ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยต.ค.63 ฟื้น


กรุงเทพฯ 18 พ.ย. – ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย เดือน ต.ค.63 ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 33.2 แต่ดัชนีการท่องเที่ยวและการเกษตรยังติดลบ แต่มีแนวโน้มดีขึ้น


นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ กล่าวว่า ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย (TCC-CI) ประจำเดือน ต.ค.63 ดัชนีฯ ปรับตัวดีขึ้นอยู่ที่ระดับ 33.2 จากที่เดือน ก.ย.63 อยู่ที่ระดับ 32.5 โดยดัชนีต่างๆ ปรับตัวดีขึ้น ยกเว้นการท่องเที่ยวและภาคเกษตรที่ยังคงติดลบ 0.4% และลบ 0.3% ตามลำดับ เนื่องจากการท่องเที่ยวยังไม่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวรวมถึงยังคงมีสถานการณ์แพร่ระบาดในแหล่งท่องเที่ยวในประเทศที่ปรากฏเป็นข่าวทำให้ประชาชนยังไม่กล้าจะออกไปท่องเที่ยวเต็มที่ ประกอบกับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศยังมีการแพร่ระบาดอยู่ แต่ไตรมาส 4 มีแนวโน้มดีขึ้น

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจของจังหวัดในปัจจุบันและคาดการณ์ 6 เดือนข้างหน้า ประจำเดือน ต.ค.63 มีแนวโน้มดีขึ้นทุกภาค แม้จะติดลบในขณะนี้แต่มีสัญญาณดีขึ้นในอนาคตเช่นกัน


สิ่งที่ภาคเอกชนกังวลในขณะนี้ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีการระบาดทั่วโลก และในไทยที่อาจจะมีการระบาดรอบ 2 การชุมนุมทางการเมืองที่มีผลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงรัฐบาล ส่งผลกระทบต่อการบริโภคของประชาชนลดลง ขณะที่การท่องเที่ยวยังไม่ฟื้นตัว จึงต้องการให้ภาครัฐมีมาตรการผลักดันให้ภาคเอกชนจัดให้มีการฝึกอบรมเพื่อกระจายรายได้โดยได้สิทธิประโยชน์ได้ภาษี องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท.จัดการอบรมสัมมนาในต่างจังหวัดให้มากขึ้น เป็นต้น

อีกปัจจัยที่ภาคเอกชนกังวลคือ ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนที่ค่อนข้างสูงกว่าร้อยละ 83 ของจีดีพี ซึ่งส่งผลกระทบต่อความสามารถในการใช้จ่ายของประชาชน นอกจากนี้ ปัญหาเงินบาทแข็งค่ากระทบการส่งออก ซึ่งเงินบาทตั้งแต่ต้นปี 63 มาถึงปัจจุบันแข็งค่า 1.8% ปัจจุบันอยู่ในระดับ 31.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินด่องของเวียดนามแข็งค่าขึ้นเพียง 0.1% ถึง 0.2% เงินริงกิตของมาเลเซียแข็งค่าขึ้น 0.4% เงินหยวนของจีนก็อ่อนค่าลง 5.8% ดังนั้นจึงต้องการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ดูแลให้เงินบาทอยู่ในระดับเดิมที่ประมาณ 31.5 – 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ น่าจะเป็นประโยชน์ในการส่งออกของไทย

แนวทางแก้ไขปัญหาที่ต้องการเห็นได้แก่ มาตรการช่วยเหลือธุรกิจส่งออกโดยการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุน พร้อมลงทุนในสิ่งใหม่ ๆ ให้มีความต่อเนื่อง, รักษาเสถียรภาพของค่าเงินบาทไม่ให้ผันผวนเพื่อช่วยเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันการส่งออกสินค้าไทย นอกจากนี้ ผลักดันการส่งออกไปตลาดอื่น ๆ เพิ่มเติม โดยเฉพาะตลาดจีนเพราะมีขนาดใหญ่และเศรษฐกิจจีนกำลังฟื้นตัวหลังจากโควิด-19, มาตรการกระตุ้นกำลังการซื้อของประชาชนในประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติ หลังจากหยุดนิ่งไปจากสถานการณ์โควิด-19, และจัดสวัสดิการและมาตรการช่วยเหลือให้กระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาคและท้องถิ่น มีการบริหารจัดการทรัพยากรเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา สาธารณสุขให้มีความเท่าเทียมมากขึ้น . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร

เชิญชวนร่วมงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025”

“กำภู-รัชนีย์” พาทัวร์งาน “มหานคร คัลเลอร์ฟูล ปาร์ตี้ 2025” ณ ลานจอดรถ บมจ.อสมท พบปะผู้ประกาศ ดีเจ และอินฟลูเอนเซอร์ รวมไปถึงศิลปินที่จะมาร่วมสนุกในงาน “มหานคร คัลเลอร์ฟู ปาร์ตี้ 2025”