ครม. เห็นชอบผลเจรจาไทย-EU และไทย-อังกฤษ Brexit ไม่กระทบโควตาภาษีสินค้าไทย


กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – ครม.เห็นชอบผลการเจรจาไทย-สหภาพยุโรป ไทย-สหราชอาณาจักร Brexit ไม่กระทบโควตาภาษีสินค้าไทยส่งออกไปสหภาพยุโรป


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2563 ว่า ครม. เห็นชอบร่างความตกลงระหว่างไทยและสหภาพยุโรปเกี่ยวกับการจัดสรรปริมาณสินค้าที่มีโควตาภาษีของสหภาพยุโรป และร่างหนังสือแลกเปลี่ยน (Exchange of letter) ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักรเกี่ยวกับการจัดสรรปริมาณสินค้าที่มีโควตาภาษีของสหราชอาณาจักร รวม 2 ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งสาเหตุที่ต้องมีการลงนามในครั้งนี้ เนื่องจากสหราชอาณาจักรจะออกจากการเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (Brexit) ในวันที่ 1 มกราคม 2564 ส่งผลให้สหภาพยุโรปต้องแก้ไขตารางข้อผูกพันทางภาษีภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) และสหราชอาณาจักรต้องจัดทำตารางข้อผูกพันทางภาษีภายใต้ WTO ใหม่ ซึ่งกระทบต่อการจัดสรรปริมาณสินค้าที่มีโควตาภาษีที่ไทยเป็นผู้ส่งออกสำคัญ เช่น ข้าว มันสำปะหลัง ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง และผลิตภัณฑ์สัตว์ปีก เป็นต้น ทั้งนี้ ร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับ ได้ผ่านการเจรจาอย่างรัดกุมแล้ว จึงไม่มีสาระใดกระทบต่อผลประโยชน์ของประเทศ การเจรจายึดหลักผลประโยชน์โดยรวมที่ไทยจะได้รับหลังจากสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ต้องไม่น้อยไปกว่าที่เคยได้รับเมื่อครั้งสหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ซึ่งมีสาระสำคัญดังนี้


1)ร่างความตกลงระหว่างไทยและสหภาพยุโรป เกี่ยวกับการจัดสรรปริมาณสินค้าที่มีโควตาภาษีของสหภาพยุโรป เป็นการจัดสรรปริมาณโควตาสินค้าที่มีโควตาภาษีที่สหภาพยุโรปให้แก่ไทย หลังจากสหราชอาณาจักรออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป โดยการจัดสรรสัดส่วนใหม่นี้จะไม่รวมปริมาณโควตาของสหราชอาณาจักร



2)ร่างหนังสือแลกเปลี่ยน (Exchange of letter) ระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับการจัดสรรปริมาณสินค้าที่มีโควตาภาษีของสหราชอาณาจักร เป็นการจัดสรรปริมาณโควตาสินค้าที่มีโควตาภาษีที่สหราชอาณาจักรให้แก่ไทย หลังจาก สหราชอาณาจักรออกจากสมาชิกสหภาพยุโรป โดยมีปริมาณโควตาเท่ากับสัดส่วนที่เหลือจากการจัดสรรของสหภาพยุโรป


นางสาวรัชดา กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อนำปริมาณโควตาสินค้าที่จัดสรรให้แก่ไทยมารวมกันทั้ง 2 ฉบับแล้ว จะเท่ากับปริมาณโควตาสินค้าที่ไทยเคยได้รับเมื่อครั้งสหราชอาณาจักรเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป และเนื่องจากร่างฯ ทั้ง 2 ฉบับ ถือเป็นหนังสือสัญญาที่กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจสังคม หรือการค้า หรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวาง ตามมาตรา 178 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ จึงต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภา ซึ่งจะเสนอต่อรัฐสภาภายในเดือนพฤศจิกายน 2563 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันวันที่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป โดยในเบื้องต้นจะมีการลงนามย่อกำกับในร่างทั้ง 2 ฉบับ เพื่อรับรองว่าเนื้อหาสาระสำคัญจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งการลงนามย่อจะไม่มีผลผูกพันใดๆกับไทย จนกว่าร่างเอกสารทั้ง 2 ฉบับจะได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาและได้มีการลงนาม . – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน