ภูเก็ต 2 พ.ย. – รัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ชูผู้ประกอบการ “มุกภูเก็ต” คือ ต้นแบบการใช้ประโยชน์ทรัพย์สินทางปัญญาในเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่าการลงพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ได้นำคณะทำงานลงตรวจเยี่ยมแหล่งผลิต “มุกภูเก็ต”ซึ่งเป็นสินค้าเศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาทต่อปี เป็นหนึ่งในสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดภูเก็ต ที่มีลักษณะเด่นคือ เป็นทั้งมุกกลมและมุกซีก มีสีโทนขาว ครีม ชมพูถึงเหลืองทอง มุกกลม มีประกายวาว เลี้ยงในพื้นที่ทะเลรอบเกาะภูเก็ต ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเล ฝั่งอันดามัน ที่มีการขึ้นลงของน้ำวันละ 2 ครั้ง ทำให้น้ำสะอาดและมีการพัดพาของตะกอนสารอินทรีย์มากกว่าพื้นที่อื่น มีความอุดมสมบูรณ์ของแพลงตอนซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติของหอยมุก อีกทั้ง ยังมีอุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของหอย ประกอบกับเทคนิคการเลี้ยงหอยมุกรูปแบบเฉพาะตัวที่สืบทอดต่อกันมาของคนในพื้นที่ ทำให้สามารถสร้างมุกได้เร็วและมีอัตราการรอดของมุกสูง
นอกจากนี้ ยังได้พบผู้ประกอบการ บริษัท ภูเก็ต เพิร์ล อินดัสทรี จำกัด เพื่อหารือแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมชื่นชมที่เป็นต้นแบบ ผู้ประกอบธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาและการนำทรัพย์สินทางปัญญามาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์แบบครบวงจร มีการนำนวัตกรรมการออกแบบและการสร้างตราสินค้ามาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลิตภัณฑ์ โดยมีการขอรับความคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ในประเภทต่างๆ นอกจากสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ เช่น การยื่นจดสิทธิบัตรออกแบบผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับอุปกรณ์การเลี้ยงหอย และยื่นจดเครื่องหมายการค้า ภายใต้ตราสินค้า “อมร ภูเก็ต เพิร์ล” อีกทั้ง ที่ผ่านมายังเคยได้รับรางวัล IP Champion จากกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ในประเภทสิทธิบัตรการออกแบบ นับเป็นผู้ประกอบการที่สามารถใช้ประโยชน์จากการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมและครบวงจร ซึ่งจะเป็นตัวอย่างให้ผู้ประกอบการรายอื่นได้ศึกษาแนวทางและนำไปปรับใช้กับธุรกิจต่อไป . – สำนักข่าวไทย