กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมประมงเผยข่าวดี ให้เกษตรการผู้เลี้ยงกุ้งทะเลสมัครขอรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ งบประมาณกว่า 3 พันล้านบาทในโครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลผ่าน ธ.ก.ส. ได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ถึง 30 ตุลาคม วงเงินกว่า 3 พันล้านบาท
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ รองอธิบดีกรมประมงกล่าวว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 15 กรกฎาคม จนถึง 30 ตุลาคม เกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งสามารถสมัครขอรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในโครงการลดต้นทุนการผลิตกุ้งทะเลเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในอุตสาหกรรมกุ้งทะเลอย่างยั่งยืน ปี 2564 ซึ่งกรมประมงเสนอเพื่อสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลซึ่งสามารถกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 1,000 ราย เพื่อติดตั้งระบบอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) อุปกรณ์ควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ และปรับปรุงโครงสร้างฟาร์มในรูปแบบต่างๆ ภายใต้วงเงินสินเชื่อ 3,000 ล้านบาท โดยเป็นการสนับสนุนเงินจ่ายขาดจากกองทุนรวมฯ เพื่อชดเชยดอกเบี้ยให้แก่เกษตรกรร้อยละ 3 ต่อปี ระยะเวลาไม่เกิน 5 ปี จำนวน 450 ล้านบาท ซึ่งมีพื้นที่ดำเนินโครงการ 35 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ชลบุรี ปราจีนบุรี นครนายก ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี ตราด ปทุมธานี กาญจนบุรี นนทบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร เพชรบุรี อยุธยา ราชบุรี ชัยภูมิ อุดรธานี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง ภูเก็ต สตูล ตรัง กระบี่ พังงา พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช ปัตตานี และนราธิวาส
นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า กรมประมงได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการฯ ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน กรมการค้าภายใน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร และบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม เพื่อพิจารณาเห็นชอบแผนการดำเนินงาน หลักเกณฑ์ เงื่อนไข ขั้นตอน และแผนการใช้เงินในโครงการ ซึ่งจะมี 2 กิจกรรมหลัก โดยเกษตรกรสามารถเลือกดำเนินการกิจกรรมใดเพียงกิจกรรมเดียว หรือทั้งสองกิจกรรมก็ได้ ขึ้นอยู่กับพื้นที่ฟาร์มและความพร้อม ดังนี้
1. กิจกรรมลดต้นทุนพลังงานไฟฟ้า ประกอบด้วย 2 รูปแบบ โดยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลจะต้องติดตั้งระบบ เครื่องมือ หรืออุปกรณ์ เพื่อช่วยในการลดหรือประหยัดพลังงานไฟฟ้า โดยเลือกการดำเนินการอย่างน้อย 1 รูปแบบ ได้แก่ 1. แบบติดตั้งระบบอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar cell) แบบออนกริด (On grid) และ 2. แบบติดตั้งระบบควบคุมเครื่องเติมอากาศอัจฉริยะ
2. กิจกรรมลดต้นทุนแฝง โดยเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งจะต้องดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างฟาร์ม หรือ โครงสร้างบ่อ เพื่อช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพในการเลี้ยงกุ้งทะเล ลดความเสี่ยงในการเกิดโรค พัฒนาระบบการเลี้ยงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และส่งผลให้เกิดการบริหารจัดการฟาร์มอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ซึ่งประกอบด้วย 4 รูปแบบ ได้แก่ การปูผ้าพลาสติกบ่อเลี้ยง (Polyethylene : PE) ทั้งบ่อ การปูผ้าพลาสติกบ่อเลี้ยงบางส่วน การใช้ผ้าพลาสติกทำบ่ออนุบาลลูกกุ้งก่อนปล่อยเลี้ยง ร่วมกับการปรับปรุงบ่อเลี้ยง เช่น บดอัดด้วยดินลูกรัง และการทำบ่อลอยหรือบ่อที่มีระบบทางน้ำไหลทางเดียวด้วยผ้าพลาสติก ซึ่งเกษตรกรสามารถเลือกดำเนินการได้ 1 รูปแบบ ทั้งนี้ กิจกรรมลดต้นทุนแฝงในทุกรูปแบบที่เกษตรกรเลือกดำเนินการต้องปรับปรุง หรือมีพื้นที่บ่อเพียงพอสำหรับรองรับปริมาณน้ำจากการเปลี่ยนถ่ายน้ำและการจับผลผลิต และมีระบบบำบัดน้ำ หรือมีการบำบัดและหมุนเวียนน้ำกลับมาใช้ใหม่ (ระบบน้ำหมุนเวียน) เพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคจากแหล่งน้ำ
สำหรับคุณสมบัติของเกษตรกรที่จะเข้าร่วมคือ 1. ต้องเป็นเกษตรกรที่เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลซึ่งจดแจ้งประกอบกิจการการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคุมประเภทกิจการการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเล (จสค.) กับกรมประมง
2. กรณีเป็นสมาชิกสถาบันเกษตรกร/ วิสาหกิจชุมชน/ สมาคม/ ชมรม/ กลุ่มเกษตรกร ต้องได้รับการรับรองคุณสมบัติเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ จากสถาบันที่สังกัด หากไม่เป็นสมาชิก สามารถขอรับรองคุณสมบัติเกษตรกรได้จากศูนย์ฯ ที่รับผิดชอบโครงการฯ ในแต่ละจังหวัด 3. เป็นลูกค้าปกติของ ธ.ก.ส. หรือเป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งทะเลที่ ธ.ก.ส. สอบสวนและขึ้นทะเบียนเป็นลูกค้าได้
ทั้งนี้ เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม จนถึง 30 ตุลาคม ที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง/น้ำจืดที่รับผิดชอบโครงการฯ ในแต่ละจังหวัด ในวันและเวลาราชการ ทั้งนี้ กรมประมงได้มีการจัดตั้งศูนย์ให้บริการตอบคำถาม (Help Desk) ทาง LINE@ “COASTALCARES” (ID: 281jxxaj) หรือโทรศัพท์ 0 2561 3997 เพื่อให้ข้อมูลและไขข้อข้องใจแก่เกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งทะเลตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการ. – สำนักข่าวไทย