กรุงเทพฯ 3 ธ.ค. – หอการค้าไทยเผยดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน พ.ย.ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 50.9 มั่นใจมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐ แต่ยังมีหลายปัจจัยที่ต้องติดตาม
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยผลสำรวจดัชความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพฤศจิกายน 2563 พบว่าดัชนีมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 50.9 มาอยู่ที่ระดับ 52.4 ปรับดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2 และปรับตัวอยู่ในระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 เป็นต้นมา
ทั้งนี้ สะท้อนความมั่นใจของผู้บริโภคที่มีต่อภาวะเศรษฐกิจ ประกอบกับสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2563 ติดลบร้อยละ 7.8-7.3 หดตัวน้อยลง เพราะเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าปรับตัวดีขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อการส่งออกไทยในอนาคต นอกจากนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 0.50 ต่อปี ประกอบกับนโยบายด้านส่งเสริมกระตุ้นการใช้จ่ายจากภาครัฐผ่านโครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกันและโครงการช้อปดีมีคืนที่ช่วยกระตุ้นภาคธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงคนใช้จ่ายกันมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แม้ดัชนีจะปรับตัวดีขึ้นแต่ยังอยู่ในระดับต่ำกว่าที่ระดับ 100 แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคยังไม่มีความมั่นใจเกี่ยวกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ ดังนั้น ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ การระบาดของโควิด-19 แม้จะมีแนวโน้มที่ดีและจะมีวัคซีนใช้ได้อย่างกลางปีหน้า ค่าครองชีพและราคาสินค้าที่ยังทรงตัวในระดับสูง ความผันผวนอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นตัวฉุดให้ภาคการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกปีหน้าจะยังไม่เติบโตมากนัก รวมถึงความกังวลของภาคเอกชนเกี่ยวกับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะรุนแรงขึ้นในช่วงต้นปีหน้าได้ ทั้งหมดจึงเป็นแรงส่งให้ผู้บริโภคยังมีความกังวล โดยทางศูนย์พยากรณ์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 64 จะขยายตัวเป็นบวกอยู่ที่ร้อยละ 3.5-4.5 ซึ่งในช่วงกลางเดือนธันวาคมนี้ ทางศูนย์ฯจะแถลงตัวเลขคาดการณ์ในแต่ละด้านอีกครั้งหนึ่ง.-สำนักข่าวไทย
