“ศักดิ์สยาม” บี้การรถไฟ ปรับแผนก่อสร้างตาม MR-MAP มากขึ้น

กรุงเทพฯ 6 พ.ค.-รมว.คมนาคม สั่งการรถไฟฯ ปรับแผนก่อสร้างรถไฟทางคู่ ทั้งเฟส 2 และรถไฟสายใหม่ ให้สอดคล้องแผนแม่บท MR-MAP มากยิ่งขึ้น และลดเส้นทางผ่านชุมชนเมือง

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามติดตามโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ (ประชุมครั้งที่ 2) โดยนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดี กรมการขนส่งทางบก อธิบดีการขนส่งทางราง และผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)และผู้แทนกรมทางหลวง เข้าร่วม โดย รฟท.ได้รายงาน ความคืบหน้าการดำเนินการโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 และ 2 การโดยพิจารณาความสอดคล้องกับแผนแม่บทการพัฒนาโครงข่าย ทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง และระบบราง (Motorway Railway Master Plan) หรือ MR-MAP นอกจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้สั่งการ ให้ รฟท. เร่งรัดการก่อสร้างในส่วนที่ล่าช้าให้เป็นไปตามแผนงาน รวมทั้ง การเร่งรัดโครงการก่อสร้างทางคู่ระยะที่ 1 นอกจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทยจะรายงานสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว ให้จัดทำแผนการเร่งรัดการก่อสร้าง ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลาอย่างชัดเจนว่าจะสามารถเร่งรัดการก่อสร้างให้กลับมาเป็นไปตามแผนงานได้อย่างไร และประชาสัมพันธ์แผนงานการก่อสร้างในรายละเอียด ทั้งในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างและตามสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบแผนการก่อสร้างแล้ว


สำหรับการนำแนวคิด MR-MAP ตามนโยบายมาปรับใช้ พบว่าโครงการรถไฟทางคู่ ระยะที่ 2 และโครงการเส้นทางสายใหม่ ยังไม่สอดคล้องกับกรอบแนวคิดของ MR-MAP เท่าที่ควร ดังนั้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทยไปพิจารณาปรับปรุงรูปแบบให้สอดคล้องกับแนวคิดของ MR-MAP ด้วย สำหรับส่วนที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ให้รายงานเหตุผลที่ชัดเจนด้วย ส่วนสถานะ รายงานเกี่ยวกับ การศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม หรือ EIA ในแต่ละเส้นทาง ให้การรถไฟแห่ประเทศไทยจัดทำ สำหรับโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ระยะที่ 2 และเส้นทางสายใหม่ ต้องมีแผนการดำเนินการในรายละเอียด ที่แสดงกิจกรรมและกำหนดระยะเวลา เพื่อจะได้ใช้ประกอบการกำกับดูแลในรายละเอียด ส่วนการปรับปรุงรูปแบบการก่อสร้างโครงการรถไฟช่วงที่ผ่านตัวเมืองบางส่วนตามหลักการของ MR-MAP พบว่า ยังมีบางช่วงที่ยังผ่านชุมชนเมืองอยู่ ดังนั้น ให้ รฟท.พิจารณาออกแบบเส้นทางรถไฟให้ผ่านชุมชนเมืองให้น้อยที่สุด เพื่อลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อประชาชนต่อไป

รวมทั้งการพิจารณาจุดตัดทางรถไฟกับทางหลวง ยังไม่มีรูปแบบมาตรฐานที่ชัดเจนว่าจะเป็นลักษณะของสะพานทางหลวงข้ามทางรถไฟ หรือสะพานรถไฟข้ามทางหลวง ดังนั้น ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย ประสานงานกับกรมทางหลวงและกรมการขนส่งทางราง จัดทำตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบเพื่อกำหนดรูปแบบมาตรฐานร่วมกัน รวมทั้งประสานกับกรมการขนส่งทางบก เพื่อให้การเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟกับสถานีขนส่งสินค้าที่เชียงของและนครพนม เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ,ประสานงานกับกรมการขนส่งทางบกและกรมการขนส่งทางราง เร่งรัดปรับแผนงานการก่อสร้างสถานีขนส่งสินค้าที่นาทา เพื่อให้ไทยได้ประโยชน์สูงสุดในการเชื่อมต่อ เส้นทางรถไฟจากจีน ลาว และไทย โดยในเบื้องต้นหากไม่สามารถพัฒนาเส้นทางรถไฟทางคู่ช่วงขอนแก่น – หนองคาย ได้ทัน อาจพิจารณาการพัฒนาในลักษณะ ทำเป็นเฟส โดยใช้การเชื่อมต่อทางถนนในระยะแรกก่อน


