นายกฯ หารือทวิภาคีนายกฯ กัมพูชา ยกระดับปราบอาชญากรรมออนไลน์

กัมพูชา 23 เม.ย.-“นายกฯ แพทองธาร” หารือทวิภาคี “นายกฯ ฮุน มาแนด” ยกระดับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ แก้ไขปัญหา PM 2.5 ยันไทยให้ความสำคัญแรงงานกัมพูชา พร้อมร่วมมือหาทางออกความขัดแย้งในเมียนมาอย่างสันติวิธี

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้หารือแบบเต็มคณะกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด (Samdech Moha Borvor Thipadei HUN Manet) นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โดยนายกรัฐมนตรี ขอบคุณสำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชาและรัฐบาลกัมพูชา ในโอกาสการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการ เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีนี้ พร้อมเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อมิตรภาพและความร่วมมือที่เป็นรูปธรรมกับกัมพูชา เชื่อมั่นว่า ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่แน่นอนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจในระดับโลก ไทยและกัมพูชาในฐานะเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดจะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้น และใช้โอกาสนี้ ผลักดันความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น


โอกาสนี้ผู้นำทั้งสองได้หารือประเด็นความสัมพันธ์และความร่วมมือที่สำคัญระหว่างกัน โดยจะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนในระดับสูงระหว่างกันอย่างสม่ำเสมอ และมีการจัดกิจกรรมเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันตลอดทั้งปี และพร้อมร่วมกันขับเคลื่อนความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างกันให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เสนอให้ทั้งสองฝ่ายเป็นประธานร่วมกันในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชาแห่งแรก (บ้านหนองเอี่ยน – สตึงบท) อย่างเป็นทางการในปลายปี

นายกรัฐมนตรี ยังเสนอให้หน่วยงานทหารและความมั่นคงของทั้งสองประเทศมีการหารือร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อส่งเสริมความไว้เนื้อเชื่อใจ ป้องกันความเข้าใจผิด และรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะเพิ่มพูนความร่วมมือกับกัมพูชา เพื่อสนับสนุนความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะการยกระดับความร่วมมือเพื่อปราบปราทอาชญากรรมออนไลน์ (Online Scams) ระหว่างหน่วยงานตำรวจและฝ่ายปกครอง โดย ผ่านการแบ่งปันพยานหลักฐาน การป้องกันไม่ให้มีการนำสัญญาณอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย เพิ่มมาตรการควบคุมบริเวณชายแดน และป้องกันการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย


รวมถึง การยกระดับความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน ผ่านการพัฒนาระบบติดตามและเฝ้าระวังร่วมกัน ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวปฏิบัติที่ดีระหว่างกัน โดยเฉพาะด้านการตรวจวัด PM2.5 และการทำเกษตรปลอดการเผา (Zero burn Farming )

ส่วนด้านการค้าและการลงทุน ทั้งสองฝ่ายยินดีที่การค้าระหว่างกันในปี 2567 มีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเห็นพ้องร่วมกัน ที่จะวางแนวทางเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน โอกาสนี้ ซึ่งไทยและกัมพูชาจะส่งเสริมความร่วมมือระหว่างหอการค้าของทั้งสองด้วย ทั้งนี้ ไทยและกัมพูชา ยังเห็นพ้องให้มีการเร่งรัดการประชุม Joint Trade Commission ระหว่างกันด้วย และส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษบริเวณชายแดน ความร่วมมือระหว่างหอการค้าของทั้งสองประเทศ รวมถึงการอำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนไทยในกัมพูชา ตลอดจนความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของภูมิภาคให้สามารถรับมือกับความท้าทายจากภายนอก

นายกรัฐมนตรี ได้หารือถึงการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ซึ่งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตและการพัฒนาพื้นที่ชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา พร้อมเสนอให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันวางแนวทางเชื่อมโยงเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนของทั้งสองประเทศ พร้อมเร่งรัดการจัดตั้งกลไกร่วม (Joint Mechanism) ภายใต้คณะกรรมการชายแดนทั่วไป
(General Border Committee: GBC) เพื่อเร่งรัดการเก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชาให้เร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่


