กรมทรัพย์สินทางปัญญาสั่งปฏิเสธคำขอจดสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว

นนทบุรี 5 พ.ค.-อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา สั่งปฏิเสธคำขอจดสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์แล้ว เหตุไม่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูงขึ้น


นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า การพิจารณาคำขอรับสิทธิบัตรยาฟาวิพิราเวียร์ รูปแบบยาเม็ด ที่มีการสอบถามความคืบหน้ามาก่อนหน้านี้ ล่าสุดกรมฯ ได้มีคำสั่งปฏิเสธคำขอจดทะเบียนสิทธิบัตรแล้ว ภายหลังจากให้โอกาสผู้ขอได้ชี้แจงเพิ่มเติม โดยผู้ตรวจสอบสิทธิบัตรพิจารณาแล้วยังคงเห็นว่า การประดิษฐ์ดังกล่าวไม่มีขั้นการประดิษฐ์ที่สูง

ขึ้น ตามมาตรา 5 (2) และมาตรา 7 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ทำให้ปัจจุบันไม่มีผู้ใดมีสิทธิผูกขาดในยาฟาวิพิราเวียร์ ทั้งในโครงสร้างสารออกฤทธิ์หลัก ซึ่งไม่เคยมีการขอรับสิทธิบัตรในประเทศไทย และรูปแบบยาเม็ด


ทั้งนี้ กรมฯ ได้มีคำสั่งปฏิเสธคำขอแล้วในวันนี้ (5 พ.ค.64) หากองค์การเภสัชกรรม หรือบริษัทยาสามัญไทยรายอื่น ประสงค์จะผลิตยาดังกล่าวเพื่อใช้ในประเทศก็สามารถดำเนินการได้ อย่างไรก็ดี เนื่องจากกระบวนการของกฎหมายยังเปิดโอกาสให้ผู้ขอฯ สามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อคณะกรรมการสิทธิบัตรได้ภายใน 60 วัน หากไม่มีการอุทธรณ์ภายในระยะเวลาดังกล่าว จึงจะถือว่าคำสั่งปฏิเสธของกรมฯ เป็นที่สุด และเสร็จสิ้นกระบวนการทางกฎหมาย” นายวุฒิไกร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ทุกภาคส่วนกำลังช่วยกันแก้ปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตามบทบาทและหน้าที่ของตนเอง ภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ ให้ประชาชนเข้าถึงยาที่จำเป็นได้อย่างทันท่วงที และไม่อยากให้มองว่าสิทธิบัตรเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงยาเพียงอย่างเดียว เพราะหากมองในมุมกลับกัน ตั้งแต่โรคโควิด-19 ระบาดในไทยเมื่อต้นปี 2563 มีคนไทยยื่นจดสิทธิบัตร-อนุสิทธิบัตรที่เกี่ยวข้องกับโรคโควิด-19 แล้วกว่า 60 คำขอ เช่น หน้ากากอนามัย ตู้อบฆ่าเชื้อ ยาต้านไวรัส และหุ่นยนต์ขนส่งอาหารในโรงพยาบาล เป็นต้น จึงเห็นได้ว่า สิทธิบัตรก็เป็นประโยชน์สำหรับคนไทยที่จะทำให้ข้ามผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบากของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไปด้วยกัน

สำหรับประเด็นที่มีการเสนอในบางสื่อว่า ประเทศไทยไม่สามารถบังคับใช้สิทธิตามสิทธิบัตร (Compulsory License หรือ CL) เพื่อผลิตยาที่มีสิทธิบัตรขึ้นเองได้ เนื่องจากติดขัดที่กรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตรนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน กรมฯ ขอเรียนว่า การแก้ไขกฎหมายสิทธิบัตรที่มีการอ้างถึง ปัจจุบันเป็นเพียงร่างกฎหมายที่อยู่ภายในหน่วยงาน ยังต้องผ่านกระบวนการพิจารณาด้วยความรอบคอบอีกหลายขั้นตอน กว่าจะมีผลบังคับใช้ ดังนั้น การใช้สิทธิ CL จึงยังเป็นอำนาจของกระทรวง ทบวง กรมที่เกี่ยวข้อง ตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.สิทธิบัตร พ.ศ. 2522 ซึ่งบังคับใช้อยู่ในปัจจุบัน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย