กรุงเทพฯ 8 ต.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดมาตรการ “ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นการใช้จ่ายชั่วคราว แต่ส่งผลจ้างงานและเอสเอ็มอีจำกัด
ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่ามาตรการ “ช้อปดีมีคืน” จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายชั่วคราว และคงมีผลประโยชน์ต่อการจ้างงานค่อนข้างจำกัด เนื่องจากผู้ผลิตอาจจะยังไม่พิจารณากลับมาผลิตเพิ่ม หากอุปสงค์ยังไม่กลับมาฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่น่าจะเป็นผู้ประกอบการขนาดใหญ่ที่อยู่ในระบบภาษี ขณะที่ผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) อาจไม่ได้รับประโยชน์ ขณะที่การฟื้นตัวของการบริโภคหลังจากมาตรการหมดลงคงกลับมาขึ้นอยู่กับแรงขับเคลื่อนพื้นฐานของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท่องเที่ยว รายได้จากการจ้างงาน และรายได้ภาคการเกษตร เป็นสำคัญ ซึ่งท่ามกลางความเสี่ยงจากสถานการณ์การแพร่ระบาดและสถานการณ์เศรษฐกิจโลก คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายในระยะข้างหน้า
ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวมีเป้าหมายที่ผู้มีรายได้ระดับปานกลางและรายได้สูง คาดว่าน่าจะช่วยกระตุ้นการบริโภคไตรมาส 4/2563 หากรวมกับมาตรการต่าง ๆ ที่รัฐบาลออกมาไม่ว่าจะเป็นมาตรการคนละครึ่ง และมาตรการเติมเงินสวัสดิการเพิ่มอีกเดือนละ 500 บาทให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รวมถึงการทยอยเปิดรับนักท่องเที่ยวจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยไตรมาส 4/2563 มีแนวโน้มดีขึ้นและหดตัวลดลงเมื่อเทียบกับ 2 ไตรมาสก่อนหน้า
อย่างไรก็ตาม มาตรการ “ช้อปดีมีคืน” น่าจะช่วยให้เกิดการระบายสินค้าคงคลัง อีกทั้งผลักดันยอดขายและเพิ่มสภาพคล่องของผู้ประกอบการต่าง ๆ ให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้นจะช่วยสร้างบรรยากาศทางเศรษฐกิจที่ดี ส่งผลให้ความเชื่อมั่นเศรษฐกิจฟื้นตัวดีขึ้น โดยภาพรวมภาคค้าปลีกน่าจะได้รับผลประโยชน์จากมาตรการนี้มากที่สุด ขณะที่ยอดใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นน่าจะส่งผลดีต่อภาคธนาคาร เนื่องจากยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตน่าจะขยายตัวมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย