fbpx

ส่งออกเดือน พ.ค.64 ยังบวกต่อเนื่องสูงถึงร้อยละ 41.59

นนทบุรี 25 มิ.ย.-รัฐมนตรีพาณิชย์ เผยตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค. ยังเป็นบวกต่อเนื่องร้อยละ 41.59 เป็นเดือนที่ 6 สูงสุดในรอบ 11 ปี ตามเศรษฐกิจโลกฟื้นตัว แม้ยังเจอพิษโควิดอยู่ก็ตาม พร้อมมั่นใจทั้งปีส่งออกไทยเกินกว่าร้อยละ 4 โดยยังไม่ปรับเป้าหมาย แต่จะทำให้ดีที่สุด


นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงตัวเลขการส่งออกของประเทศ ในเดือนพฤษภาคม 2564 พบว่า ยอดการส่งออกเป็นบวก อยู่ที่ร้อยละ 41.59 เทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อน เป็นเดือนที่ 6 ถือว่าสูงสุดในรอบ 11 ปี โดยคิดเป็นมูลค่ากว่า 23,057.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่หากรวมทองคำและน้ำมัน รวมถึงยุทธปัจจัยต่างๆ ตัวเลขส่งออกของไทยบวกถึงร้อยละ 45.87 โดยการส่งออกเดือนพฤษภาคม ดีกว่าที่คาดการณ์ไว้ หากหักทองคำ น้ำมัน และยุทธปัจจัย ออกด้วยกัน ซึ่งเมื่อดูทิศทางส่งออกในหลายประเทศทั่วโลก การส่งออกฟื้นตัวและกลับมาเป็นบวกด้วยเช่นกัน และเป็นไปตามทิศทางเศรษฐกิจการค้าโลกที่กำลังฟื้นตัวดีขึ้น หลังจากประเทศต่างๆ เริ่มทยอยผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางและการขนส่ง ส่งผลให้ภาคการผลิตเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และการผ่อนคลายทางการเงินและการคลังในหลายประเทศ เพื่อเยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจ ทำให้ความต้องการสินค้าเพิ่มขึ้น ขณะที่สินค้าส่งออกของไทยหลายรายการขยายตัวได้ดี สอดคล้องกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น ยุโรป และอีกหลายประเทศด้วยกัน

ขณะที่ตัวเลขการนำเข้าสินค้าในเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ 22,261.96 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นบวกร้อยละ 63.54 โดยไทยยังได้ดุลการค้าในเดือนพฤษภาคม 2564 อยู่ที่ 795.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ตัวเลขการส่งออกและนำเข้าในช่วง 5 เดือนแรกปี 2564 ตั้งแต่เดือนมกราคม-พฤษภาคม 2564 โดยเป็นยอดส่งออกทั้งสิ้น 108,635.22 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตถึงร้อยละ 10.78 ขณะที่การนำเข้ามียอดอยู่ที่ 107,141.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นบวกร้อยละ 21.52 ทำให้ไทยเกินดุลการค้าช่วง 5 เดือน อยู่ที่ 1,494.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสินค้าส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี ยังคงเป็นสินค้าในกลุ่มอาหารสดและเกษตรของไทยหลายตัวยังมีความต้องการของตลาดโลกสูงขึ้น รวมถึงสินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่น ถุงมือยาง ที่ยังคงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการยางพาราในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลดีกับราคายางพาราของไทยในช่วงนี้ดีขึ้นด้วย รวมถึงกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าของไทยเริ่มส่งออกได้มากขึ้น แม้ว่าทั้งโลก รวมถึงไทย ยังเจอปัญหาโควิด-19 ระบาดก็ตาม 


อย่างไรก็ตาม กระทรวงพาณิชย์ คาดว่า การส่งออกไทยในเดือนถัดไปยังคงเป็นบวก โดยน่าจะบวกเพิ่มขึ้นเป็น 2 หลัก แม้ว่าปัญหาโควิดทั่วโลกยังระบาดอยู่ แต่เชื่อว่าโอกาสและความต้องการสินค้าไทย โดยเฉพาะอาหารจากทั่วโลกมีความต้องการสูง แม้ว่าประเทศไทยยังประสบปัญหาโควิดระบาดตามโรงงานผลิตสินค้าอาหารอยู่บ้าง แต่ถือว่าไม่ใช่เป็นการระบาดทุกโรงงานทั่วทั้งประเทศ อาจจะมีบางโรงงานเท่านั้นที่ปิดปรับตัว แต่เชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อสายการผลิตสินค้าอาหารไทยเพื่อการส่งออกแต่อย่างใด ประกอบกับปัญหาอุปสรรคด้านขาดแคลนตู้ขนส่งสินค้า โดยจะกระทรวงพาณิชย์และภาคเอกชนกำลังเร่งหาทางแก้ไขปัญหากันอยู่ โดยเฉพาะมีความคิดที่จะให้มีการเปิดท่าเทียบเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ 400 เมตร ซึ่งก่อนหน้านี้ได้คุยกับทางกระทรวงคมนาคม และการท่าเรือฯ ไว้ 2 ปี อาจจะให้เปิดเป็นการถาวร โดยกระทรวงพาณิชย์จะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้สามารถเปิดท่าเทียบเรือขนาดดังกล่าวเป็นแบบถาวรในระยะยาวได้ต่อไป

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ มองว่าโอกาสที่การส่งออกของไทยหลังจากนี้อยู่ในแดนบวก แต่จะบวกมากน้อยแค่ไหน คงจะต้องติดตามสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิด ซึ่งการทำงานทั้งข้าราชการและภาคเอกชน โดยเฉพาะการเดินหน้าหาตลาดใหม่ เพื่อเร่งผลักดันการส่งออกเป็นภารกิจสำคัญ ดังนั้น ยังคงมองว่าตัวเลขการส่งออกของไทยในปี 2564 บวกได้ร้อยละ 4 หรือคิดเป็นมูลค่า 240,727 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรืออาจจะมากกว่านี้ได้ และในขณะนี้จะยังไม่มีการปรับประมาณการตัวเลขการส่งออกในปีนี้ แม้ว่าจะเป็นบวกมากกว่านี้ก็ตาม เพราะตามเป้าหมายจะให้ทุกฝ่ายทำงานบุกตลาด ทั้งตลาดหลัก ตลาดรอง และตลาดใหม่ๆ ให้มากและให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่สุดความสามารถ เพื่อให้สินค้าไทยส่งออกในทุกทางไปยังตลาดทั่วโลกให้มากยิ่งขึ้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว

คลี่ปมฆ่าโหดหนุ่มไทใหญ่ ทิ้งศพเชียงใหม่

ขมวดปมเข้ามาเรื่อยๆ สำหรับคดีฆ่าโหดใช้ค้อนปอนด์ทุบหัวหนุ่มไทใหญ่ลากขึ้นรถนำศพไปทิ้งที่ อ.แม่ริม เชียงใหม่ ล่าสุดเจ้าหน้าที่แกะรอยกล้องวงจรปิด พบรถที่กลุ่มคนร้ายใช้ขนศพ จ่อออกหมายจับอย่างน้อย 3 คน คาดปมสังหารจากเรื่องทะเลาะวิวาท

ไฟไหม้โกดังพระราม 2 เหตุร้อนจัด สารเคมีติดไฟเอง

กระทรวงอุตสาหกรรม เผยสาเหตุไฟไหม้โกดังย่านพระราม 2 มาจากอากาศร้อนจัด ทำให้สารไทโอยูเรียไดออกไซด์ติดไฟเอง เตือนสถานประกอบการให้แยกสารเคมีที่ติดไฟเองได้หรือสามารถทำปฏิกิริยาออกจากกัน หวั่นเกิดเหตุซ้ำ เพราะอากาศยังคงร้อนจัดต่อเนื่อง

ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย ปรับลดดอกเบี้ย MRR

นายกฯ ขอบคุณสมาคมธนาคารไทย หั่นดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลง 0.25% เป็นเวลา 6 เดือน เพื่อลดภาระดอกเบี้ยให้กลุ่มเปราะบาง ทั้งลูกค้าบุคคล และ SME