จับตา รฟม.อุทธรณ์คดีรถไฟฟ้าสายสีส้มสัปดาห์นี้

กรุงเทพฯ 26 ต.ค. – จับตา รฟม.อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองปัญหาประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) สัปดาห์นี้ ก่อนเดือนหน้าประชุมคณะกรรมการ ม.36 สัปดาห์ถัดไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสำหรับความคืบหน้าปัญหาการเปิดประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วง บางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ภายหลังสัปดาห์ที่ผ่านมาศาลปกครองกลางมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว คดีระหว่าง บมจ.ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ (BTSC) ในฐานะผู้ฟ้องคดี กับคณะกรรมการคัดเลือกตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน 2562 และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) รวม 2 คน เป็นผู้ถูกฟ้อง โดยศาลมีคำสั่งให้ รฟม.ทุเลาการปรับหลักเกณฑ์การประเมินที่แก้ไขเพิ่มเติมไปนั้น


รายงานข่าวจาก รฟม.ระบุว่าภายในสัปดาห์นี้ รฟม.จะมีการยื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้ศาลวินิจฉัยประเด็นการปรับหลักเกณฑ์การประเมินฯ ของ รฟม. หลังจากนั้นจะมีการประชุมคณะกรรมการตามมาตรา 36 ตามที่นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. เคยระบุว่าจะมีการประชุมคณะกรรมการ ม.36 ภายในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2563 หรือก่อนวันที่ 9 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งจะเป็นวันที่ รฟม.เปิดยื่นรับซองจากเอกชน


ส่วนประเด็นที่จะมีการอุทธรณ์นั้น รฟม.เตรียมชี้แจงให้ศาลปกครองสูงสุดเห็นถึงความจำเป็นที่ต้องปรับหลักเกณฑ์ฯ ว่า จะเป็นแนวทางที่เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโครงการ ทำให้ภาครัฐได้ประโยชน์จากโครงการฯ ทั้งในแง่ของคุณสมบัติผู้ประมูลงานที่เกี่ยวพันต่อเนื่องกับคุณภาพของงานด้านเทคนิค และผลตอบแทนที่เอกชนผู้ชนะการประมูลจะให้แก่รัฐสูงสุด ซึ่งจะเป็นเกณฑ์ชี้วัดว่าเอกชนรายใดจะเป็นผู้ชนะการประมูล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่ผ่านมา รฟม.ได้เปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือก จากเกณฑ์เดิมจะเลือกผู้ยื่นข้อเสนอที่เสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐมากที่สุดเป็นผู้ชนะการประมูล เปลี่ยนมาเป็นการนำข้อเสนอด้านเทคนิคมารวมกับข้อเสนอผลตอบแทนให้แก่รัฐ โดยให้คะแนนด้านเทคนิค 30 คะแนน และด้านผลตอบแทนให้แก่รัฐ 70 คะแนน เอกชนรายใดได้คะแนนรวมมากกว่าก็จะชนะการประมูล

ซึ่งกลุ่มบีทีเอสเห็นว่าการเปลี่ยนหลักเกณฑ์การคัดเลือกดังกล่าว ทำให้เกิดข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบ และเป็นการประกาศปรับหลักเกณฑ์หลังจากมีการประกาศขายซองไปแล้ว จนเป็นที่มาในการฟ้องร้องคดีขึ้นสู่ศาลปกครองในช่วงที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.เพื่อไทย

“อนุสรณ์” ขอบคุณทุกคะแนนเสียง เลือกนายก อบจ.-ส.อบจ.พรรคเพื่อไทย เชื่อมนต์ขลัง “ทักษิณ”-ผลงานรัฐบาลแพทองธาร เป็นปัจจัยความสำเร็จ

กต.พร้อมพา 5 ตัวประกันไทยกลับบ้านเมื่อสุขภาพแข็งแรง

รมว.ต่างประเทศ เยี่ยม 5 ตัวประกันคนไทย พร้อมพาทุกคนกลับบ้านเมื่อสุขภาพร่างกายแข็งแรงดีแล้ว ขณะที่ทุกคนขอบคุณที่ทำให้ได้ชีวิตใหม่

นายกฯ ฝากรายการใหม่เทปแรก ไล่เรียงนโยบายแบบ Exclusive

“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” นักจัดรายการมือใหม่​ ฝากเนื้อฝากตัว หวังใจถึงใจกับประชาชน​ ไล่เรียงภารกิจนโยบายหลายเรื่องแบบเบื้องหลัง Exclusive 30 บาทรักษาทุกที่-บ้านเพื่อคนไทย-แก้ฝุ่น-พ.ร.ก.ไซเบอร์ ยันเงินหมื่นเฟส 3 มาแน่ รอคลังเคาะ นายกฯ รับเสียใจถูกบูลลี่เรื่องแต่งตัว​ แต่จะแต่งแบบนี้ไปทำงานให้ประชาชนมีความสุข

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอุ่นขึ้น 1-2 องศาฯ ค่าฝุ่นมีแนวโน้มเพิ่ม

กรมอุตุฯ เผยมวลอากาศเย็นมีกำลังอ่อน ส่งผลให้ไทยตอนบนอุณหภูมิสูงขึ้น 1-2 องศาฯ ขณะที่ค่าฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่ม