สำหรับความคืบหน้างานก่อสร้าง รถไฟทางคู่ ระยะที่ 1 ประกอบด้วย

  1. โครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ 2 โครงการ ประกอบด้วย
    1.1 ช่วงฉะเชิงเทรา – แก่งคอย
    1.2 ช่วงชุมทางถนนจิระ – ขอนแก่น
  2. สัญญาที่มีผลการก่อสร้าง เร็วกว่าแผนงาน จำนวน 4 สัญญา ประกอบด้วย
    2.1   ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 51.83 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 20.29
    2.2 ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 84.89 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 1.22
    2.3   ช่วงนครปฐม – หัวหิน สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 83.81 เร็วกว่าแผนงานร้อยละ 0.37
    2.4 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 76.85 เร็วกว่าแผนงาน ร้อยละ 0.72
  3. สัญญาที่มีผลการก่อสร้าง ล่าช้ากว่าแผนงาน ประกอบด้วย
    3.1 ช่วงลพบุรี – ปากน้ำโพ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 65.59 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 1.90
    3.2 ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 1 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 87.14 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 4.15  
    3.3 ช่วงมาบกะเบา – ชุมทางถนนจิระ สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 73.15 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 11.33
    3.4 ช่วงหัวหิน – ประจวบคีรีขันธ์ มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 85.26 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 13.59
    3.5 ช่วงประจวบคีรีขันธ์ – ชุมพร สัญญาที่ 2 มีผลงานการก่อสร้าง ร้อยละ 69.03 ช้ากว่าแผนงาน ร้อยละ 2.04    .-สำนักข่าวไทย
ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ทนายวัดนาป่าพง แจงปมโอนเงินไปเยอรมนี ยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ

16 ก.ย. – ทนายวัดนาป่าพง แจงยิบไทม์ไลน์โอนเงิน 12 ล้าน ไปให้สีกาที่เยอรมนี ยืนยันใช้ก่อตั้งมูลนิธิ หวังเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไม่ใช่เสน่หาหรือยักยอกเงินวัด เชื่อเป็นขบวนการล้มพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ความคืบหน้าการตรวจสอบพระวัดดังใน จ.ปทุมธานี หลังมีการแจ้งความกองปราบฯ ให้ตรวจสอบปมเงินบริจาควัดที่มีการโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงปล่อยคลิปลักษณะที่ใกล้ชิดกับสีกาในร้านเครื่องประดับ วันนี้ (16 ก.ย.) นายนันทน อินทนนท์ และคณะทนายความของวัดนาป่าพง ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงประเด็นต่างๆ โดยมี อ.เบียร์ คนตื่นธรรม พระลูกวัด และศิษยานุศิษย์ของวัด มาร่วมฟังคำแถลงข่าวอีกเป็นจำนวนมาก ในส่วนของคลิปกับสีกาในร้านเครื่องประดับในต่างประเทศ ทนายความยืนยันว่าสีกาคนดังกล่าวเป็นโยมอุปัฏฐาก ที่ทำหน้าที่ดูแลพระอาจารย์คึกฤทธิ์ และดูแลช่องทางการสื่อสารของวัด คือพุทธวจนเรียล อย่างเปิดเผยตั้งแต่แรก แต่คลิปวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่พยายามเชื่อมโยงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างสีกาคนดังกล่าวกับพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เป็นการตัดต่อที่ตั้งใจให้เกิดความเข้าใจผิด แจงไทม์ไลน์ยิบ โอนเงินไปต่างประเทศใช้ก่อตั้งมูลนิธิส่วนกรณีมีการโอนเงินจากพระอาจารย์คึกฤทธิ์ ไปยังสีกาที่เยอรมนี ทีมทนายความยอมรับว่าเอกสารต่างๆ ที่เผยแพร่ในสื่อ เป็นเอกสารที่ทางวัดยื่นต่อศาลที่เยอรมนี ไม่ใช่เอกสารที่ต้องปิดบัง สามารถเปิดเผยได้ เพราะไวยาวัจกรเป็นผู้โอนเงินเอง พร้อมชี้แจงว่าเป็นการโอนเงินเพื่อไปสร้างวัดและมูลนิธิที่ประเทศเยอรมนี โดยไล่เรียงไทม์ชี้แจงอย่างละเอียด เริ่มตั้งแต่ปี 2561 พระอาจารย์คึกฤทธิ์ ต้องการเผยแพร่คำสอนในต่างประเทศ หนึ่งในวิธีการคือการจัดตั้งวัดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเยอรมนีมีลูกศิษย์ของวัดจำนวนมาก […]

