CIMB ห่วงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง

กรุงเทพฯ  3 พ.ย. – CIMB ห่วงเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวไม่ต่อเนื่อง หลังต่างประเทศเริ่มกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกครั้ง อาจฉุดส่งออกไทยไตรมาสสุดท้ายหดตัวแรง ขณะที่การเมืองยังบั่นทอนความเชื่อมั่นการบริโภคและการลงทุนในประเทศ


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2 และคาดว่าทั้งปีจะติดลบน้อยลง จากเดิมคาดว่า -8.9% เป็น -7.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่สิ่งที่น่ากังวัล คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่ไม่ต่อเนื่องเมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส

ทั้งนี้ มองว่าไตรมาส 3 จีดีพี -8% และไตรมาส 4 จะ -8% ถึง -9% เนื่องจากกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์อีกรอบของหลายเมืองในต่างประเทศ หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังพุ่งสูง ซึ่งจะกระทบต่อการส่งออกไทยให้หดตัวแรงอีกครั้ง นอกจากนี้ การบริโภคภายในประเทศเริ่มแผ่วลง ขณะที่สถานการณ์การเมืองภายในประเทศกระทบต่อความเชื่อมั่นการบริโภคและความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐขณะนี้เป็นเพียงการช่วยประคองเศรษฐกิจเท่านั้น


นายอมรเทพ กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายปีนี้ควรใช้มาตรการทางการคลังเพิ่มเติม โดยเฉพาะนโยบายการจ้างงาน และนโยบายกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศที่นอกเหนือจากมาตรการลดค่าตั๋วเครื่องบินและที่พัก รวมทั้งอาจพิจารณาใช้นโยบายลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาเพิ่ม โดยควรเป็นมาตรการที่ง่ายกว่าช้อปดีมีคืน ควบคู่กับนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งคาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% ต่อปีจนถึงปี 2564 และหากจำเป็นต้องใช้มาตรการทางการเงินเพิ่มก็ยังมีเครื่องมืออื่น เช่น ลดอัตราดอกเบี้ยส่งเข้ากองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน หรือ FIDF การผ่อนปรนเงื่อนไงปล่อยกู้ซอฟท์โลนให้เอสเอ็มอีเข้าถึงง่ายขึ้น รวมทั้งการขอความร่วมมือแบงก์พาณิชย์ลดอัตราดอกเบี้ยช่วยลูกค้า เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม มองว่าเศรษฐกิจไทยปี 2564 จะกลับมาเป็นบวกได้ที่ 2.8% โดยตัวเลขจีดีพีจะกลับมาเป็นบวกได้ไตรมาส 2/2564 คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยปี 2564 จะมีประมาณ 6 ล้านคน โดยจะเริ่มเดินทางเข้ามาไทยได้ตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลัง และจะใช้เวลา 2 ปี ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติจึงจะฟื้นตัวชัดเจน ขณะที่เศรษฐกิจไทยจะใช้เวลาประมาณ 3 ปี จึงจะกลับมาอยู่ในระดับเดียวกับก่อนเกิดโควิด-19 .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง