ขยายอาคารศูนย์ราชการฯ มูลค่ากว่า 6,245 ล้านบาท

แจ้งวัฒนะ 19 ก.พ.- ธพส.ลงนามสัญญาจ้าง ซิโน-ไทยฯ ก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ มูลค่ากว่า 6,245 ล้านบาท


บริษัท ธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ได้จัดพิธีลงนามสัญญาจ้าง โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยาย ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐ โซน C งานก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ ณ อาคารธนพิพัฒน์ โดยมีนายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ ในฐานะประธานกรรมการ ธพส. และ พล.อ.สุรพันธ์ พุ่มแก้ว กรรมการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นสักขีพยาน ซึ่งพิธีดังกล่าวเป็นการลงนามสัญญาจ้างระหว่างนายนาฬิกอติภัค แสงสนิท กรรมการผู้จัดการ ธพส. และนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)

นายนาฬิกอติภัค กล่าวว่า การประกวดราคาจ้างก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ เป็นการดำเนินงานด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ โดยมีราคากลาง 6,729,900,000 บาท ซึ่งหลังจากที่เปิดให้เอกชนซื้อเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ตั้งแต่วันที่ 6 พฤศจิกายน – 16 ธันวาคม 2563 รวมระยะเวลา 25 วัน มีเอกชนสนใจขอรับเอกสารจำนวนทั้งสิ้น 5 ราย และสนใจยื่นเอกสารประกวดราคา จำนวน 3 ราย ประกอบด้วย บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) โดยบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) เสนอราคาต่ำสุด คือ 6,245,697,000 บาท


สำหรับงานก่อสร้างอาคารด้านทิศเหนือ มีระยะเวลาในการดำเนินงานทั้งสิ้น 840 วัน และมีขอบเขตการดำเนินงาน ประกอบด้วย อาคารสำนักงานสูง 11 ชั้น และอาคาร Atrium ซึ่งในการดำเนินงาน ธพส.กำชับให้มีการปฏิบัติตามมาตรการด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการก่อสร้าง เพื่อให้ศูนย์ราชการฯ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เป็นอาคารประหยัดพลังงาน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเจ้าหน้าที่ผู้ใช้อาคาร ประชาชนที่อยู่โดยรอบศูนย์ราชการฯ และประชาชนที่มาติดต่อหน่วยงานต่างๆ 

ทั้งนี้ ปัจจุบันการก่อสร้างพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๐โซน C มีความก้าวหน้าในการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยอยู่ระหว่างการก่อสร้างชั้นใต้ดิน (Basement) ซึ่งกำหนดแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2564 โดยอาคารศูนย์ราชการฯ โซน C จะมีพื้นที่ใช้สอยรวม 660,000 ตารางเมตร คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 2566. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”