รวบบัญชีม้ายกแก๊ง ตระเวนถอนเงินให้คอลเซ็นเตอร์จีนเทา

16 ก.ย. – จับยกแก๊งบัญชีม้า 7 คน ตระเวนถอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา ยึดเงินสดกว่า 5 แสนบาท สารภาพได้ค่าจ้างล้านละ 7,000 บาท เงินที่หลอกผู้เสียหายถูกถ่ายโอนไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์นอกประเทศแล้วไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท นายเอกชัย เจ้าของบัญชีม้า พร้อมหญิงสาวทำหน้าที่ประสานงานถอนเงิน ถูกตำรวจภูธรภาค 5 จับกุมได้บริเวณหน้าธนาคารแห่งหนึ่งใน อ.เวียงหนองล่อง จ.ลำพูน ก่อนขยายผลจับกุมนายศรัณย์พงศ์ และนางสาวนันท์ธนัษฐ์ 2 คนไทย ทำหน้าที่ควบคุมเจ้าของบัญชีม้า และผู้ร่วมขบวนการอีก 3 คน ที่นั่งรอในรถกระบะ นายคิโอ ชาวลาว หัวหน้าแก๊งที่ถอนเงินให้จีนเทาเครือข่ายคิงส์โรมันฝั่งลาว พร้อมยึดของกลางเงินสดกว่า 5 แสนบาท สมุดบัญชีเงินฝากอีก 1 เล่ม กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์วนเวียนถอนเงินสดจากธนาคารหลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันทุจริต หลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ร่วมกันเป็นอั้งยี่ เตรียมรวบรวมหลักฐานขยายผลถึงบอสชาวจีน พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค […]

อัปเดตโผ ครม. ครบ 100% “โสภณ​” มีชื่อนั่งรอง​นายก​ฯ

กทม.16 ก.ย.- อัปเดตโผ ครม. ล่าสุด “โสภณ​ ​ซา​รัมย์​” ผงาดรอง​นายก​ฯ ขณะที่ รมต.สำนักนายกฯ มีถึง 4 เก้าอี้ ด้าน “มัลลิกา” โผล่นั่ง รมช.คมนาคม วันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เซ็นส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม. ) ซึ่งคาดว่าสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ 36 รายชื่อ ดังนี้ โควตา​คนนอก​ พรรคกล้าธรรม พรรคพลังประชารัฐ กลุ่มสุชาติ กลุ่มการเมืองอื่น

ป่วนไม่เลิก! เขมรบุกทำลายรั้วลวดหนาม “บ้านหนองหญ้าแก้ว”

16 ก.ย.- เขมรป่วนไม่เลิก! บุกทำลายรั้วลวดหนาม บ้านหนองหญ้าแก้ว ทหารกัมพูชายืนประกบสังเกตการณ์ ขณะที่ชาวเน็ตแห่หนุนสร้างกำแพงกั้นถาวร วันที่ 16 ก.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสังคมออนไลน์แห่แชร์ภาพคลิปวิดีโอ พร้อมข้อความโดยอ้างว่าเป็นภาพของชาวเขมรบุกทำลายรั้วลวดหนามของไทย บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งเหตุการณ์เกิดในวันนี้ โดยมีชาวบ้านจากฝั่งกัมพูชาหลายคนเข้ามาใกล้แนวรั้วลวดหนาม พร้อมถือไม้และพยายามรื้อทำลาย ขณะที่ทหารกัมพูชายืนสังเกตการณ์อยู่รอบพื้นที่ ขณะที่ชาวเน็ตแห่แสดงความคิดเห็น สนับสนุนการสร้างกำแพงแทนรั้วลาดหนาม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก -313 .-สำนักข่าวไทย