ธ.กรุงเทพ เปิดไทม์ไลน์พนักงานติดโควิด 7 ราย

กรุงเทพฯ 12 เม.ย. – ธนาคารกรุงเทพ แจ้งพบพนักงานของธนาคาร 7 ราย ติดเชื้อโควิด-19 พร้อมเปิดไทม์ไลน์ และดำเนินตามมาตรการป้องกันควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด


ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ขอแจ้งให้ทราบว่า พนักงานของธนาคาร จำนวน 7 ราย ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายละเอียดดังนี้

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดพาณิชย์บริการ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 4 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป​ โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 9 เมษายน 2564 คาดจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้เดินทางไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน ในระหว่างวันที่ 3-6 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดและมีไข้สูง ทั้งนี้ พนักงานมิได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 เป็นต้นมา


พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดกลุ่มงาน New Project สายเทคโนโลยี ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารพระราม 3 ชั้น 9 ซึ่งไม่ใช่หน่วยงานที่ให้บริการแก่ลูกค้า​ โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 10 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด มีอาการไอมีเสมหะเล็กน้อย แต่ไม่มีไข้

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดฝ่ายธุรกิจโทรคมนาคม สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 11 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกัน เมื่อช่วงเย็นหลังเลิกงาน ในวันที่ 2 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน 2564 เป็นต้นมา

พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดหน่วยงานธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ชั้น 10 ซึ่งไม่ใช่พื้นที่ให้บริการลูกค้า โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลซึ่งทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 ในกิจกรรมสังสรรค์ที่ได้ไปร่วม ขณะนี้พนักงานรายดังกล่าวได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานไม่ได้ออกไปพบปะและให้บริการลูกค้าภายนอกธนาคารตามมาตรการปฏิบัติเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของหน่วยงานธนาคาร ตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2564 เป็นต้นมา


พนักงานจำนวน 1 ราย สังกัดสำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 ปฏิบัติงานอยู่ที่อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 ซึ่งไม่ใช่บริเวณพื้นที่สาขาที่ให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้เดินทางไปรับประทานอาหารร่วมกันที่ร้านอาหารย่านเกษตรนวมินทร์ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ซึ่งทราบภายหลังเช่นกันว่ามีผู้ติดเชื้อไปร่วมใช้บริการที่ร้านดังกล่าว ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ลูกค้าผู้ที่ได้เข้าใช้บริการ ณ สำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 ในระหว่างวันที่ 5, 7 และ 8 เมษายน 2564 ทราบ​ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

พนักงาน จำนวน 1 ราย สังกัดสายลูกค้าบุคคล ที่ได้รับมอบหมายลงพื้นที่ปฏิบัติงาน ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันที่ 11 เมษายน 2564 คาดสาเหตุจากการสัมผัสใกล้ชิดกับเพื่อนซึ่งเป็นบุคคลภายนอกธนาคาร ทราบภายหลังว่าติดเชื้อโรคโควิด-19 โดยได้รับประทานอาหารร่วมกันในช่วงลาพักผ่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ในระหว่างวันที่ 5-9 เมษายน 2564 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ลูกค้า จำนวน 1 ราย ที่รับการบริการโดยตรงจากพนักงานผู้ติดเชื้อ รวมถึงลูกค้าที่รับการบริการภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาด ณ พื้นที่สาขาถนนสี่พระยา ในวันที่ 9 เมษายน 2564 ทราบ​ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

พนักงาน จำนวน 1 ราย สังกัดศูนย์ธนาคารทางโทรศัพท์ ปฏิบัติงานอยู่ที่ห้องตรีบุษยา 3 อาคารพระราม 3 ชั้น 3 โดยได้รับทราบผลยืนยันจากแพทย์ว่าติดเชื้อในวันนี้ (12 เมษายน 2564) คาดสาเหตุจากการไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารย่านบางจาก เมื่อช่วงเวลาเย็นหลังเลิกงาน ในวันที่ 5 เมษายน 2564 ซึ่งทราบภายหลังว่าที่ร้านอาหารดังกล่าวมีเจ้าของร้านและลูกค้าติดเชื้อโรคโควิด-19 ขณะนี้พนักงานได้อยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด และไม่มีอาการป่วยรุนแรงแต่ประการใด ทั้งนี้ พนักงานรายดังกล่าวปฏิบัติงานให้บริการลูกค้าผ่านระบบโทรศัพท์ของธนาคารโดยไม่ได้พบปะและให้บริการลูกค้าแบบ Face to face แต่อย่างใด

