กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โชว์ผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 1,238 ล้านบาท เติบโตขึ้น 304% มั่นใจว่าจะสามารถสร้างรายได้ทั้งปี 2563 ได้มากกว่า 10,000 ล้านบาท
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ.โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ เปิดเผยว่า บริษัทมีผลประกอบการ 9 เดือนแรก ปี 2563 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,238 ล้านบาท เติบโตขึ้น 304% ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้รายได้และผลกำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตมาจากยอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและโครงการบ้านที่ก่อสร้างเสร็จจากลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเป็นยอดโอนจากตลาดต่างประเทศกว่า 2,000 ล้านบาท สะท้อนให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่สามารถครองความเป็นผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังส่งผลให้บริษัทฯ มีส่วนแบ่งตลาดสูงถึง 37% ของยอดขายรวมจากทุกผู้ประกอบการในการขายคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯและปริมณฑลสำหรับลูกค้าต่างชาติในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2563 นอกจากนี้ ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขาย พรีเซลรวมกว่า 6,100 ล้านบาท บริษัทฯ มีรายได้ที่รอการรับรู้ (Backlog) ณ สิ้นสุด ไตรมาส 3 ปี 2563 กว่า 15,000 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ภายใน 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้อนุมัติการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ที่ตราไว้ (Par Value) จากเดิมหุ้นละ 3 บาท เป็นหุ้นละ 1 บาท และได้เตรียมแจกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ของบริษัทฯ ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญเดิม : 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ ทางบริษัทฯ ได้เตรียมจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 ประจำปี 2563 ในวันที่ 23 ธันวาคม 2563 นี้ เพื่อนำวาระพิจารณาการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นของบริษัทฯ ที่ตราไว้ และการออกใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญใหม่ในการขอมติเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น และคาดว่าการปรับมูลค่าที่ตราไว้ดังกล่าว จะมีผลต่อการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2564 และ Warrants คาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายในช่วงกลางเดือนมกราคม 2564 ต่อไป.-สำนักข่าวไทย
