิตวัคซีนโควิด-19 ผลิตออกมาทุกบริษัทเพราะอยู่ในบัญชียาฉุกเฉิน โดยอภ. รับทราบเกี่ยวกับการจองวัคซีนโมเดอร์นาของสภากาชาดไทยตั้งแต่ต้น ดังนั้นเมื่อ อภ. เจรจากับบริษัทซิลลิคและเตรียมสัญญากับซื้อ-ขายจำนวน 5 ล้านโดส จึงแจ้งมายังสภากาชาดไทยว่า สำรองไว้ให้ 1 ล้านโดส ตามที่จอง ยืนยันว่าไม่ได้แย่งโควตาจากหน่วยงานใด
สำหรับงบประมาณในการจัดซื้อ ทางสภากาชาดไทยขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลประมาณร้อยละ 35 ที่เหลือรับภาระเอง แต่หากประชาชนต้องการสนับสนุนเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้และด้อยโอกาสจะแจ้งช่องทางช่องทางบริจาคสมทบทุนจัดซื้อวัคซีนใน 1-2 วันนี้. – สำนักข่าวไทย