กรุงเทพฯ 28 ต.ค. – ปลัดเกษตรฯ สั่งทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง ป้องกัน และบรรเทาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากพายุโมลาเบ โดยเฉพาะพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยมาก่อนหน้านี้ หากมีฝนตกชุกให้กรมชลประทานเร่งระบายน้ำและบริหารจัดการน้ำในเขื่อนต่าง ๆ ให้อยู่ในเกณฑ์เก็บกัก ส่วนหน่วยผลิตให้เฝ้าระวังความเสียหายที่อาจเกิดต่อพืช ปศุสัตว์ และสัตว์น้ำ
นายทองเปลว กองจันทร์ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายผ่านระบบประชุมทางไกลไปยังทุกหน่วยงานทั่วประเทศให้เฝ้าระวังและพร้อมบรรเทาผลกระทบที่เกิดจากพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ โดยกำชับกรมชลประทานให้บริหารจัดการน้ำให้สัมพันธ์กับปริมาณฝน หากเขื่อนใดยังมีพื้นที่รองรับน้ำให้เก็บกักน้ำมากที่สุดสำหรับไว้ใช้ในฤดูแล้ง สำหรับเขื่อนที่มีน้ำเกินปริมาณเก็บกักให้ทยอยระบายน้ำ ซึ่งต้องระวังไม่ให้มีผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำหรือให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด อีกทั้งทำความเข้าใจประชาชนในพื้นที่ว่าเขื่อนทุกเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงและมีเสถียรภาพ เพื่อให้เกิดความมั่นใจ
นอกจากนี้ หากพื้นที่ใดได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโมลาเบ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าถึงพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อแก้ไขปัญหาเร็วที่สุด แล้วรายงานมายังศูนย์ติดตามและรายงานพิบัติภัยด้านการเกษตร ซึ่งเปิดทำงานตลอดเวลา เพื่อผู้บริหารจะได้รับทราบสถานการณ์และตัดสินใจได้ทันที
นายทองเปลว กล่าวต่อว่า นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ห่วงใยสถานการณ์น้ำจากอิทธิพลของพายุโมลาเบ เนื่องจากหลายพื้นที่ใกล้เก็บเกี่ยวข้าวแล้ว จึงสั่งการให้สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดเป็นศูนย์อำนวยการประจำแต่ละจังหวัดกำหนดแนวทางป้องกันผลกระทบต่อข้าวที่ชาวนากำลังจะเก็บเกี่ยว ด้านปศุสัตว์ให้เตรียมเสบียง ยา และพร้อมอพยพสัตว์ให้ปลอดภัย ด้านกรมประมง เตือนผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำที่อาจส่งผลกระทบต่อสัตว์น้ำที่เลี้ยงไว้ทั้งอาจหลุดรอดไป เจ็บป่วย รวมทั้งต้องให้ผู้ประกอบการเลี้ยงจระเข้ตรวจสอบความั่นคงแข็งแรงของบ่อเลี้ยงอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันไม่ให้มีปัญหาหลุดไปสร้างความกังวลใจและความเดือดร้อนแก่ประชาชน.-สำนักข่าวไทย