ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 25 ก.ย. – ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,244.94 จุด ลดลง 2.52 จุด (-0.20%) มูลค่าการซื้อขาย 45,623.65 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีขึ้นสูงสุดที่ 1,256.40 จุด และลงต่ำสุดที่ 1,241.66 จุด
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าปรับตัวขึ้นตามตลาดต่างประเทศตอบรับความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐคาดหวังจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในสภาในสัปดาห์หน้าอีกรอบ ทำให้ตลาดสหรัฐฯเริ่มเก็งกำไรกัน และตลาดในเอเชียก็พยายามฟื้นตัวขึ้น แต่ตลาดบ้านเราไปได้ไม่ไกลเนื่องจากเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยการเมืองในประเทศกดดัน
นอกจากนี้ สัปดาห์หน้าตลาดฯก็อาจจะผันผวนจากสัญญาฟิวเจอร์สหมดอายุ และในวันที่ 1 ต.ค.นี้ก็จะเริ่มกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของ Short Sell ทำให้เริ่มเห็นการสะสมช็อตเซลมากขึ้นวอลุ่มทะลุ 1 พันล้านบาทเมื่อวานนี้ จากเดิมอยู่ในระดับแค่ 500-600 ล้านบาท ด้วยความเสี่ยงและปัจจัยลบที่รออยู่ทำให้เล่นขา Short ง่ายกว่า
สำหรับการเทรดบ่ายนี้ตลาดในภูมิภาคเคลื่อนไหวทั้งบวก-ลบ ส่วนตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่ดาวโจนส์ฟิวเจอร์สยืนบวกได้เล็กน้อย ซึ่งทางฝั่งยุโรปยังมีความเป็นห่วงการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ระลอก 2 ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะผันผวน จากการปิดสัญญาฟิวเจอร์ส, การปิดงบฯไตรมาส 3/63 และก็จะกลับมาใช้เกณฑ์ปกติของ Short Sell ด้วย ทำให้เริ่มเห็นโมเมนตัมขาลงมากขึ้น แต่ยังมีลุ้น Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/63 มองว่าอาจมีการทำเป็นรายตัว แต่เห็นได้ชัดว่านักลงทุนสถาบันเริ่มถอย และยังต้องติดตามความคืบหน้ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ พร้อมให้แนวรับ 1,220 จุด ส่วนแนวต้าน 1,270 จุด
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 982.27 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 398.09 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 870.69 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 1,454.87 ล้านบาท. – สำนักข่าวไทย