ธนาคารได้ดำเนินมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดและความปลอดภัยของพนักงานตามข้อปฏิบัติของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด ดังนี้

ปิดพื้นที่ชั่วคราว ฝ่ายพาณิชย์บริการ ชั้น 4 หน่วยงานธุรกิจลูกค้าญี่ปุ่น สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ชั้น 10 และ ฝ่ายธุรกิจโทรคมนาคม สายลูกค้าธุรกิจรายใหญ่ ชั้น 11 ณ อาคารสำนักงานใหญ่ สีลม ส่วนพื้นที่กลุ่มงาน New Project สายเทคโนโลยี ชั้น 9 และ ห้องตรีบุษยา 3 ชั้น 3 ณ อาคารพระราม 3 สำนักธุรกิจถนนพระราม 2 กม.7 อาคารสาขาถนนพระราม 2 กม.7 ชั้น 2 และพื้นที่สาขาถนนสี่พระยา เพื่อทำความสะอาดและฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อตามมาตรการปฏิบัติกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเรียบร้อยแล้ว

ให้พนักงานทุกคนที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องใกล้ชิดกับพนักงานผู้ติดเชื้อดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อทันที โดยอยู่ระหว่างรอผลตรวจ และทำการกักตัวเองในที่พักอาศัย (Self-Quarantine at Home) โดยทันทีตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข

สำหรับลูกค้าผู้ที่ได้เข้าใช้บริการ ธนาคารได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการแจ้งให้ทราบ เพื่อพิจารณากักตัวสังเกตอาการตามระยะเวลามาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข หรือเข้ารับการตรวจหาเชื้อจากโรงพยาบาล

ธนาคารมีความห่วงใยในสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน ครอบครัว และประชาชนเป็นสำคัญ โดยได้ปฏิบัติตามมาตรฐานสุขอนามัยของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อร่วมป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด–19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการให้บริการลูกค้าตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ได้มีการเว้นระยะห่าง มีฉากกั้น และขอความร่วมมือให้พนักงานปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดอย่างสม่ำเสมอ โดยสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือ เพื่อช่วยให้สังคมโดยรวมปลอดภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็น ‘เพื่อนคู่คิด’ ที่พร้อมเคียงข้างเพื่อก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เมียติด GPS รถผัว ตามง้อถึงบ้าน ฝ่ายชายเมิน ยิงดับ

ภรรยาติด GPS รถสามี ตามง้อไม่สำเร็จ ซัดด้วยลูกโม่ตายคาใต้ถุนบ้าน คาดปมทะเลาะหึงหวง คิดจบชีวิตตัวเองตาม แต่พ่อสามียึดปืนไว้ทัน

ครูสูญเงิน 1.2 ล้านบาท มิจฉาชีพหลอกเป็นที่ดิน-จนท.ธนาคาร

ครูสาวชาวอุบลราชธานี ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการ และเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหาจึงหลงเชื่อ สูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท

สุราษฎร์ฯ คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงท่วมบ้าน-รีสอร์ต

ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรง น้ำทะเลหนุนสูงซัดบ้านพัก-รีสอร์ต อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี พังเสียหาย 4 หลัง เตือนเรือประมงงดออกจากฝั่ง

