กรุงเทพฯ 27 ต.ค. – กอนช.ออกประกาศเตือนเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-น้ำท่วม จากอิทธิพลพายุไต้ฝุ่นโมลาเบ 28-30 ต.ค.นี้
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก และน้ำท่วมขัง ฉบับที่ 14/2563 หลังประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 1 (243/2563) ลงวันที่ 26 ตุลาคม 2563 เวลา 17.00 น. เรื่อง พายุไต้ฝุ่นโมลาเบ (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนกลางวันที่ 28 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ประกอบกับลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้มีฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
กอนช.ประเมินฝนจากแผนที่คาดการณ์ปริมาณฝน (One Map) พบว่าวันที่ 28 – 30 ตุลาคม 2563 จะมีฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง ซึ่งอาจส่งผลให้ระดับน้ำในแหล่งน้ำและลำน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากการติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ พบว่ามีพื้นที่เสี่ยงเฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำเกินความจุและน้ำหลากเอ่อล้นตลิ่งบริเวณที่ลุ่มต่ำ
เฝ้าระวังอ่างเก็บน้ำเกินความจุเก็บกัก อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 6 แห่ง ได้แก่ อ่างเก็บน้ำจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ อ่างเก็บน้ำ ลำตะคอง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำมูลบน จังหวัดนครราชสีมา อ่างเก็บน้ำขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก และอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล จังหวัดระยอง, อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง 124 แห่ง แบ่งเป็น ภาคเหนือ 10 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 76 แห่ง ภาคกลาง 4 แห่ง ภาคตะวันออก 20 แห่ง ภาคตะวันตก 11 แห่ง และภาคใต้ 3 แห่ง
เฝ้าระวังน้ำล้นตลิ่ง แม่น้ำมูล บริเวณตำบลหนองยาง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดนครราชสีมา ตำบลทุ่งกุลา อำเภอท่าตูม จังหวัดสุรินทร์ และตำบลนิคม อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์, ลำปะเทีย บริเวณตำบลอีสานเขต อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์, ลำชี บริเวณตำบลตระแสง อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์, ห้วยทับทัน บริเวณตำบลห้วยทับทัน อำเภอห้วยทับทัน จังหวัดศรีสะเกษ, แม่น้ำปราจีนบุรี บริเวณตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี, แม่น้ำบางปะกง บริเวณตำบลบางเตย อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี, คลองชี บริเวณตำบลเขาวิเศษ อำเภอวังวิเศษ จังหวัดตรัง และแม่น้ำตาปี บริเวณตำบลท่าสะท้อน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ พิจารณาบริหารจัดการน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง ขนาดเล็ก และลำน้ำต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 95% หรือเกินเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างเก็บน้ำ รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก.-สำนักข่าวไทย