นครพนม 28 เม.ย.-“จิราพร” ลงพื้นที่นครพนม สร้างการรับรู้ การดำเนินโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองอย่างมั่นคง พร้อมเดินโครงการ SML กระจายเงินลงสู่หมู่บ้านทั่วประเทศ ย้ำ หากทำดีมีมาเพิ่มอย่างแน่นอน
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดนครพนม เพื่อติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการสนับสนุนเสริมสร้างศักยภาพของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง พร้อมมอบนโยบายขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ณ ห้องประชุมไอฮอล 2 โรงแรมไอโฮเทล อำเภอเมืองนครพนม โดยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับฟังรายงานสรุปผลการดำเนินงาน และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงานโครงการฯ และกล่าวเปิดการประชุมพร้อมมอบนโยบายสำคัญ เพื่อสร้างการรับรู้ การดำเนินโครงการสนับสนุน เสริมสร้าง ศักยภาพกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองอย่างมั่นคง นอกจากนี้ ยังได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากผู้แทนเครือข่ายกองทุนหมู่บ้านฯ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนานโยบายให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนมากยิ่งขึ้น
นางสาวจิราพร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ประกาศช่วงเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 ว่าจะอัดฉีดเม็ดเงินลงสู่ชุมชน และเมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาทางสำนักงานกองทุนหมู่บ้านได้เปิดตัวโครงการ SML ที่จะจัดสรรงบประมาณปี 2568 จำนวน 11,000 ล้านบาท เพื่อกระจายลงสู่ชุมชน หมู่บ้านทั่วประเทศ โดยจัดสรรงบประมาณเป็นสามขนาด คือหมู่บ้านขนาดขนาดเล็ก (S) จำนวน 200,000 บาท หมู่บ้านขนาดกลาง (M) จำนวน 300,000 บาท และหมู่บ้านขนาดใหญ่ (L) จำนวน 400,000 บาท โดยใช้กลไกกองทุนหมู่บ้าน ให้คนในหมู่บ้านที่เป็นสมาชิกกองทุน และไม่ได้เป็นสมาชิกร่วมกันคิดและออกแบบ ว่าจะเสนอโครงการอะไรที่เป็นประโยชน์กับชุมชน ซึ่งเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชนตามหลักประชาธิปไตย อาศัยเสียงข้างมากในหมู่บ้าน ซึ่งอยากให้งบประมาณนี้เป็นงบประมาณที่ลงสู่ชุมชนอย่างแท้จริง เพื่อใช้แก้ปัญหาและพัฒนาชุมชน
นางสาวจิราพร ย้ำว่า นอกจากการจัดสรรงบประมาณให้กับชุมชนแล้ว ยังเป็นการคืนอำนาจการตัดสินใจในการใช้งบประมาณให้กับประชาชน ขอให้ใช้งบประมาณอย่างเต็มศักยภาพ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำ ว่า หากโครงการนี้สามารถดำเนินการไปได้ด้วยดี และเกิดประโยชน์กับชุมชน ยืนยันว่า ทำดีมีมาเพิ่มอีกแน่นอน พร้อมฝากเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อบุคคลที่แอบอ้าง ว่าหากทำโครงการผ่านจะต้องผ่านบริษัทฯ เท่านั้น ยืนยันไม่เป็นความจริง เรื่องนี้เป็นอำนาจของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนที่จะตัดสินใจร่วมกัน.-312.-สำนักข่าวไทย