New threats in Los Angeles as wildfire switches direction

ไฟป่าแอลเอเปลี่ยนทิศสร้างปัญหาใหม่

ลอสแอนเจลิส 12 ม.ค.- รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเกิดภัยคุกคามใหม่วานนี้ เมื่อไฟป่าที่โหมไหม้เผาหลายพื้นที่ทั่วเทศมณฑลลอสแอนเจลิสหรือแอลเอเคาน์ตี้ได้เปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องสั่งอพยพประชาชนเพิ่มเติม และกลายเป็นปัญหาท้าทายใหม่สำหรับทีมนักดับเพลิง พื้นที่เขตแคลิฟอร์เนียใต้เผชิญไฟป่ามาตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม โดยเกิดไฟป่าพร้อมกัน 6 จุดทั่วแอลเอเคาน์ตี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 11 คน  ผู้สูญหาย 13 คน  บ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างเสียหายหรือถูกทำลายรวมแล้วกว่า 10,000 หลัง คาดว่าความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินจะเพิ่มขึ้นอีก เมื่อเจ้าหน้าที่สามารถเข้าตรวจสอบพื้นที่ประสบภัยได้อย่างละเอียด ขณะนี้ยังคงมีประชาชน 153,000 คนอยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ และอีก 166,800 คน เสี่ยงต้องอพยพเนื่องจากมีการประกาศเคอร์ฟิวในทุกพื้นที่ที่มีการอพยพประชาชนหนีไฟป่า ขณะเดียวกันเครื่องบินกองทัพอากาศของเม็กซิโกได้ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่รัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐเมื่อวานนี้ เพื่อนำทีมบุคคลากร 74 คนจากกองทัพบกและคณะกรรมาธิการป่าไม้แห่งชาติ ไปช่วยปฏิบัติการดับไฟป่าที่กำลังลุกไหม้ลามไม่หยุดทั่วเขตแคลิฟอร์เนียใต้ ภารกิจด้านมนุษยธรรมดังกล่าวครอบคลุมทั้งปฏิบัติการดับไฟป่าและปกป้องพลเรือน ขณะที่กงสุลเม็กซิโกในเมืองแอลเอประกาศไม่ปิดทำการและเสนอให้ที่พักพิงกับผู้ประสบภัยชาวเม็กซิโก ไม่ว่าจะมีสถานะเป็นผู้อพยพหรือไม่ ปัจจุบันมีชาวเม็กซิโกหรือลูกหลานชาวเม็กซิโกอาศัยอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนียคิดเป็นเกือบร้อยละ 30 ของประชากรทั้งรัฐ.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

คนร้ายลอบวางระเบิด 2 พ่อลูก ครู ตชด. เสียชีวิต

คนร้ายลอบวางระเบิด ถนนศรีสาคร-จะแนะ จ.นราธิวาส รถกระบะของครูใหญ่โรงเรียน ตชด. และลูกชาย ขับผ่านมา พลิกคว่ำหลายตลบ ก่อนบุกมาจ่อยิงซ้ำจนเสียชีวิต เจ้าหน้าที่เชื่อกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หวังสร้างสถานการณ์ความปั่นป่วนในพื้นที่

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย

“ตระกูลม่วงศิริ” ยกทีมซบพรรคเพื่อไทย ด้าน “ธีรรัตน์” ต้อนรับกลับบ้านเก่า มองเป็นเรื่องน่ายินดีช่วยทำงานให้สำเร็จ ขณะที่ สก.ปชป.-ไทยสร้างไทย มาด้วย

นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้

“แพทองธาร” นายกฯ เตรียมลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ 16 ม.ค.นี้ ติดตามโครงการพัฒนาพื้นที่ พบนักเรียน ประชาชน ร่วมมหกรรมแก้หนี้, พูดคุยผู้นำศาสนา-ผู้ประกอบการประมง-เร่งโครงการก่อสร้างสะพาน, ขุดลอกคลอง, โครงการเงินกู้ซอฟต์โลน

นายกฯ เรียกรัฐมนตรี-คณะทำงานด้านเศรษฐกิจ ประชุมกรอบงบฯ 69

“แพทองธาร” นายกฯ เรียก 3 รมต.คลัง-ที่ปรึกษานโยบายของนายกฯ หารือสรุปทิศทางการทำงบประมาณปี 69 มั่นใจใช้งบที่มาจากภาษีประชาชน แก้ไขปัญหาพัฒนาประเทศได้ตรงจุด