“ศักดิ์สยาม”แจงงบคมนาคมปี 65 กระจายการลงทุนทุกระบบคมนาคม

กรุงเทพฯ 2 พ.ค.-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ชี้แจงแผนลงทุนในงบประมาณประจำปี 2565 ยืนยันไม่ได้ทุ่มงบสร้างถนนอย่างเดียว  แต่เปิดกว้างการลงทุนนอกงบประมาณกว่า 2.5  แสนล้านบาท พร้อมโชว์มาสเตอร์แผน MR-MAP สร้างระบบขนส่งคู่ขนาน เพิ่มทางเลือกการเดินทาง และยืนยันประมูลรถไฟทางคู่โปร่งใส


นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้ชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับแผนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ในการอภิปรายงบประมาณประจำปี 2565 โดยระบุว่า กรณีที่มีการอภิปรายระบุถึงงบประมาณ ของกระทรวงคมนาคมว่า มีการลงทุนส่วนใหญ่ในโครงการก่อสร้างถนน นั้น กระทรวงฯ ขอชี้แจงถึงงบการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานปี 2565 มี 2 ส่วน 1.เป็นงบประมาณปกติ วงเงิน 2.2 แสนล้านบาท  2.เป็นเงินนอกงบประมาณ 2.5 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามนโยบายนายกรัฐมนตรีว่า  ถ้าจะใช้งบประมาณอย่างเดียว คงไม่สามารถขับเคลื่อนการลงทุนตามเป้าหมายได้

ดังนั้นการผลักดันโครงการ  โดยจัดใช้เงินนอกงบประมาณจะเข้ามาช่วยในเรื่องนี้ โดยแบ่งออกเป็น การเปิดให้เอกชนร่วมลงทุนโครงการรัฐ (พีพีพี) , เงินกู้กระทรวงคลัง และงบกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ ซึ่งเมื่อนำมาพิจารณาทั้งหมด จะเห็นว่า 4   มิติระบบขนส่งของกระทรวงฯ ทั้งน้ำ ราง บก และอากาศ เงินงบประมาณที่ใช้ลงทุนมากสุด คือ ระบบราง 2.4 แสนล้านบาท เป็นงบผูกพันไปอีก 3-4 ปี ส่วนที่ 2 เป็นระบบทางบก 1.6 แสนล้านบาท ทางอากาศ 5.3 พันล้านบาท และน้ำ 829 ล้านบาท


ส่วนข้ออภิปราย ที่ระบุว่า การตั้งงบประมาณโครงการขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคม มีหลายโครงการมีความซ้ำซ้อน เช่น กรุงเทพฯ – นครราชสีมา(โคราช) ซึ่งมีทั้งโครงการมอเตอร์เวย์ รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ขอชี้แจงว่า ความจำเป็นที่ต้องดำเนินการหลายโครงการนั้น   เช่น  ถนนมิตรภาพมีจำนวนรถใช้ผิวถนน  7 หมื่นคันต่อวัน เทศกาลมีรถมากกว่า 1.1 แสนคันต่อวัน สิ่งที่เห็นคือถนนไม่พอกับรถ ทำให้เกิดการจราจรติดขัด   นอกจากนั้นมีปัญหาอุบัติเหตุ เรื่องนี้เป็นความจำเป็นที่เราต้องก่อสร้างระบบประเภทอื่น เช่น มอเตอร์เวย์  เพื่อแยกการเดินทางของรถบรรทุกขนาดใหญ่ออกจากรถเล็ก ซึ่งก็จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุ และลงทุนในเส้นทางที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากเป็นจังหวัดประตูสู่ภาคอีสานมีประชากรจำนวนมาก และยังเป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมต่อประเทศเพื่อนบ้าน ดังนั้นการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน กรุงเทพฯ – โคราช เป็นการสร้างเมืองการคมนาคมเชื่อมต่อในอนาคต  โดยทั้งโครงการมอเตอร์เวย์บางปะอิน – โคราช ,รถไฟทางคู่ และรถไฟความเร็วสูง เมื่อก่อสร้างเสร็จก็จะสนับสนุนการเดินทาง ลดค่าใช้จ่ายในระบบขนส่งได้มาก

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้กระทรวงฯ พิจารณาการพัฒนาโครงการผ่าน 5 เรื่อง คือ 1.ตัดถนนแนวตรงเพื่อสัญจรสะดวก หลีกจากทางเดิม ไม่ผ่านเข้าชุมชน 2.ลดปัญหาเวนคืน 3.กระจายการพัฒนาพื้นที่ใหม่ 4.สร้างชุมชนใหม่ และ 5.แยกการจราจรในเมือง ซึ่งสิ่งเหล่านี้กระทรวงฯ รับโจทย์มาปฏิบัติ จัดทำมาสเตอร์แพลน MR-MAP บูรณาการก่อสร้างระหว่างรถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ ให้สร้างในแนวเดียวกัน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาใช้งบมอเตอร์เวย์ กรมทางหลวง (ทล.)

สำหรับมาสเตอร์แพลน MR – MAP ประกอบไปด้วย 3 เส้นทางสำคัญเชื่อมเหนือ – ใต้ คือ 1.เชียงราย – สงขลา เชื่อมเขตเศรษฐกิจเหนือใต้และเพื่อนบ้าน 2.หนองคาย – แหลมฉบัง เชื่อมอีอีซี และ 3.บึงกาฬ – สุรินทร์ เชื่อมกับฝั่งลาว ส่วนแนวเชื่อมตะวันออก -ตะวันตก มี 6 เส้นทาง คือ  1.เส้นทางตาก – นครพนม 2.กาญจนบุรี – อุบลราชธานี 3.กาญจนบุรี – สระแก้ว 4.กาญจนบุรี – ตราด 5.ชุมพร – ระนอง และ 6.ภูเก็ต – สุราษฎร์ธานี


ขณะนี้โครงการนำร่องพิจารณาลำดับความสำคัญ โดยจะทำการศึกษาความเหมาะสมใน 3 เส้นทางก่อน คือ 1. เส้นทางชุมพร – ระนอง เพราะมีความสำคัญเชื่อมเขตพัฒนาพิเศษภาคใต้ 2.เส้นทางอีอีซี.เชื่อมแลนด์บริดจ์ และ 3. เส้นทางจากอีอีซี.เชื่อม จ.นครราชสีมา เพื่อกระจายสินค้าจากพื้นที่อีอีซีเข้าภาคอีสานและประเทศเพื่อนบ้าน  เกิดการเชื่อมโยงโครงข่ายขนส่งสินค้าลดต้นทุน อีกทั้งจะลดปัญหาการเวนคืนที่ดิน การแยกชุมชนหลายครั้ง รวมไปถึงลดการลงทุนของภาครัฐเหลือแต่เฉพาะค่าเวนคืนที่ดิน เปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาร่วมลงทุนลักษณะพีพีพีทั้งไทยและต่างชาติ เพื่อลดภาระให้กับประเทศ

ขณะเดียวกัน กระทรวงฯ ยังอยู่ระหว่างผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์จะเชื่อมโยงการค้าไทย เอเชีย และโลก อาจไม่แล้วเสร็จในช่วงของผม แต่เป็นการเตรียมงานให้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อยกขีดความสามารถประเทศในอนาคต ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาที่ตั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน คาดว่าภายใน 1 ปีจะได้ผลการศึกษาเพื่อจัดมาร์เกตซาวดิ้ง

ส่วนประเด็นกรมทางหลวง ทางหลวงชนบท และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น รับผิดชอบโครงข่ายถนนได้ไม่ดีนั้น  ต้องชี้แจงว่าปัจจุบันโครงข่ายถนน 7 แสนกิโลเมตร ทล.รับผิดชอบ 5.2 หมื่นกิโลเมตร ส่วน ทช. 4.8 หมื่นกิโลเมตร และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น 6 แสนกิโลเมตร มีการแบ่งกันชัดเจน

ส่วนประเด็นที่ระบุว่า ทุกจังหวัดไม่ต้องมีสนามบิน ต้องชี้แจงว่าปัจจุบันไทยมีสนามบินของรัฐ 35 แห่ง 29 แห่งอยู่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เป็นสนามบินภายในประเทศ 6 แห่ง เป็นสนามบินระหว่างประเทศ ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT โดยการบริหารทั้งหมดในปี 2565 กระทรวงฯ มุ่งเน้นการลงทุนพัฒนาภูมิภาค ให้บริการประชาชน เป็นงบลงทุนต่อเนื่องไม่ได้เป็นการก่อสร้างใหม่ เช่น สนามบินจังหวัด กระบี่ นครศรีธรรมราช ตรัง บุรีรัมย์ และขอนแก่น

นายศักดิ์สยาม ยังกล่าวถึง กรณีการประมูลรถไฟทางคู่สายเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ ที่มีการกล่าวถึงการประกวดราคาไม่โปร่งใส โดยระบุว่า เรื่องนี้เราใช้ระบบ ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding)  โดยการรถไฟแห่งประเทศ (ร.ฟ.ท.) ได้ประกวดราคาเด่นชัย – เชียงราย – เชียงของ วงเงิน 7 หมื่นล้านบาท ยึดหลักตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ตามระบบ e-bidding มีความโปร่งใสมากที่สุด ซึ่งคนดำเนินการ คือ กรมบัญชีกลาง และ ร.ฟ.ท.ได้แต่งตั้งคณะกรรมการทีโออาร์ ทำตามระเบียบกรมบัญชีกลาง 2560 และมีการจัดตั้งคณะกรรมการคุณธรรม รวมทั้งจัดทำรับฟังความคิดเห็น พร้อมกำหนดเปิดกว้างผู้ประกอบการทั่วไปเข้าเสนอราคาและเปิดให้เอกชนยื่นข้อเสนอในลักษณะกิจการร่วมค้า แต่ต้องซื้อเอกสารทุกราย

ดังนั้นประเด็นที่การยื่นราคาน้อยกว่าราคากลาง มากหรือน้อยต้องบอกว่า โครงการนี้ ครม.ได้อนุมัติตั้งแต่ 31 พ.ค.2561 และเป็นการศึกษาตั้งแต่ 2555 ร.ฟ.ท.ได้ให้ที่ปรึกษาทำรายละเอียดราคากลางใหม่ ปรับปรุงให้สอดคล้องสภาพปัจจุบัน ใช้ฐาน เดือน ต.ค. 2563 หลังทำราคากลางต้นทุนปรับสูงขึ้น เช่น ราคาเหล็กปรับสูงขึ้น 30% ราคากลางเรายังยึดตามที่พิจารณาไว้ ซึ่งเรื่องนี้เมื่อมีข้อสงสัยกระทรวงฯ ก็ได้จัดประชุมชี้แจงทำความเข้าใจต่อสาธารณชน นักวิชาการ สื่อมวลชนอย่างละเอียดแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เก๋งซิ่งแหกโค้งชนเสาเหล็ก ไฟลุกไหม้คลอกคนขับดับสลด

ลพบุรี 6 มิ.ย. – เก๋งหรูซิ่งเสียงดังลั่น หมุนโชว์กลางสี่แยก ก่อนแหกโค้งชนเสาเหล็กป้ายข้างทางไฟลุกไหม้เสียหายทั้งคัน คลอกคนขับดับสลด เมื่อเวลา 03.30 น.ที่ผ่านมา ร.ต.ท.ชาตรี ทรัพย์นิยมพงศ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งรถเก๋งชนเสาข้างถนน ไฟลุกไหม้ทั้งคัน บนถนนทางเข้าบ้านหนองน้ำทิพย์ หมู่ 7 ต.เขาพระงาม อ.เมืองลพบุรี พร้อมแจ้งรถน้ำดับเพลิงป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลเขาพระงาม รุดไปดับไฟ และเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบ จุดเกิดเหตุพบไฟกำลังลุกไหม้โหมทั่วไปทั้งคันรถ สังเกตดูเบื้องต้นคนขับติดอยู่ที่เบาะนั่งสภาพหมดสติ เจ้าหน้าที่เร่งระดมฉีดน้ำใช้เวลาประมาณ 15 นาที เพลิงสงบ จากการตรวจสอบด้านซ้ายรถชนอัดอยู่กับเสาเหล็กป้ายบอกทาง สภาพเหลือแต่ซาก เบื้องต้นพบเป็นรถเก๋งยี่ห้อยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู ไม่ทราบสี-ทะเบียน ถูกไฟไหม้ เหลืออยู่ครึ่งป้าย ภายในรถพบร่างชายถูกไฟไหม้เกรียม ยังไม่ทราบชื่อว่าเป็นใครมาจากไหน สอบถามนางเล็ก ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองนั่งเฝ้าเครื่องสูบน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ ได้ยินเสียงรถเก๋งคันดังกล่าวขับซิ่งมาจากแยกเขาพระงาม มุ่งหน้าไปทางโคกสำโรง เสียงท่ออย่างดังลั่น พอมาถึงสามแยกบ้านหนองน้ำทิพย์ ได้หมุนโชว์กลางแยก 1 รอบ จากนั้นขับไปยูเทิร์นกลับมาอีกรอบ เลี้ยวเข้าทางแยกหนองน้ำทิพย์ได้ประมาณ 300 เมตร […]

ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงิน 12 ล้าน วางทิ้งข้างถังขยะ

นนทบุรี 6 มิ.ย. – ตำรวจเร่งตามหาเจ้าของเงินสด 12 ล้าน ในกล่องพลาสติก วางทิ้งข้างถังขยะคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จากกรณีพลเมืองดีพบธนบัตรไทยจำนวนมาก ถูกซุกซ่อนอยู่ภายในกล่องพลาสติก บริเวณคอนโดฯ ย่านเมืองทองธานี จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบเอกสารเกี่ยวกับหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายและซองจดหมาย ปรากฏชื่อบุคคลและหน่วยงานรัฐในเอกสาร จึงได้ยึดธนบัตรดังกล่าวมาที่ สภ.ปากเกร็ด เพื่อพิสูจน์ว่าเป็นเงินอะไร ได้มาถูกต้องหรือไม่ และใครเป็นเจ้าของที่แท้จริง เบื้องต้นพบเป็นเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท และเมื่อเจ้าหน้าที่นำสายรัดของธนบัตรดังกล่าวไปตรวจสอบ พบว่ามีการจ่ายเงินออกมาจำนวนดังกล่าวตั้งแต่ปี 2563    พลเมืองดีเล่าว่า เวลาประมาณ 20.00 น. ของเมื่อวานนี้ (5 มิ.ย.) ตนและเพื่อนเดินไปลิฟต์ที่ชั้น 4 ซึ่งข้างลิฟต์เป็นที่ทิ้งขยะ เห็นกล่องสภาพดีวางอยู่ ก็จะเก็บไปใช้ ซึ่งกล่องถูกเปิดแง้มเอาไว้และมีเสื้อผ้าวางทับด้านบน จึงเปิดดูพบเงินสดฉบับละ 1,000 บาท เป็นมัดๆ จำนวนมาก จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ ความคืบหน้าในการติดตามหาตัวคนที่นำกล่องเงินมาทิ้ง ตำรวจสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดที่พบเพื่อหาเบาะแสคนที่นำกล่องพลาสติกมาทิ้ง เบื้องต้นยังไม่พบผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ยังได้พยายามติดต่อกับ นายทวีวัฒน์ […]

น้ำมันรั่วลงทะเล

สั่งเจ้าท่าระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar

ชลบุรี 6 มิ.ย.- “มนพร” สั่งการกรมเจ้าท่าตั้งศูนย์ประสานงานแก้ไขปัญหาและควบคุมสถานการณ์น้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar บริเวณท่าเรือบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ศรีราชา จังหวัดชลบุรี นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้ นายกริชเพชร ชัยช่วย อธิบดีกรมเจ้าท่า ดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานป้องกันและขจัดมลพิษทางน้ำเนื่องจากน้ำมัน เพื่อ ระงับเหตุน้ำมันดิบรั่วไหลจากเรือ Phoenix Jamnagar ซึ่งเป็นเรือบรรทุกน้ำมันดิบสัญชาติสิงคโปร์ หมายเลข IMO 9828962 โดยเหตุเกิดบริเวณทุ่นรับน้ำมันกลางทะเล (SBM2) ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ในเขตพื้นที่ศรีราชา จังหวัดชลบุรี เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 00.54 น. โดยมีสาเหตุมาจากท่อส่งน้ำมันที่ชำรุด ส่งผลให้น้ำมันดิบรั่วไหลลงสู่ทะเลในปริมาณประมาณ 20 คิว หรือราว 20 ตัน กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการประเมินสถานการณ์โดยเร่งดำเนินการจัดตั้งศูนย์ประสานงานฯ ณ โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทไทยออยล์ จังหวัดชลบุรี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการควบคุมเหตุการณ์ ทั้งนี้กรมเจ้าท่าในฐานะเลขานุการศูนย์ประสานงาน ได้ประสานกองทัพเรือจัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ในการขจัดคราบน้ำมัน จากการสำรวจพื้นที่ พบว่าลักษณะของคราบน้ำมันเป็นคราบสีดำหรือน้ำตาลบาง ๆ […]

นักศึกษาเจอคอลเซ็นเตอร์ปั่นหัวถือมีดบุกโรงพัก

เชียงใหม่ 5 มิ.ย. – แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักศึกษาเชียงใหม่ สูญกว่า 2 ล้านบาท พ่อแม่เครียดหมดเนื้อหมดตัว บางรายถูกปั่นหัวให้ถือมีดบุกโรงพักเย้ยตำรวจ พบเฉพาะ สภ.ภูพิงค์ฯ มีเหยื่อโดนหลอกลักษณะนี้แล้วกว่า 300 ราย กล้องวงจรปิดบันทึกภาพนักศึกษาสาว ชั้นปีที่ 4 ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดภายใน สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นเดินไปเข็นวีลแชร์ที่อยู่ตรงหัวมุมอาคาร แล้วก็เข็นไปเข็นมาอยู่อย่างนั้น ก่อนจะถือมีดไปที่บริเวณห้องรับแจ้งความ และอ้างว่า จะมาขอพบตำรวจนายหนึ่ง แต่ไม่มีชื่อนี้อยู่ที่โรงพัก จึงขอพบ พันตำรวจเอก มนัสชัย อินทร์เถื่อน ผู้กำกับ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ เพราะไปฆ่าคนตายมา ขณะนั้น ตำรวจสืบสวนสังเกตเห็นว่า นักศึกษาสาวมีท่าทางหวาดระแวงใส่หูฟังเหมือนกับทำตามคำสั่งใครสักคนที่สั่งการจากปลายสาย ด้านตำรวจจึงชวนพูดคุยสอบถามสักพัก จนยอมวางมีดลง จากนั้น ตำรวจจึงขอให้ดึงหูฟังออก ปรากฏว่า นักศึกษาสาวกลับได้สติขึ้นมาว่า ชายที่สั่งการทางโทรศัพท์ไม่ใช่ตำรวจจริง เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ สั่งให้มาป่วนตำรวจ เนื่องจากไม่มีเงินโอนให้ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 มิ.ย. ที่ผ่านมา ตำรวจจึงตรวจสอบพบว่า ในวันเดียวกัน […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 สั่งกองกำลังสุรนารี ปรับเวลาเปิด-ปิด จุดผ่านแดนกัมพูชา 

8 มิ.ย.- เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา แม่ทัพภาค 2 ลงนามคำสั่งให้อำนาจผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี พิจารณาปรับเวลาเปิด-ปิด ด่านถาวรและจุดผ่อนปรนการค้า 4 ด่าน มีผลทันทีเมื่อคืนนี้ กองทัพภาคที่ 2 ออกหนังสือคำสั่ง การควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ตามคำสั่งกองทัพบก เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ให้กองทัพภาคที่ 2 โดยกองกำลังกำลังสุรนารีมีอำนาจการควบคุมการเปิด-ปิดจุดผ่านแดนทุกประเภทตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี วิธีการและเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลา ที่จำเป็นเหมาะสม ในพื้นที่รับผิดชอบของกองกำลังสุรนารี ดังนี้