“กกพ”ตรึงค่าไฟต่อรับมือน้ำมันขาขึ้น

กรุงเทพฯ 5 มี.ค.- กกพ.เดินหน้าตรึงค่าเอฟทีประจำงวด พฤษภาคม- สิงหาคม 2564 ที่ลบ 15.32 สตางค์ พร้อมรับมือราคาน้ำมันขาขึ้นและค่าเงินบาทแข็งตัวในช่วงปลายปี

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา  คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติให้ตรึงค่าไฟฟ้าผันแปร  หรือ เอฟที  สำหรับการเรียกเก็บค่าไฟฟ้าในรอบเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2564 โดยให้เรียกเก็บที่ -15.32 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ผู้ใช้ไฟฟ้ายังคงจ่ายค่าไฟฟ้าเท่าเดิมในอัตรา 3.61 บาทต่อหน่วยต่อไปอีก 4 เดือน

  โดยกกพ. ประเมินว่า แนวโน้มราคาน้ำมันดิบที่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 54.8 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มาอยู่ในระดับ 60 เหรียญสหรัฐต่อบาเรลในเดือนมีนาคม 2564 และแนวโน้มการอ่อนตัวลงของค่าเงินบาทจาก 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มาเป็น 31 บาทต่อเหรียญสหรัฐในเดือนมีนาคม 2564 อาจส่งผลต่อค่าเอฟทีในช่วงปลายปี อีกทั้งความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกหลังจากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 คลี่คลายในครึ่งปีหลัง จะส่งผลต่อการเพิ่มความต้องการใช้เชื้อเพลิงในตลาดโลกอย่างรุนแรง จึงใช้หลักการประเมินค่าเอฟทีตลอดทั้งปีเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าจะมีศักยภาพในการรักษาเสถียรภาพค่าไฟฟ้าตลอดปี 2564

   สำหรับปัจจัยในการพิจารณาค่าเอฟที (ตามปกติ) ในรอบเดือน พฤษภาคม ถึงสิงหาคม  2564 ประกอบด้วย

1. ความต้องการพลังงานไฟฟ้า เท่ากับประมาณ 67,885.43 ล้านหน่วย ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดือน มกราคม ถึงเมษยน ปีนี้ 2564 ที่คาดว่าจะมีความต้องการพลังงานไฟฟ้าเท่ากับ 60,685.17 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.86  ,2. สัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงการผลิตไฟฟ้าในช่วงเดือน พฤษภาคม ถึงสิงหาคม   ยังคงใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก ร้อยละ 55.5 ของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด นอกจากนี้เป็นการซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศ ทั้ง ลาวและมาเลเซีย   รวมร้อยละ 17.02 และค่าเชื้อเพลิงลิกไนต์ของ กฟผ. ร้อยละ 8.73 ถ่านหินนำเข้าโรงไฟฟ้าเอกชน ร้อยละ 8.72 และอื่นๆ อีก ร้อยละ 10.03

  3. สถานการณ์ราคาเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า ตามข้อมูลจริงเดือนมกราคม 2564 ซึ่งอัตราแลกเปลี่ยนเท่ากับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบดูไบอ้างอิงที่ 54.8 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ราคาเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้นจากประมาณในรอบเดือน มกราคม ถึงเมษยน 2564 โดยที่เชื้อเพลิงอื่นๆ ปรับตัวลดลงและ4. อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยที่ใช้ในการประมาณการ ระหว่างวันที่ 1 ถึง 31 มกราคม 2564เท่ากับ 30 บาทต่อเหรียญสหรัฐ แข็งค่าขึ้นจากประมาณการในงวดเดือนมกราคม 57 เมษายน  ที่ประมาณการไว้ที่ 31.4 บาทต่อเหรียญสหรัฐ.- สำนักข่าวไทย