EIC ปรับจีดีพีปี 63 ดีขึ้น -6.5%

กรุงเทพฯ  9 ธ.ค. – EIC ปรับตัวเลขจีดีพีปี 63 ติดลบน้อยลงเหลือ -6.5% และบวก 3.8% ในปี 64 ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังจำเป็นต้องใช้ต่อเนื่องไปจนถึงครึ่งปีแรก ชี้รัฐยังกู้เพิ่มได้แม้เกินเพดานที่กำหนดไว้


นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด Economic Intelligence Center (EIC) ธนาคารไทยพาณิชย์ (จำกัด) มหาชน กล่าวว่า EIC ประเมินจีดีพี 2563 หดตัวน้อยลงกว่าคาดที่ -6.5% จากเดิมคาดว่า -7.8% เนื่องจากมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐ 4 มาตรการ คือ เราเที่ยวด้วยกัน ,คนละครึ่ง ,ช้อปดีมีคืน และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ช่วยกระตุ้นจีดีพี 0.53% รวมทั้งจากการฟื้นตัวของเอกชนในช่วงไตรมาส 3

ขณะที่ปี 2564 คาดเศรษฐกิจจะขยายตัว 3.8% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก มาตรการภาครัฐและวัคซีน คาดว่าไทยจะเริ่มได้รับวัคซีนเดือนมิถุนายนปี 2564 ขณะที่ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติคาดว่ามีประมาณ 8 ล้านคน โดยตัวเลขจะเริ่มชัดเจนในช่วงครึ่งปีหลังหรือช่วงไตรมาส 4


ทั้งนี้ มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายตลอดทั้งปี 2564 ไว้ที่ 0.5% ควบคู่กับการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลเมื่อจำเป็น เพื่อดูแลอัตราดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมทั้งการใช้มาตรการเฉพาะจุดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ส่วนทิศทางค่าเงินบาทมีแนวโน้มแข็งค่าขึ้น โดยมองกรอบสิ้นปี 2564 อยู่ที่ 29.5-30.5 บาท/ดอลลาร์ฯ

ส่วนความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยปี 2564 คือ ความเปราะบางของตลาดแรงงาน ที่มองว่าอัตราการว่างงานยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง และผู้ที่มีงานทำชั่วโมงการทำงานลดลงส่งผลต่อรายได้ สะท้อนจากการปิดกิจการที่ยังมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แต่การเปิดกิจการใหม่ยังซบเซา นอกจากนี้ ยังมีปัญหาหนี้ครัวเรือนระดับสูง ดังนั้น ครึ่งปีแรกยังจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากภาครัฐต่อเนื่อง โดยอาจให้น้ำหนักไปที่การฟื้นฟู ทั้งสร้างงาน การเพิ่มทักษะแรงงาน และการผลักดันให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าสู่อุตสาหกรรมแบบ New S-Curve  

ทั้งนี้ มองว่าเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งขณะนี้ใช้ไปแล้ว 500,000 ล้านบาท ยังเหลืออีก 500,000 ล้านบาทสำหรับปี 2564 นั้น ยังเพียงพอหากกลางปีไทยได้รับวัคซีนตามที่คาดไว้ แต่หากวัคซีนล่าช้ารัฐบาลก็ยังสามารถกู้เพิ่มได้ แม้จะเกินเพดานหนี้สาธารณะที่ 60% ของจีดีพี เพราะเพดานดังกล่าวเป็นเพดานที่กำหนดไว้ในช่วงภาวะปกติ


ส่วนกรณีที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศเพิ่มสูงขึ้น มองว่าอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของคนในพื้นที่ แต่ยังเกิดในวงจำกัดจึงไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม เนื่องจากคนไทยยังสามารถเดินทางท่องเที่ยวในภาคอื่นได้ แต่หากไม่สามารถควบคุมและเกิดการแพร่ระบาดในวงกว้างก็อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมแต่เชื่อว่าจะไม่รุนแรงเหมือนการระบาดในรอบแรก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

สป.สายไหม

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐานร้องสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนัน

“กัน จอมพลัง” หอบหลักฐาน ร้องตรวจสอบ สป.สายไหม เอี่ยวเว็บพนันออนไลน์ ยินดีให้ตำรวจตรวจสอบกลับ มั่นใจประวัติขาวสะอาด ย้ำ “ลูกพีช” ควรขอโทษอย่างจริงใจ

ข่าวแนะนำ

สาเหตุตึกสตง.ถล่ม

เปิด 2 สาเหตุตึก สตง.ถล่ม “การออกแบบ-การก่อสร้าง”

“อธิบดีกรมโยธา” เผย สาเหตุตึก สตง. ถล่ม มีสองทาง ไม่การออกแบบ ก็ การก่อสร้าง ขอเวลา 90 วัน สร้างแบบจำลองขั้นสูง ตรวจสอบแบบคู่ขนาน เตรียมส่ง ผล ให้ ตร.-DSI ดำเนินการต่อ

บิ๊กอ๊อดรอดคุก

“บิ๊กอ๊อด” รอดคุก คดี “บอส อยู่วิทยา” อัยการเนตร คุก 3 ปี

“บิ๊กอ๊อด-ตร.” ทำคดี “บอส” รอดคุก ศาลยกฟ้อง ส่วน “อัยการเนตร” ศาลสั่งจำคุก 3 ปี และ “อัยการชัยณรงค์” จำคุก 2 ปี

โป๊ปฟรังซิสสิ้นพระชนม์

ทั่วโลกอาลัยโป๊ปฟรังซิส

ประชาชนคนทั่วโลกต่างแสดงความอาลัยต่อการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์ลงอย่างสงบเมื่อวานนี้ด้วยพระชนมายุ 88 พรรษา

นอมินีคนไทย

คุม 3 ผู้ต้องหานอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ฝากขัง ทั้งหมดปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

พนักงานสอบสวนคดีพิเศษคุมตัว 3 ผู้ต้องหานอมินีคนไทย บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ ไปฝากขังศาลอาญารัชดา ภายหลังสอบนานกว่า 10 ชั่วโมง ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ขณะที่นายโสภณ อ้างถูกนายประจวบ-นายมานัส ชักชวนให้ทำงาน