กรุงเทพฯ 6 ก.ค. – บมจ. มีนาทรานสปอร์ต ผู้ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จชั้นนำของประเทศ พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 7 ก.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 880.80 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “MENA”
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. มีนาทรานสปอร์ต เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ในกลุ่มบริการ หมวดขนส่งและโลจิสติกส์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “MENA” ในวันที่ 7 กรกฎาคม 2564
MENA เป็นผู้ให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จ ขนส่งสินค้าอุตสาหกรรม เช่น ปูนซีเมนต์ ขี้เถ้าลอย แคลเซียม แร่แบเรียม ฯลฯ และสินค้าอุปโภคบริโภค รวมทั้งจัดจำหน่ายวัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือในการก่อสร้าง มีประสบการณ์ให้บริการขนส่งสินค้ามากว่า 25 ปี บริษัทมีการให้บริการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก รถเทรลเลอร์ และรถมิกเซอร์ โดยครอบคลุมพื้นที่เขตธุรกิจสำคัญทั่วประเทศ รวมถึงเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก บริษัทได้รับความไว้วางใจจากบริษัทปูนซีเมนต์และบริษัทผู้ผลิตคอนกรีตชั้นนำทั่วประเทศ
MENA มีทุนจดทะเบียน 367 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 550 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 184 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในระหว่างวันที่ 29-30มิถุนายน 2564 และวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ในราคาหุ้นละ 1.20 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 220.80 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 880.80 ล้านบาท โดยมี บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด เป็นผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ
นางสุวรรณา ขจรวุฒิเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า MENA มีความมุ่งมั่นในการขยายการเติบโต และรักษาความเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจให้บริการขนส่งคอนกรีตผสมเสร็จด้วยรถผสมคอนกรีต หรือรถมิกเซอร์ และเทรลเลอร์ รายใหญ่ของประเทศ ด้วยจุดเด่นในการบริหารจัดการรถมากกว่า 500 คัน และพนักงานจัดส่งมากกว่า 500 คน ซึ่งอยู่ในระดับต้นๆ ของอุตสาหกรรม ทั้งนี้ MENA จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนขยายกองยานเพื่อรองรับงานโครงการของกลุ่มลูกค้าและพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทุกภูมิภาคของประเทศ สนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรม และงานโครงสร้างพื้นฐานของทางภาครัฐ เช่น โครงการ EEC โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน ระยะที่ 1 กทม.-นครราชสีมา และโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ เป็นต้น พร้อมกันนี้ MENA มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะบริหารธุรกิจด้วยมาตรฐาน โปร่งใส และมีธรรมาภิบาลที่ดี เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน
บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่า 40% โดยพิจารณาจากงบการเงินเฉพาะกิจการภายหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และจัดสรรทุนสำรองตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม MENA อาจพิจารณาจ่ายเงินปันผลแตกต่างไปจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ โดยจะขึ้นอยู่กับผลประกอบการ ฐานะการเงิน สภาพคล่องทางการเงิน ความจำเป็นในการใช้เงินเพื่อบริการกิจการและขยายธุรกิจ รวมถึงภาวะเศรษฐกิจ
MENA มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ ครอบครัวขจรวุฒิเดช ถือหุ้นรวม 62.9% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.menatransport.co.th และที่ www.set.or.th . – สำนักข่าวไทย