กรุงเทพฯ 19 ต.ค. – BPP ตามรอยบริษัทแม่ลงทุนแหล่งแอลเอ็นจีในสหรัฐ เล็งเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้า พร้อมประกาศชัดขยายลงทุนทั้งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโต แข็งแกร่ง และประเทศที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง
นายกิรณ ลิมปพยอม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาเพื่อเข้าซื้อกิจการ (M&A) โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา เพื่อต่อยอดหลังจากบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU บริษัทแม่เข้าไปลงทุนในแหล่งก๊าซธรรมชาติ (Shale Gas) ในสหรัฐ 2 แหล่ง ได้แก่ แหล่งบาร์เนตต์ (Barnett) ในรัฐเท็กซัส และหล่งก๊าซฯมาร์เซลลัส (Marcellus) ในรัฐเพนซิลเวเนีย โดยศึกษาหลายโครงการกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 800 เมกะวัตต์ต่อแห่ง ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่จะขยายการลงทุนบนพื้นฐาน 3 ข้อหลัก คือ เดินไปพร้อมบริษัทแม่,การเข้าลงทุนในประเทศที่กำลังมีการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจที่ดี เช่น จีน เวียดนาม และการเข้าลงทุนในประเทศที่ความต้องการใช้ไฟฟ้าเติบโต เช่น กลุ่มอาเซียน
นอกจากนี้ ยังเน้นเป้าหมายการลงทุนพลังงานทดแทนตามทิศทางของโลก แต่ก็ไม่ทิ้งเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ เพื่อให้สามารถมีกำลังการผลิตรวมตามเป้าหมายที่ 5,300 เมกะวัตต์ในปี 2568 จากปัจจุบันมีโครงการโรงไฟฟ้าในมือกำลังการผลิตรวม 2,800 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นเชื้อเพลิงฟอสซิล 2,400 เมกะวัตต์ และพลังงานทดแทน 400 เมกะวัตต์ และตั้งเป้าหมายผลิตจากพลังงานหมุนเวียนเพิ่มเป็น 800 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 20 ของกำลังการผลิตรวม จากปัจจุบันอยู่ที่ 400 เมกะวัตต์
นายกิรณ กล่าวด้วยว่า การลงทุนในจีนศึกษาลู่ทางลงทุนต่อเนื่อง เพื่อพร้อมลงทุนในปี 2565 เพราะขอดูผลการลงทุนโรงไฟฟ้าซานซีลู่กวง กำลังผลิต 1,320 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นส่วนของบริษัทถือหุ้น 396 เมกะวัตต์จะเริ่มผลิตไฟฟ้าไตรมาส 4 ปีนี้ และผลิตเต็มที่ปี 2564 ส่วนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในญี่ปุ่นจะผลิตปีนี้อีก 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 25 เมกะวัตต์ ได้แก่ โรงไฟฟ้า Yamagata กำลังการผลิต 20 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้า Yabuki กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ ส่วนปีหน้าจะเข้าระบบอีก 30 เมกะวัตต์ และกำลังศึกษาลู่ทางในการขยายลงทุนทั้งการผลิตไฟฟ้า และการลงทุนขายไฟฟ้าในตลาดซื้อขายไฟฟ้า
ส่วนในเวียดนาม ก็มีการศึกษาลงทุนเพิ่มเติมจากที่ปีนี้โรงไฟฟ้าพลังงานลมเอลวินหมุยยิน (El Wind Mui Dinh) ในเวียดนามกำลังการผลิต 38 เมกะวัตต์ ได้เข้ามาแล้ว และปี 2564 โรงไฟฟ้าพลังงานลมหวินเจา ระยะที่ 1 ในประเทศเวียดนาม กำลังผลิต 30 เมกะวัตต์ จะเข้าระบบไตรมาส 1/2564 พร้อมทั้งศึกษาขยายลงทุนเพิ่มอีก 50 เมกะวัตต์ และลงทุนใหม่ ๆ เพิ่มเติม นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสนใจลงทุนในประเทศอื่น ๆ อาทิ จีน ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และอินโดนีเซีย ซึ่งมองโอกาสการเข้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้า หากมีความเหมาะสมบริษัทฯ ก็พร้อมลงทุน
ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรกที่มีรายได้อยู่ที่ 5,286 ล้านบาท เป็นผลมาจากโรงไฟฟ้าหงสา หน่วยผลิตที่ 3 สามารถกลับมาเดินเครื่องได้ตามปกติตั้งแต่ไตรมาส 3/2563 หลังหยุดซ่อมบำรุงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการปี 2564 คาดว่าจะดีขึ้นจากปี 2563 จากกำลังการผลิตที่จะทยอยเข้าระบบ
สำหรับการลงทุนในไทยจะขอรอดูการปรับแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี ) ว่าจะปรับปรุงอย่างไร ส่วนการลงทุนพลังงานทดแทนและเทคโนโลยีพลังงานต่าง ๆ นั้น ก็จะลงทุนผ่านบริษัทในเครือ คือ บริษัท บ้านปู อินฟิเนอร์จี จำกัด ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท บ้านปู เน็กซ์ จำกัด ที่มีข้อตกลงในการพัฒนาทั้งระบบสำรองไฟฟ้า โซลาร์รูฟท็อฟ แอปพลิเคชั่นต่าง ๆ และเรือ-รถ ไฟฟ้า.-สำนักข่าวไทย