ขณะที่ความเชื่อมโยง ให้ทั้งสองฝ่ายร่วมกันพัฒนาบริการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างสองประเทศ เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่ง ตลอดจนให้มีการรื้อฟื้นการเจรจาความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามแดนทางถนน เพื่อให้รถยนต์ส่วนบุคคลสามารถข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวก รวมถึงเร่งรัดการพัฒนาและปรับปรุงโครงการทางหลวงหมายเลข 67 และ 68 ของกัมพูชา ซึ่งจะเป็นเส้นทางเชื่อมโยงการค้าและการท่องเที่ยวระหว่างกัน

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ด้านการท่องเที่ยว ทั้งสองฝ่าย ยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างกันได้อีกมาก อาทิ การปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการข้ามแดน เพื่อให้สามารถพำนักอยู่ในประเทศได้นานขึ้น การเพิ่มบัตรผ่านแดนชั่วคราว (Temporary Border Pass) รวมถึงกัมพูชายินดีเดินหน้าตามแนวคิด Six Countries, One Destination จัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดน โดยอาจเริ่มที่การท่องเที่ยวชายฝั่งไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ด้วย

สำหรับด้านแรงงาน ไทยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของแรงงานกัมพูชาในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และรัฐบาลได้ประกาศยกเว้นค่าธรรมเนียมการขออนุญาตกลับเข้ามาในราชอาณาจักร (Re – Entry Permit) สำหรับแรงงานกัมพูชาที่ต้องการเดินทางกลับประเทศในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งหน่วยงานด้านแรงงานของทั้งสองประเทศจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้แน่ใจว่าแรงงานกัมพูชาได้รับการจ้างงานผ่านช่องทางที่ถูกกฎหมาย เพื่อให้สามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์และสวัสดิการต่างๆ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ไทยพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาแก่กัมพูชาอย่างต่อเนื่องต่อไป โดยเฉพาะด้านการศึกษา การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยนายกรัฐมนตรีย้ำการจัดทำแผนงานความร่วมมือเพื่อการพัฒนา ระยะ 3 ปี ฉบับต่อไป ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และยืนยันว่า ไทยพร้อมสนับสนุนการก่อสร้างอาคารเรียนภาควิชาภาษาไทย ณ มหาวิทยาลัยภูมินท์พนมเปญ และอาคารอบรมของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานไทย – กัมพูชา รวมทั้ง ทั้งสองฝ่ายยังเห็นพ้องที่จะสนับสนุนความร่วมมือด้าน soft power ซึ่งจะช่วยกระชับความสัมพันธ์และมิตรภาพในระดับประชาชนกับประชาชนด้วย

ด้านความร่วมมือในระดับภูมิภาค นายกรัฐมนตรี เห็นว่า อาเซียนควรเสริมสร้างการบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการรับมือกับความท้าทายจากภายนอก โดยไทยต้องการให้การค้าและการลงทุนภายในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น รวมถึงความเป็นหุ้นทางเศรษฐกิจที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นกับหุ้นส่วนระดับภูมิภาค โดยเฉพาะจีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และอินเดีย นอกจากนี้ ไทยพร้อมร่วมมือกับกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างการเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจภายในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์เชื่อมโยงกับจีนและภูมิภาคเอเชียใต้

ช่วงท้าย นายกรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในเมียนมา โดยเห็นพ้องกันว่า การมีปฏิสัมพันธ์กับเมียนมาที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นอาจนำไปสู่พัฒนาการในเชิงบวกที่สอดคล้องกับฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน โดยไทยได้ให้ความช่วยเหลือการแพทย์และสนับสนุนการฟื้นฟูในเมียนมาจากสถานการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น และพร้อมร่วมมือกับกัมพูชาเพื่อเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในเมียนมามีการพูดคุยกันเพื่อหาทางออกด้วยสันติวิธี.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ระงับเดินทางเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม-บ้านผักกาด ชั่วคราว

