ปตท.สผ.มั่นใจอีวีไม่กระทบ -กำลังผลิตในเมียนมา ปกติ

กรุงเทพฯ  8 เม.ย. – บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ปตท.สผ.) มั่นใจ แผนส่งเสริมอีวีของไทยไม่กระทบ คาดก๊าซฯ ขายได้เพิ่มขึ้น ส่วนโครงการในเมียนมายังผลิตก๊าซฯ ได้ปกติ 


ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ผู้ถือหุ้นแสดงความเป็นห่วงอนาคต หลังจากโลกเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยียานยนต์ที่ใช้น้ำมันไปสู่การใช้ไฟฟ้า หรืออีวี รวมทั้งการลงทุนของ ปตท.สผ.ในเมียนมา นายไกรฤทธิ์ อุชุกานนท์ชัย ประธานกรรมการ ปตท.สผ. ชี้แจงว่าในเรื่อง อีวี ไม่กระทบ เพราะผลผลิตหลักของ ปตท.สผ. คือ ก๊าซธรรมชาติไม่ใช่น้ำมัน ในขณะที่อีวีจะมีการใช้มากขึ้นใน 10-15 ปีข้างหน้า เช่น ในไทยวางแผนวางเป้าหมายจำหน่ายอีวีในประเทศในปี 68 รวม 1,051,000 คัน  และก๊าซฯเป็นเชื้อเพลิงหลักในช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี ซึ่งนโยบายของ ปตท.สผ. คือ เน้นการผลิตก๊าซฯเพิ่มมากขึ้น  และยังทำแผนลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หลายรูปแบบ เช่น การกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์  หรือคาร์บอน แคปเจอร์  เป็นต้น

นายพงศธร ทวีสิน  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร  ปตท.สผ.  กล่าวว่า โครงการลงทุนในเมียนมา ทาง ปตท.สผ. มีการร่วมดำเนินธุรกิจมาประมาณ 30 ปี ตามพันธกิจเดียวกับรัฐบาลคือ สร้างความมั่นคงพลังงานควบคู่สร้างคุณค่ายั่งยืนให้กับทุกฝ่าย มีการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านปิโตรเลียมให้กับชาวเมียนมา มีการจ้างงานต่อเนื่อง และเป็นปัจจัยช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของชาวเมียนมา  ปัจจุบันการผลิตปิโตรเลียมยังคงรักษากำลังผลิตต่อเนื่อง ตามหน้าที่และสัญญาที่ผูกพันระหว่างรัฐบาล โดย ปตท.สผ. ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของพนักงาน ความมั่นคง และยึดถือหลักสิทธิมนุษยชนขององค์การสหประชาชาติเป็นสำคัญ  ส่วนโครงการแผนผลิตไฟฟ้าตามโครงการ GAS TO POWER ในขณะนี้ก็อยู่ระหว่างทำแผนงานโดยรวม โดยตามกำหนดการ คือ จะมีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายในปี 2565


สำหรับการระบาดของโควิดปี 63 ก็ส่งผลต่อบริษัท เพราะราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก การใช้พลังงานลดลง โดยช่วงก่อนโควิดราคาน้ำมันราว 60 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล  แล้วลดลงอย่างรวดเร็วเหลือประมาณ  20 เหรียญ/บาร์เรล แล้วค่อยทยอยปรับขึ้น 

ทำให้บริษัทพลาดเป้าหมายปริมาณการขายจากเดิมตั้งที่ประมาณ 390,000  บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เหลือ 350,000  บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ เพราะปริมาณการเรียกรับก๊าซจากโครงการในอ่าวไทยลดลง 

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ปรับแผนดำเนินการรับวิกฤติไม่ว่าจะเป็นการให้พนักงานทำงานที่บ้านลดการติดเชื้อ โครงการช่วยเหลือสังคม การดำเนินการทางการเงินให้มีสภาพคล่องที่ดี  พร้อมปรับกลยุทธ์ธุรกิจ หลักๆ เช่น การเลือกลงทุนโครงการที่มีศักยภาพ ซึ่งมีการร่วมทุนและค้นพบแหล่งใหม่ในมาเลเซีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นต้น  นอกจากนี้ ยังเน้นรักษาระดับการผลิต ลดต้นทุนต่อหน่วย  บริหารความเสี่ยงผลกระทบจากราคาน้ำมันผันผวน รวมทั้งลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ด้านนวัตกรรม เช่น หุ่นยนต์และโดรน เป็นต้น  


ในขณะเดียวกัน บริษัทยังร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจด้านจ่ายเงินปันผล โดยจ่ายระหว่างกาลปี 63  ไปแล้ว 1.50 บาท/หุ้น และเหลือจ่ายอีก 2.75 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 26 เม.ย. 64  -สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เตรียมเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชา

นายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางเยือนราชอาณาจักรกัมพูชาอย่างเป็นทางการ ในโอกาสครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทย-กัมพูชา และการส่งเสริมความร่วมมือในการแก้ปัญหาและการพัฒนาของสองประเทศ โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยรายงาน

9 ทันโลก : เตรียมเริ่มกระบวนการเลือกโป๊ปองค์ใหม่

หลังจากสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ประมุขแห่งศาสนจักรสิ้นพระชนม์ รายงาน 9 ทันโลกวันนี้จะพาไปรำลึกถึงพระองค์และติดตามกระบวนการเลือกพระสันตะปาปาพระองค์ใหม่

พิพากษาแก๊งช่วยแก้ความเร็วรถ “บอส”

วันนี้คดีทายาทเครื่องดื่มชูกำลัง ขับรถชนตำรวจเสียชีวิต กลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตัดสินจำคุกอดีตรองอัยการสูงสุด และอดีตอัยการอีก 1 คน ฐานความผิดแก้ความเร็วรถคันเกิดเหตุ หวังช่วยผู้ต้องหา