กรุงเทพฯ 21ม.ค. – ปตท.ยังไม่ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมัน แม้ “โจ ไบเดน” จะกลับเข้าสู่ข้อตกลงปารีส
นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท. กล่าวว่า ปตท.ยังไม่ปรับเป้าประเมินราคาน้ำมันดิบดูไบในปี 2564 ที่ประมาณ 50 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล แม้ นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ จะเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจ และได้ลงนามในเอกสารที่ส่งถึงสหประชาชาติในวันที่ 20 ม.ค. เพื่อกลับเข้าเป็นภาคีความตกลงปารีสอีกครั้ง และมีคำสั่งให้ทบทวนปรับเปลี่ยนมาตรฐานการปล่อยคาร์บอนของรัฐบาลชุดที่แล้ว รวมทั้งยกเลิกโครงการท่อส่งน้ำมัน Keystone XL ที่ขนส่งกระทบต่อสิ่งแวดล้อมซึ่งประเด็นเหล่านี้จะเห็นได้ สหรัฐได้กลับมาให้ความสำคัญกับพลังงานทดแทน (Renewable) ซึ่งตลาดกำลังติดตามว่าจะมีการเก็บภาษีน้ำมัน Fossil หรือไม่อย่างไร ประเด็นเหล่านี้จะส่งผลต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซจากชั้นหินดินดาน (shale oil /shale Gas) ให้มีต้นทุนสูงขึ้น และกำลังผลิตจากสหรัฐจะลดลง
“เมื่อไบเดนส่งเสริม พลังงานทดแทน ความต้องการน้ำมันจะลดลง ในขณะที่กำลังผลิตของสหรัฐก็อาจลดลงด้วย ดังนั้น จึงคาดว่าราคาน้ำมัน จะอยู่ในระดับ 50 ดอลลาร์บวกลบ” นายอรรถพลกล่าว
ปัจจัยสำคัญของราคาน้ำมันขึ้นอยู่กับการระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งขณะนี้วัคซีนทยอยออกมาใช้ แล้วจะสามารถควบคุมการระบาดได้มากน้อยเพียงใด และจะส่งผลให้การเดินทางทั่วโลกกลับมาได้เมื่อใด และยังขึ้นกับความร่วมมือของกลุ่มโอเปกพลัส ว่าจะจับมือกันต่อเนื่องเพื่อคุมราคาน้ำมันได้เหนียวแน่นหรือไม่
นายอรรถพลกล่าวด้วยว่า กรณีสหรัฐยกเลิกโครงการท่อส่งน้ำมัน Keystone XL คงไม่ส่งผลกระทบอะไรต่อ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ.มากนัก เพราะโครงการออยล์แซนด์ ไม่ได้มีการลงทุนอะไร และอยู่ระหว่างการบริหารจัดการที่เหมาะสมในขณะเดียวกัน ปตท.สผ.ก็ได้ปรับตัวด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนมากขึ้น ล่าสุด ลดต้นทุนเฉลี่ยการผลิตเหลือ 28-29 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมต้นทุนสูงกว่า 30 ดอลลาร์/บาร์เรล
นายอรรถพล ยังกล่าวด้วยว่า กลุ่ม ปตท. ติดตามสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ทั้งในไทยและทั่วโลก โดยยังไม่มีการปรับเปลี่ยนงบลงทุนแต่อย่างใด ซึ่งกลุ่ม ปตท.ได้ทำแผนกลยุทธ์ รองรับบนสมมุติฐานเศรษฐกิจเป็นไปตามคาด แผนดีกว่าคาดและแย่กว่าคาดการณ์ จึงสามารถปรับตัวรองรับไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นไปในรูปแบบใด
ทั้งนี้สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เมื่อคืนนี้ (20 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน จะกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 53.24 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 56.08 ดอลลาร์/บาร์เรล . – สำนักข่าวไทย