จันทบุรี 7 มิ.ย. – หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ออกหนังสือราชการ ระงับนักท่องเที่ยวไทย-กัมพูชา เดินทางผ่านเข้า-ออก จุดผ่านแดนถาวรบ้านแหลม – บ้านผักกาด ชั่วคราว ยกเว้นแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย ผู้สื่อข่าว รายงานว่า นาวาเอกนพโรจน์ สิริปริยพงศ์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินจันทบุรี ลงนามในหนังสือราชการด่วนที่สุด แจ้งไปยังผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดจันทบุรี เรื่อง ขอระงับนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวกัมพูชา เดินทางผ่านเข้า – ออก ณ จุดผ่านแดนถาวรฯ โดยอ้างอิงตามประกาศให้ใช้กฎอัยการศึก ในเขตพื้นที่จังหวัดจันทบุรี เฉพาะอำเภอขลุง อำเภอโป่งน้ำร้อน และอำเภอสอยดาว และตามมาตรา 5 แห่ง พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร มีอำนาจ เหนือเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน เกี่ยวกับการยุทธ์ การระงับปราบปราม หรือการรักษาความสงบเรียบร้อย และ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนต้องปฏิบัติตามความต้องการของเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร เนื่องจากปัจจุบันมีสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามจากประเทศกัมพูชา และอาจก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวกัมพูชา อาศัยอำนาจตามมาตรา 5 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก 2547 ขอให้ข้าราชการทุกกระทรวง ทบวง […]

มอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา – สุรนารี คุมจุดผ่านแดนไทย–กัมพูชา

กองทัพบก 7 มิ.ย. – ทบ.ออกคำสั่งมอบอำนาจ ผบ.กองกำลังบูรพา และ ผบ.กองกำลังสุรนารี ควบคุมจุดผ่านแดนแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ตามมติ สมช. พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงนามในคำสั่งกำหนดอำนาจให้ผู้บัญชาการกองกำลังบูรพา และผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี มีอำนาจในการควบคุมการเปิด–ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตลอดแนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยสามารถพิจารณากำหนดมาตรการ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่จำเป็น ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ตามลำดับขั้นความเข้มงวดในแต่ละพื้นที่ การดำเนินการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากมติที่ประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ซึ่งมอบหมายให้กองทัพบกเป็นหน่วยหลักในการควบคุมการเปิด–ปิด จุดผ่านแดนทุกประเภท เพื่อรักษาความมั่นคงของชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามข้อกำหนดของกองทัพบกอย่างเคร่งครัด การออกมาตรการดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งฝ่ายกัมพูชารุกล้ำชายแดนไทยหลายครั้ง พร้อมแสดงท่าทียั่วยุอย่างเปิดเผย แม้ไทยจะใช้สันติวิธีและพยายามเจรจา แต่กัมพูชายังเสริมกำลังและจัดตั้งฐานทหารใกล้ชายแดน แสดงถึงความไม่ร่วมมือและเป็นภัยต่ออธิปไตยและความมั่นคงของไทย ทำให้ไทยจำเป็นต้องดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาผลประโยชน์และความสงบเรียบร้อยของประชาชนตามแนวชายแดน สำหรับรายละเอียดทั้งหมดในคำสั่งดังกล่าวสามารถติดตามได้ผ่านช่องทางการสื่อสารทางการของกองทัพบกที่เว็บไซต์ www.rta.mi.th เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องจากทางราชการ -313-สำนักข่าวไทย

ปปง. ร่วมสอบกรณีพบเงินต้องสงสัยถูกทิ้ง 12 ล้าน

7 มิ.ย.- ปปง. ร่วมตรวจสอบกรณีพบเงินสด 12 ล้าน วางทิ้งในกล่องข้างถังขยะคอนโดเมืองทองฯ ชี้ผู้อ้างเป็นเจ้าของเงินต้องชี้แจงรายละเอียดที่มาให้ได้ จากกรณีที่พลเมืองดี พบธนบัตรเงินสด 12 ล้านบาท ในกล่องพลาสติกสีเทา บริเวณคอนโดเมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย และซองจดหมายเกี่ยวกับสำนักงาน กสทช. ซึ่งปรากฏชื่อในเอกสารดังกล่าว คือ นายทวีวัฒน์ และนายทวีวัฒน์ได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้วระบุเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้านดังกล่าว นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. ในฐานะโฆษก ปปง. กล่าวถึงเหตุที่เกิดขึ้นว่า ขั้นตอนตามปกติหากพบเหตุสงสัย พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดย ปปง. ได้ประสานการทำงานร่วมกับตำรวจอยู่แล้ว ซึ่งต้องสอบสวนคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าของเงิน กับผู้เกี่ยวข้องทุกส่วน ทั้งธนาคาร และส่วนงานที่ผู้ที่อ้างเป็นเจ้าของเงินระบุถึง สุดท้ายเจ้าของต้องชี้แจงในรายละเอียดว่าเงินดังกล่าวได้มาอย่างไร ถ้าพนักงานสอบสวนรวบรวมว่า เกี่ยวข้องกับความผิดมูลฐานกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินในข้อใด หรือทรัพย์ดังกล่าวอาจเกี่ยวกับการกระทำผิดตามกฎหมายฟอกเงินที่ปัจจุบันมี 28 มูลฐานความผิด การจะมีการประสานส่งเรื่องให้ ปปง. ตรวจสอบตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ขณะนี้ ปปง. […]

“อนุทิน” ย้ำไม่ย้ายกระทรวง ยึดข้อตกลงเดิม​ นายกฯ ให้ความมั่นใจแล้ว

สุวรรณภูมิ​ 7 มิ.ย.-“อนุทิน” ลั่นไม่มีอะไรต้องตกลงแล้ว ทุกอย่างจบตั้งแต่กินช็อกมินต์ หลังกระพือยึดเก้าอี้ มท.1 ชี้ “ภูมิใจไทย” ไม่ได้เดินไปขอร่วมรัฐบาล ย้ำชัดไม่ย้ายกระทรวงยึดข้อตกลงเดิม ระบุนายกฯ ก็ให้ความมั่นใจแล้ว ยอมรับกินข้าว รวมไทยสร้างชาติ แล้ว แต่คุยปมพลังงาน ยันไม่ต้องจับมือต่อรอง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ กรณีกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยโดยยืนยันว่ายังไม่มีการพูดคุยใดๆ ซึ่งเรื่องการปรับ ครม. หากมีการถามมายังพรรคภูมิใจไทย พรรคก็ยืนยันว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยไม่มีการปรับเปลี่ยนอะไร เพราะได้คุยในเบื้องต้นภายในพรรคแล้วว่ารัฐมนตรีทุกคนยังทำงานได้อย่างเต็มที่ กระทรวงที่กำกับดูแลในส่วนของพรรคภูมิใจไทย ก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร เมื่อถามว่า กระแสข่าวการเขย่าเก้าอี้แบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีความต้องการกระทรวงมหาดไทยคืนใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนไม่มองว่าเรื่องนี้เป็นอย่างไร มันเขย่าไม่ได้ นี่เป็นรัฐบาลผสม และเป็นข้อตกลงที่เราหารือกันตั้งแต่เราตั้งรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน 2 ปีแล้ว และมายังรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร รูปแบบนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร ตรงนี้ไม่ใช่ว่าเป็นของใคร แต่เป็นข้อตกลงและเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งทุกคนก็ทำงานอย่างเต็มที่ ที่มีข่าวบอกว่าคนนี้ทำงานดีหรือไม่ดี […]