สั่งรื้อรีสอร์ตรุกอุทยานฯ เขาแหลม จ.กาญจนบุรี

กรุงเทพฯ  29 ก.ย. – กรมอุทยานฯ สั่งรื้อ “พัสสาพาฎา รีสอร์ท” บุกรุกอุทยานแห่งชาติเขาแหลม จ.กาญจนบุรี ภายใน 7 วัน หากไม่ดำเนินการจะเข้ารื้อถอน เพื่อนำพื้นที่มาฟื้นฟูสภาพป่า


นายนิพนธ์ จำนงสิริศักดิ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) กล่าวว่า ได้นำนายเทวินทร์ มีทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลม พร้อมเจ้าหน้าที่ 10 นาย ติดป้ายประกาศคำเตือนให้ทายาทโดยธรรมหรือผู้จัดการมรดกของนางสาวจารุภา เดชจินดา เจ้าของรีสอร์ต ชื่อ “พัสสาพาฎา รีสอร์ท” ต.ชะเล อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ซึ่งบุกรุกพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาแหลมภายใน 7 วัน

ทั้งนี้ อุทยานแห่งชาติเขาแหลมตรวจสอบพบการบุกรุกเมื่อวันที่ 27 กรกฎคม 2559 หลังได้รับแจ้งว่ามีอดีตพลตรีหญิงบุกรุกอุทยานฯ เพื่อสร้างรีสอร์ต 17 หลัง ในพื้นที่ 2 ไร่ 3 งาน จึงเข้าตรวจยึดและดำเนินคดี โดยมีนางสาวจารุภา เดชจินดา เป็นผู้แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของ แต่จากการตรวจสอบเชิงลึกทราบว่านางสาวจารุภา เป็นนอมินีของอดีตพลตรีหญิงเจ้าของรีสอร์ตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนสอบสวนการเชื่อมโยงของผู้แสดงตัวเป็นเจ้าของกับผู้ครอบครองตัวจริง


คดีดังกล่าวศาลจังหวัดทองผาภูมิพิพากษา เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2561 ว่า นางสาวจารุภา กระทำผิดฐานบุกรุกอุทยานแห่งชาติฯ มีโทษจำคุก 6 เดือน และปรับ 30,000 บาท สำหรับโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ มีกำหนด 2 ปี อีกทั้งให้จำเลยและบริวารออกจากป่าที่เกิดเหตุและชดใช้ค่าเสียหาย สิ่งแวดล้อมแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช 103,379 บาท  ต่อมานางสาวจารุภา อุทธรณ์ ซึ่งศาลอุทธรณ์ภาค 7 มีคำพิพากษายืนโทษจำคุก 6 เดือน โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ส่วนค่าปรับลดลงเหลือ 10,000 บาท เมื่อจำเลยไม่ฎีกาต่อศาลฎีกา คดีจึงถึงที่สุด

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมใช้มาตราการทางปกครองประกาศคำสั่งรื้อถอนรีสอร์ตดังกล่าว คำสั่งที่ 103 /2560 ลงวันที่ 7 กันยายน 2560 และประกาศแจ้งเตือน ลงวันที่ 15 เมษายน 2563 โดยทางอุทยานแห่งชาติเขาแหลมทราบข่าวว่า นางสาวจารุภา เสียชีวิต ดังนั้น กองมรดกย่อมตกแก่ทายาทโดยทันที ทำให้การรื้อถอนรีสอร์ตจึงเป็นสิทธิหน้าที่และความรับผิดชอบซึ่งตกอยู่ที่ทายาทโดยธรรมของผู้ที่ได้รับมรดกของนางสาวจารุภา

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาแหลมส่งจดหมายประกาศคำเตือนไปให้ทายาทโดยธรรมของนางสาวจารุภาให้ทราบในเรื่องแล้ว รวมทั้งติดประกาศคำเตือนอีกครั้งหนึ่งในพื้นที่ที่ถูกบุกรุก หากพ้น 7 วัน ทายาทของนางสาวจารุภา ยังไม่ดำเนินการ จะนำกำลังเจ้าหน้าที่เข้ารื้อถอนทันที ซึ่งผู้ครอบครองต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน 200,000 บาท ให้ทางราชการด้วย


นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า เมื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกแล้ว จะนำพื้นที่มาปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูให้กลับคืนเป็นสภาพป่าดังเดิม ตามนโยบายของนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ให้ดำเนินคดีนายทุนผู้บุกรุกป่าอย่างเด็ดขาด จากนั้นให้ฟื้นฟูพื้นที่ที่ยึดคืนมา เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าและสร้างความยั่งยืนทางทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้คนไทยทั้งประเทศ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบนายกฯ

“โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 เข้าพบ “แพทองธาร” นายกฯ ชื่นชมเป็นคนเก่ง-มองโลกบวก เป็นหน้าตาของประเทศ นำเสนอวัฒนธรรม-ซอฟต์พาวเวอร์ ผ่านการประกวด พร้อมชวนร่วมงานรัฐบาล สร้างแรงบันดาลใจเด็กๆ ขณะที่ นายกฯ เขินถูกชมว่าตัวจริงสวย

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่