นนทบุรี 5 พ.ย. – หอการค้าร่วมต่างประเทศ วอนไทยปรับแผนเข้ามาลงทุนเปิดกว้างถือหุ้นในธุรกิจบัญชี 3 แบบ 100 เปอร์เซ็นต์
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมหรือกับหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (Joint Foreign Chambers of Commerce in Thailand: JFCCT) ว่า ทางหอการค้าร่วมต่างประเทศต้องการให้ทางประเทศไทยผ่อนปรมการเข้าประกอบธุรกิจในประเทศไทยภายใต้บัญชีแนบท้าย 3 ของ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ใน 3 ธุรกิจ คือ 1.ธุรกิจบริการโทรคมนาคม 2.ธุรกิจศูนย์บริหารเงิน และ 3. ธุรกิจบริการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่จะขอเข้ามาถือหุ้นเองได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้ามาลงทุนให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างการนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาในรายละเอียดแก้ไขเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ตามกฎหมายเกี่ยวกับการเข้ามาลงทุนผ่านการส่งเสริมการลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนหรือบีโอไอได้รับการผ่อนปรมส่งเสริมลงทุนอยู่แล้ว รวมถึงหากประเทศนั้น เข้ามาอยู่ภายใต้เงื่อนไขข้อตกลงกรอบเจรจาการค้าหรือเอฟทีเอที่ไทยทำไว้กับประเทศต่างๆจะได้รับการผ่อนปรมด้วยเช่นกัน โดยได้แจ้งให้นักธุรกิจให้รับทราบตามหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเช่นกัน
นอกจากนี้ ยังได้มีการสอบถามถึงมาตรการดูแลเกี่ยวกับการเข้ามาในประเทศไทยของชาวต่างชาติที่จะเข้ามาท่องเที่ยวและการเข้ามาลงทุนในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 โดยเฉพาะความชัดเจนช่วงเวลาการกักตัวจะลดเหลือ 10 วันหรือ 14 วัน ในสถานที่กักตัวที่ควรมีความชัดเจนให้มากขึ้น และผลจากการหารือในครั้งนี้ โดยปกติทางหอการค้าร่วมต่างประเทศจะมีการพบปะพูดคุยปีละ 1 ครั้ง แต่ได้ขอไว้ให้ปรับเวลาพบปะมาเป็นปีละ 2 ครั้งเพื่อให้การทำงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้มีการประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างกันได้รวดเร็วและทันเหตุการณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งทางฝ่ายหอการค้าร่วมต่างประเทศยินดีรับคำเชิญประชุมดังกล่าวต่อไป . – สำนักข่าวไทย